{✼ review จัดเต็ม✼} La Mer The Concentrate ตัวช่วยกู้ผิวหน้าพัง !!

สวัสดีค่ะ สาวๆจีบันทุกคนน  (ﾉ◕ヮ◕)ﾉ*:･ﾟ✧

เนื่องจากแต้มบุญหล่นทับได้มีโอกาสได้รับผลิตภัณฑ์ที่เป็นสุดยอดไอเท็มเด็ดจาก Jeban มาทดลองใช้ค่ะ งานนี้เลยขอทำ Review จัดเต็ม เพื่อแชร์ประสบการณ์จากการทดลองใช้จริงเพื่อเป็นข้อมูลให้สาวๆ และหนุ่มๆไว้ประกอบการตัดสินใจนะคะ ว่าจะไปต่อหรือหยุดก่อน  

เชิญรับชมค้าบบบบヾ(＾-＾)ノ

สำหรับไอเท็มที่ว่านี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นสกินแคร์ตัวเทพที่หลายๆคนใฝ่ฝันว่าอยากจะลองใช้ซักครั้ง (รวมถึงเราด้วย) ความเทพที่ว่านี้นอกจากจะหมายถึงตัวคุณสมบัติของเค้าแล้วยังคงหมายรวมถึงราคาด้วยเช่นกัน  เอาล่ะ เกริ่นมาซะยืดยาวไปทำความรู้จักกับสุดยอดไอเท็มตัวนี้กันเลยค่ะ​​​​​

“La Mer The Concentrate :: ลาแมร์ เดอะ คอนเซินเทรท “

☆» คุณสมบัติหลัก

"เซรั่มทรงคุณค่าสูตรเดิมที่หลายคนหลงรัก ในดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากสาหร่ายซีเคลป์ ช่วยฟื้นบำรุงผิวด้วย Miracle Broth™ ส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์ของลาแมร์ ในรูปแบบเข้มข้นพิเศษ จึงช่วยฟื้นบำรุงและปลอบประโลมผิวได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผิวที่เคยบอบบางกลับดูสุขภาพดีขึ้นจนรู้สึกได้"

แค่อ่านคำโปรยจากแบรนด์ก็รู้สึก Wowww เลย ✧ (*❦ω❦)✧ ชื่อผลิตภัณฑ์ก็ตั้งได้สื่อความหมายชัดเจนว่า ‘Concentrate’ ซึ่งโดยทั่วไปคำนี้ หมายถึง ตั้งใจ,จดจ่อ หรือมีสมาธิ แต่คำนี้ยังมีความหมายอีกแบบหนึ่ง คือ หมายถึง น้ำ(ผลไม้) เข้มข้น หรือกระบวนการทำให้น้ำระเหยกลายเป็นน้ำผลไม้เข้มข้น ซึ่งทำให้เราสนใจและลองไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติและส่วนประกอบของ La Mer The Concentrate  มาค่ะ

Part นี้หลายๆคนอาจจะทราบประวัติและที่มาของสูตรลับผลิตภัณฑ์ La mer มาแล้ว สามารถข้ามไปได้เลยนะคะ เราขออนุญาตแชร์ข้อมูลที่ค้นหามาให้กับบางคนที่อาจจะยังไม่ทราบและสนใจอยากอ่านค่ะ

น้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ คืออะไร มีที่มาอย่างไร?

เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจาก ดร. แม็กซ์ ฮูเบอร์ (Dr. Max Huber) นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ด้านกระสวยอวกาศของ NASA ได้ประสบอุบัติเหตุในห้องทดลองทำให้มีรอยแผลเป็นไฟไหม้ จากนั้นเขาจึงได้ค้นหาวิธีฟื้นบำรุงผิวหน้าด้วยตัวของเขาเอง โดยดร. ฮูเบอร์ ได้ทดลองนำสาหร่ายซีเคลป์ (Kelp)  มาผ่านกระบวนการหมักบ่มเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี  โดย ดร. ฮูเบอร์ กล่าวไว้ว่าในทุกเซลล์ของสาหร่ายซีเคลป์เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าในการฟื้นบำรุงผิวค่ะ หลังจากการทดลองที่ยาวนานกว่า 10 ปี ในที่สุดก็เกิดเป็นน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ ซึ่ง ดร. ฮูเบอร์ ได้ทดลองใช้น้ำสกัดเข้มข้นที่ได้นี้กับแผลไฟไหม้ของตัวเองและค้นพบว่ารอยแผลไฟไหม้ดีขึ้น และเรื่องราวการฟื้นบำรุงผิวของเขาได้ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นสุดยอดสกินแคร์ตัวเทพในปัจจุบันนี้นั่นเองค่ะ

ที่มา: LaMerThailand 

เล่าถึงความเป็นมาจบแล้ว ในที่สุดก็กลับเข้าสู่โหมด Review กันต่อเลยนะคะ สำหรับ Tester ได้รับมาเป็นขนาด 3ml. หลอดเล็กๆจิ๋วๆ แต่ประสิทธิภาพไม่น่าจะจิ๋วตาม โดยจากคุณสมบัติ ส่วนผสม คำโปรยและรีวิวจากหลายๆคน เราขอนิยามว่า La Mer The Concentrate เป็นตัว Booster หรือตัวช่วยกู้ผิวหน้าพังนั่นเอง ไม่ว่าหน้าจะพังโดยมีร่องรอยอารยธรรมจากสิว ผดผื่นจากการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้เครื่องสำอาง มลภาวะ etc. ที่ทำให้หน้าโทรม ไม่สดชื่น ยับเยินเหมือนไปออกรบกู้ชาติมา รวมถึงสาวๆบางคนไปทำเลเซอร์ผิวหน้ามาต้องการเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้าแบบเร่งด่วน ไอเท็มตัวนี้แหละจะเร่งกู้ผิวหน้าให้กลับมาสดใสและยังเสริมความแข็งแรงให้อีกด้วย (゜∀゜)!!!

เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นเจลใส มีความหนืดเล็กน้อย เมื่อทดสอบเกลี่ยดูเบาๆพบว่าซึมซาบเข้าสู่ผิวไวมาก ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้เลย ความรู้สึกของผิวหลังจากเกลี่ยจนทั่วแล้วพบว่าให้เนื้อสัมผัสผิวที่ลื่นและมีความชุ่มชื่นอยู่พอประมาณค่ะ ส่วนกลิ่นนั้นออกเป็นกลิ่นสมุนไพรประมาณนี้ค่ะ 555 ใครที่เคยใช้ Cushion ของ Innisfree เราว่ากลิ่นคล้ายกันเลยค่ะ คือเราคิดว่าเค้าเป็น Serum ที่มีสารสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ กลิ่นเลยอาจจะไม่ถูกใจบางคนนะคะ บางคนอาจจะคิดว่ากลิ่นแรงไป ส่วนตัวเราไม่มีปัญหาค่ะ ( ´ ▽ ` )b

☆» START ! เริ่มทดลองใช้กับผิวหน้ากันเลย  （＾³＾）～♪ 

สภาพผิว : เราเป็นคนผิวแห้งค่ะ ยิ่งช่วงหน้าหนาวคือแห้งหนักมากจนแต่งหน้าแทบไม่ติดบางวันทาแป้งไม่ได้เลยค่ะเพราะจะเป็นคราบหนักมาก มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ รูขุมขน มีริ้วร้อย ความอ่อนล้าจากความเครียดและนอนดึกค่ะ นอกจากนี้แล้วช่วงที่เริ่มใช้เป็นช่วงที่เชียงใหม่อากาศเข้าสู่ภาวะวิกฤต เจอฝุ่นควันที่เป็นมลพิษอย่างรุนแรงจนมีผดผื่น รอยแดงจากอาการแพ้ฝุ่นตามมาอีก เรียกว่าหน้าพังยับเยินของจริงเลย ಥ_ಥ 

หน้าสดได้อีก อายมากกกก แต่ตั้งใจจะทำรีวิวแล้ว สู้ตายค่ะณ จุดนี้ヽ༼ಥ_ಥ༽ﾉ

☆» How to use 

ตอนเช้า : หลังจากใช้ Toner และ Essence ก็ตามด้วย La Mer The Concentrate เป็น Serum ปิดท้ายโดยสามารถใช้เป็น Primer  ก่อนแต่งหน้าหรือลงรองพื้นได้ 

*Tip* เราเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าในช่วงกลางวันด้วยการใช้สเปรย์น้ำแร่ค่ะ เพราะถึงเราจะมีผิวหน้าแห้งแต่ในสภาวะที่ร้อนระอุแบบนี้จะให้ลง Cream/Moisturizer หนักๆในตอนเช้าก่อนออกบ้านก็รู้สึกเหนอะหนะหน้าไปค่ะ ** 

ก่อนนอน : หลังจากใช้ Toner และ Essence ก็ตามด้วย La Mer The Concentrate เป็น Serum เพื่อฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ โดยถ้าใครผิวหน้าแห้งแบบเราแนะนำให้ลง Cream หรือ Moisturizer ตามด้วยนะคะ เพราะส่วนตัวเราว่าตัวนี้มีความชุ่มชื่นที่ยังไม่เพียงพอกับผิวหน้าอันแสนจะแห้งกรังของเราค่ะ 

☆»  RESULT ! 

หลังจากทดลองใช้คืนแรก โดยหลังจากใช้ Toner และ Essence ก็ตามด้วย La Mer The Concentrate เป็น Serum โบกปิดท้ายค่ะ เบื้องต้นคือรอยแดง ผดผื่น จางลง และเราได้ทดลองใช้ต่อเนื่องโดยใช้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ผลลัพธ์คือรู้สึกว่าผิวหน้ากลับมาสดใสขึ้น รอยแดงจากผดผื่นลดลง เหมือนคนได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ 12 ชั่วโมง ถถถ  แต่เรื่องของจุดด่างดำ ริ้วรอยลึกบริเวณใต้ตาและร่องแก้ม รวมถึงปัญหารูขุมขนพวกนี้ ยังไม่เห็นผลที่แตกต่างจากเดิมมากนักคงต้องทดลองใช้ไปอีกยาวๆ ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ ณ ตอนนี้เราค่อนข้างพอใจค่ะ 

d(>_･ )ｸﾞｯ! 

//ต้องขออภัยด้วยเรื่องของมุมกล้องและแสงของแต่ละวันนะคะ ถ่ายรูปด้วยความรีบเร่งค่ะ ไม่งั้นไปทำงานสายแน่ๆ ಠωಥ

☆»  มาดูผลการใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้ากันค่ะ 

จากเดิมที่สภาพผิวหน้าของเราทั้งแห้งทั้งพังแต่งหน้าไม่ค่อยติด ได้ La Mer The Concentrate ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นไพรเมอร์ไปในตัว ช่วยให้รองพื้นและเครื่องสำอางติดทนมากขึ้นค่ะ โดยปกติเราไม่ค่อยเติมแป้งระหว่างวัน เพราะหน้าแห้งยิ่งเติมยิ่งคราบถึงจะมีสเปรย์น้ำแร่ช่วยก็ตาม เราจะใช้ทิชชู่ซับๆเหงื่อออกเท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เช้าออกบ้าน 8 โมง จนถึงช่วงค่ำๆตอนกลับถึงบ้านแล้ว หน้ายังกริ๊บอยู่เลย มีคราบๆบ้างตามร่องจมูกและตรงแก้มข้างๆจมูกแต่เราโอเคมากๆแล้วค่ะ ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย d(>_< )Good!! 

Note: หลังจากเราใช้ La Mer The Concentrate แล้วเราลงตามด้วยครีมกันแดด คอนซีลเลอร์ใต้ตา และแป้งผสมรองพื้นค่ะ

☆» SUMMARY !

สรุปผลการทดลองใช้ La Mer The Concentrate ติดต่อเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งใช้จริงด้วยตัวเองค่ะ โดยแต่ละหัวข้อให้คะแนนเต็ม 5 นะคะ

Note อีกครั้ง : สภาพผิวของเราคือผิวแห้ง แพ้ง่าย มีรอยแดงจากผดผื่นบ้างค่ะ

 

หัวข้อ	คะแนนเต็ม 5 ✰✰✰✰✰
ซึบซาบเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ	✰✰✰✰✰
ให้ความชุ่มชื่น	✰✰✰
ควบคุมความมัน	✰✰✰✰
อุดตัน	✰✰✰✰
ใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย	✰✰✰✰
กลิ่น	✰✰✰

☆» ข้อดี  ( ´ ▽ ` )b

จากการที่ทดลองใช้ทั้งตอนเช้าก่อนแต่งหน้าและก่อนนอน ส่วนตัวเราชอบผลลัพธ์ที่ใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้ามากกว่าค่ะ เพราะด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเจล เมื่อเกลี่ยไปแล้วจะรู้สึกผิวลื่นๆ ฟีลเดียวกับไพรเมอร์เลยค่ะ นอกจากช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวแล้วยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นอีกด้วยค่ะ จากเดิมที่เคยทารองพื้น ทาแป้งแล้วเป็นคราบๆตัวนี้เอาอยู่เลยค่ะ เอาทิชชู่ซับๆเหงื่อหน้ายังเป๊ะตลอดทั้งวัน  ･:*:･ﾟ☆ｄ(≧∀≦)ｂﾟ+.ﾟｲｲ 

ประสิทธิภาพการฟื้นฟูผิวอยู่ในระดับที่น่าพอใจค่ะ รอยแดง ผดผื่นจางลงอย่างเห็นได้ชัด เราใช้แล้วไม่แพ้ เหมาะกับวันไหนที่รู้สึกผิวหน้าอ่อนล้า ต้องการตัวช่วยบำรุงแบบเร่งด่วนก็จัดตัวนี้ไปเลยค่ะโบกไว้ก่อนนอน ตื่นเช้ามาสภาพผิวหน้าดีขึ้นเหมือนได้รับการซ่อมแซมอย่างด่วนจี๋ เช่น ถ้าอีกวันมีแพลนจะไป Event สำคัญต่างๆที่เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องเป๊ะ โบก La Mer The Concentrate ไว้เลยค่ะ เป็นตัวช่วยอีกตัวหนึ่งที่จะกู้หน้าพังๆได้กลับมาปิ๊งได้ในชั่วข้ามคืน 

//เพราะจะให้ใช้ทุกวันก็รู้สึกเปลืองนิดหน่อย แห่ะๆ

☆» ข้อเสีย  |ω･`)

ถ้าให้พูดถึงข้อเสียของ La Mer The Concentrate เราขอติเรื่องความชุ่มชื่นที่ได้นะคะ เพราะคำโปรยได้กล่าวไว้ว่าเป็นตัวบำรุงผิวสุดเข้มข้น ทางเราก็คาดหวังว่าประสิทธิภาพให้ความชุ่มชื่นและปลอบประโลมผิวต้องมาเต็มแน่นอน แต่ผลคือผิดหวังตรงนี้ค่ะ เนื้อเจลที่ซึมไวให้ผิวสัมผัสเหมือนใช้ไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้า แทบไม่ทิ้งความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าเราเลยค่ะ มีอยู่บ้างแต่รู้สึกว่าน้อยไป  สาวๆบางคนบอกว่าก่อนนอนโบกตัวเดียวอยู่แต่ของเราชาวผิวแห้งต้องมี Moisturizer ตามค่ะ 

(´・ω・｀) 

  

ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งที่เราคิดไว้คือเรื่องราคาค่ะ ตอนแรกก็ลังเลว่าจะใส่ส่วนนี้เป็นข้อเสียดีไหมนะ แต่เท่านึกๆดูในการที่เราจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะสกินแคร์หรือเครื่องสำอางปัจจัยหลักๆที่จะให้เราตัดสินใจซื้อนอกจากคุณสมบัติของตัวผลิตภัณฑ์เองแล้ว ก็ต้องมีเรื่องราคาเข้ามาตัดสินด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้น เราขอนำเรื่องของราคามาเป็นข้อเสียนะคะ โดยอย่างที่รู้กัน La Mer เป็น Hi-end Brand ที่ราคาสูงลิบลิ่ว หลายคนก็ขอเซย์กู๊ดบายเพราะสู้ราคาไม่ไหว ซึ่งเราเองก็ขอวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมานะคะว่าถ้าหากอยากจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวดีๆซักตัว ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่อาจจะเหมาะกับสภาพผิวของคุณมากกว่าในราคาที่คุณสามารถรับได้และยินดีที่จะจ่าย แต่ถ้าใครอยากจะลองใช้ La Mer The Concentrate  เราก็ไม่ขัดนะคะ 555 แต่แนะนำว่าลองใช้เทสเตอร์ก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าคุณใช้แล้วรู้สึกว่า เห้ย ใช่เลย!นี่แหละที่ตามหามานาน ถึงตอนนั้นค่อยถอยไซส์จริงมาซึ่งก็ยังไม่สายไปค่ะ 

// พิมพ์แบบนี้ไป เค้าจะนกของรางวัลมั๊ยเนี่ย แง้ ლ(ಥ益ಥლ) 

จบการรีวิวแล้วค่ะ 

ขอขอบคุณ Jeban.com ที่แจกของรางวัลให้พวกเราได้ทดลองใช้กันฟรีๆ 55 และมีกิจกรรมดีๆให้พวกเราร่วมสนุกอยู่เสมอนะคะ Jeban เริ่ดที่ซู้ด!!

＼(((￣(￣(￣▽￣)￣)￣)))／

และสุดท้ายจริงๆแล้วค่ะ นานน๊านนนเราจะทำรีวิวที ( ปีละครั้งได้) การถ่ายรูป มุมกล้อง แสงและองค์ประกอบภาพอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นะคะ ตรงนี้ต้องขออภัยด้วยจริงๆค่ะ ถ้ามีข้อแนะนำ ติชม ตรงไหน บอกได้นะคะจะได้นำไปปรับปรุงในครั้งต่อๆไปค่ะ（＾－＾✿）

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

Thank you…(´人｀●)SOOOOO━━＼(´∀｀●)／━━MUCH!!

#JebanXLaMer  

#LaMerTheConcentrate

PS. เค้าตั้งใจทำ หาข้อมูล ถ่ายรูป พิสูจน์อักษรเรียบเรียงอยู่หลายรอบมาก ถ้าจะนำบทความออกไปแปะที่อื่น นำไปดัดแปลงเนื้อหา ช่วยบอกเค้าให้รับทราบก่อนและแปะเครดิตให้เค้าด้วยน้า ถึงรีวิวของเค้าจะธรรมดาๆ แต่เค้าก็ตั้งใจทำจริงๆ ยินดีให้ทุกคนแชร์บทความของเค้านะคะ แต่ขอแปะเครดิตให้เค้าด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ˚‧º·(˚ ˃̣̣̥⌓˂̣̣̥ )‧º·˚