Aesop Summer Skincare Workshop ✨ ชวนส่องเคล็ดลับผิวสวยช่วงฤดูร้อนสไตล์ Aesop

มาถึงงานที่เราตื่นเต้นมากที่สุดในโลกก เพราะ Aesop แบรนด์โปรดของเราชวนมาทำ Summer Skincare Experience Workshop กับทางแบรนด์ค่ะ ❤️

งานครั้งนี้จัดที่ร้าน Cuisine de Garden ในซอยเอกมัย บรรยากาศร้านสวยงาม decoration ต่างๆ เข้ากับ concept ของแบรนด์ สมกับเป็น Aesop จริงๆ

Workshop วันนี้จะเป็นการแนะนำการดูแลผิวในช่วงฤดูร้อนตามแบบฉบับของ Aseop 

ข้างหน้าเอิร์กมี product ให้ลองเล่นเยอะมาก ราวกับว่ายกเค้าเตอร์มาไว้ที่นี่กันเลยทีเดียว 

ซึ่งจุดนี้เราฟินสุดๆไปเล้ยย >< 

ก่อนเริ่มจะมีพี่ๆ consultant มาพูดคุยเพื่อวิเคราะห์ลักษณะผิวของเราอย่างคร่าวๆ 

พร้อมกับเลือก product ที่จะให้เราได้ทดลองใช้กันในวันนี้ค่ะ

ความพิเศษของ Workshop นี้ก็คือเราจะได้ลอง product ทุกตัวบนผิวหน้าเราเลย ซึ่งจะบอกว่าความรู้สึกมันแตกต่างจากการลองเล่นที่มือหรือที่แขนมากกก เราได้รู้สัมผัสจริงว่า product ต่างๆ ใช้งานยังไง พออยู่บนหน้าเราแล้วรู้สึกเป็นยังไง ซึ่งทางนี้ก็ฟินกันไปค่ะ อิอิ

Key หลักของ Summer Skincare ที่ทาง Aesop เน้นก็คือการ make sure ว่าผิวเราได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก โดยที่ไม่ทำร้านผิวมากเกินไป 

ทางแบรนด์ยังได้แชร์เคล็ดลับในการ Mix & Match ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตอบสนอง

ความต้องการของผิวเราในแต่ละวันอีกด้วยค่ะ

Purifying Facial Cream Cleanser

ตัวนี้เป็น facial cleanser ที่เราสามารถใช้ล้างหน้าได้ทุกวัน ลักษณะเป็นเนื้อครีมสีขาว ซึ่งอุดมไปด้วย fatty acid และ antioxidants ที่มีประโยชน์ต่อผิวเรามากๆ พอนวดไปที่หน้าจะไม่มีฟอง ช่วงหลังเราอินกับ cleanser ประเภทนี้มาก เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยนแล้ว พอล้างออกแล้วผิวจะนุ่มมากก รู้สึกเหมือนได้บำรุงผิวไปในตัว ซึ่ง Cream Cleanser ของ Aesop ตัวนี้ก็ทำได้ดีค่ะ 

___

Remove

ส่วนตัว Remove เป็นน้ำมันที่มีส่วนประกอบจาก blue chamomile ใช้เป็น point makeup remover สามารถละลาย makeup เช่นมาสคาร่ากันน้ำได้ เราลองใช้แล้วสะอาดดีค่ะ แถมไม่ระคายเคืองตาเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆที่เราใส่คอนแทคเลนส์อยู่ ถือว่าเป็นอีก item ที่เราชอบมากจากงานนี้เลยแหละ

ทั้งสองตัวนี้สามารถน้ำมาผสมกันเพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึกมากขึ้นได้ด้วย เราสามารถนวดวนๆ จนกว่า makeup จะละลายแล้วล้างหรือเช็ดออกได้เลย หน้าสะอาดแถม

ผิวนุ่มมากๆเลยค่ะ ❤️

ต่อมาคือขั้นตอน Deep clean จริงๆแล้วค่ะ

เราจะมาทำการมาร์คหน้ากัน ส่วนตัวเอิร์กเป็นคนผิวผสม พี่ consultant แนะนำให้เอิร์กใช้ตัว Primrose Facial Cleansing Masque เพื่อทำการ DIY deep clean mask

Primrose Cleansing Masque

จะเป็นมาร์คที่มี base เป็นโคลน เหมาะกับผิวผสม-มัน มาร์คตัวนี้จะช่วยทำความสะอาดผิวและดูดซับความมันส่วนเกินบนผิวเราอย่างล้ำลึกค่ะ 

__

Tea Tree Leaf Facial Exfoliant

ตัวนี้จะว่าเป็นเม็ดสครับก็ได้ มันคือเมล็ด walnut และใบชาเขียวบดละเอียด สามารถผสมลงไปใน product ต่างๆเพื่อทำการผลัดเซลล์ผิวแบบ physical

__

Purifying Facial Cream Cleanser

ครีมล้างหน้าคนดีคนเดิม ตัวนี้สามารถนำมามาร์คหน้าได้อย่างที่บอก การเพิ่มครีมล้างหน้าตัวนี้ไปจะช่วยทำให้ผิวเราไม่แห้งเกินไป และยังเป็นการบำรุงผิวไปในตัวด้วย 

เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูประหว่างการทำ workshop มาให้เพื่อนๆได้ดูกันทั้งหมด เพราะเอิร์กอยากตั้งใจฟังพี่ๆ product manager เล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของแบรนด์และเคล็ดลับการใช้ product ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตื่นเต้นไปหน่อยก็เงี้ยย TT

หลังจากขั้นตอนมาร์คหน้าเสร็จพี่ๆก็ได้ทำการแนะนำ toner และ moisturizer สำหรับหน้าร้อนให้พวกเราฟังกันค่ะ

Blue Chamomile Facial Hydrating Masque

ตัวนี้คือมาร์คที่ช่วยเรื่องการปลอบประโลม ปรับสมดุล และเติมน้ำให้ผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว ซึ่งเราไม่เถียงเลยค่ะค่ะ เพราะเอิร์กเป็นหนึ่งคนที่เชื่อเสมอว่าความชุ่มชื้นคือพื้นฐานหลักของผิวที่ดี 

ความจริงแล้วควรทิ้งไว้สัก 30 นาที แต่ที่ workshop เวลามีไม่มาก เราทิ้งไว้แค่ประมาณ 10 นาทีเอง พอเช็ดออกรู้สึกได้เลยว่าผิวมีชีวิตชีวา มีความ bouncy ขึ้นมากๆ ถือว่าเป็นอีก item นึงที่ควรสอยจากเค้าเตอร์เลยแหละ หุหุ

หลังจากทำ workshop เสร็จ ก็ได้ทานอาหารสุดอร่อยฝีมือคุณเชฟเจ้าของร้าน Cuisine de Garden ซึ่งน่าตาดีและอร่อยมากๆ

ก่อนกลับบ้านทาง Aesop ยังได้ให้ของขวัญที่ระลึกเป็นคำขอบคุณจากทางแบรนด์ น่ารักมากๆ <3 เป็น body oil สุด exclusive ที่ไม่มีขายแหละทุกคน! กรี๊ดสลบบ กลับบ้านมาคือใช้เลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเห่อแค่ไหน!

ถือว่าวันนี้กลับบ้านกันอย่าง happy มากๆ เพราะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่อง skincare กับทีม Aesop และเพื่อนๆ ที่มาร่วมงานกันอย่างจัดเต็ม แถมยังโดนป้ายยาอีกด้วย 5555 

เอิร์กอยากจะขอขอบคุณทาง Aesop ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ขึ้นมา เราสัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อน ความใส่ใจ และความเป็นกันเองของทางแบรนด์ การมางานในครั้งนี้บอกเวลาว่ารัก Aesop มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าเลยค่ะ <3