Review Lipstick 23 แท่งกับปากเดียว (ผู้หญิงจะมีลิปกี่แท่งก็ได้จ้า)

25 6
หลังจากที่คิดอยู่นานว่าจะทำ review นี่ดีไหม ก็ตัดสินใจทำสักที ไอ้ตัวเราก็เชื่อว่าผู้หญิงอย่างเราๆ นั้นต้องมีโมเมนต์ปลาบปลื้มเครื่องสำอางแต่ละอย่างที่ไม่เหมือนกัน บางคนเห็นบลัชออนไม่ได้ต้องซื้อเก็บ บางคนเห็นพาเลทอายชาโดไม่ได้เลยต้องเหมามาอยู่ในคอลเลคชั่น ซึ่งส่วนตัวของเรานั้นเห็นลิปไม่ได้เลยเช่นกันก็ต้องถอยมาถึงแม้ว่ามันจะเป็นเฉดสีเดียวกันกับที่มีอยู่แล้วก็ตาม แม้มีอยู่ปากเดียวแต่ก็มีลิปสติกเป็นกระบุง บอกก่อนว่า "ไม่มีสปอนเซอร์" นะคะ ซื้อมาใช้เองปลื้มเองและเจ็บเองก็มีเยอะค่ะ
แน่นอนว่าเราก็ต้องมีให้คะแนนกันหน่อย โดยที่จะให้จาก 1-5 ☆ ซึ่งคะแนนที่เราจะให้ในครั้งนี้เป็น "ความคิดเห็นส่วนตัว" และขอแบ่งเป็นหัวข้อๆ ดังนี้
(ข้อนี้สำหรับเราสำคัญมากค่ะ จะรวมทั้งความทนทานและความสวยงามเอาไว้ด้วย เพราะบางทีต้องพกพาเหล่าน้องๆไปข้างนอก บางยี่ห้อนี่แค่หมุนออกมาก็หลุดจากเบ้าเลย ปลอกหลุดปลอกแตก ใช้ไม่ได้ไปอีก และมันส่งผลต่อราคาและความคุ้มค่าเพราะเราต้องก็ต้องการใช้เขาไปยาวๆ ค่ะ)
ปล. 5 จำราคา net ตอนซื้อไม่ค่อยได้ เพราะบางทีเราซื้อที่สนามบินบ้าง ในช็อปของแต่ละประเทศนั้นๆ บ้าง ค่าเงินก็ผันผวน หรือบางทีซื้อตอนลดราคา อะไรหลายๆ อย่างเลยระบุไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
มาดูที่กลุ่มแรกกัน จะเป็นพวกเนื้อ shine มันวาวๆ ค่ะ

CHANEL : ROUGE COCO SHINE สี 477 REVEUSE ราคาโดยประมาณ 1200 บาท
ปากฉ่ำมากกกกกก ชุ่มมากกกกก เนื้อบาล์มของลิปพอโดนปากแล้วเหมือนเขาจะละลายเหลวแตกเป็นน้ำ สีที่เราซื้อออกไปทางนู้ด มีกลิตเตอร์เนื้อละเอียดอยู่ด้วยซึ่งติดทนดีจริงๆ ก็เลยออกมาแวววาวเหมือนปากเราสุขภาพดี ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ เพราะเป็นเนื้อ shine เลยบางเบามาก หากต้องการให้เห็นสีต้องทาซ้ำหลายรอบ สีนี้ทาเดียวๆ อาจจะดูป่วย ควรทา top บนลิปเนื้อแมทที่โทนเข้มขึ้นมาอีกสักหน่อยจะสวย ×2 ส่วนเรื่อง packgage นี่ไม่ต้องพูดถึงเป็นโลหะแน่นหนามากแถมสวยหรู มีตรา Chanel พร้อม หรูหราหมาเห่าตามสไตล์ ล่วงตกปลอกไม่แตกไม่ตายจ้า
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆
4. package ☆☆☆☆☆


CHANEL ROUGE ALLURE สี 126 ราคาประมาณ 1400 – 1600

ตัวนี้เราซื้อที่สนามบินนาริตะเลยจำราคาไม่ได้เท่าไร แหะ ชอบเพราะเห็นบล็อกเกอร์ต่างชาติรีวิวทาออกมาแล้วส้วย สวยยยยย เป็นนู้ดผู้ดีมากค่ะ แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่าสีนี้เหมาะกับผิวอันเดอร์โทนไปทางขาวอมชมพูเสียมากกว่า ถ้าขาวเหลืองอย่างเราทาออกมาก็จะเป็นสีชมพูติดม่วงมาหน่อย แต่ก็ยังถือว่าสวยอยู่ค่ะเป็นชมพูลูกคุณหนูมาก เนื้อลิปไม่แมท ไม่ครีมมี่ แต่จะเป็นเนื้อที่อยู่ตรงกลางของทั้งสอง และบางเบาซึ่งเราว่ามันเป็น formula เฉพาะตัวของ Chanel รุ่นนี้เลยนะคะ ที่สำคัญมีกลิตเตอร์สีทองเนื้อละเอียดติดมาด้วยเบาๆ คือทาออกมาแทบมองไม่เห็นแต่โดยรวมคือทำให้ปากเราสวยฉ่ำมากจริง ๆ แพคเกจเรียบแต่หรูหราหมาเห่าซึ่งเราชอบมาก ทนทานใช้ได้ทีเดียว ความพิเศษคือกดตรงตูดแล้วด้ามก็จะเด้งออกมาค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆☆



COVERMARK REALFINISH LIPSTICK สี 11 ราคา 900 บาท

ตัวนี้ต้องบอกเลยดีเกินคาดค่ะ คือเป็นยี่ห้อที่เรารู้จักแค่แป้งฝุ่นของเขา พอได้ลิปสติกตัวนี้มาบอกตามตรงว่าอยากจะลองผลิตภัณฑ์อย่างอื่นด้วยเลย เนื้อลิปไม่บางเบาแต่ก็ไม่หนักมากเริ่มออกไปทางครีมมี่มีความชุ่มชื้นพอสมควรซึ่งสำหรับเราแล้วคิดว่ามันเหนียวไปหน่อย ทาโดยที่ไม่ต้องลงลิปมันก่อนยังได้เลยค่ะ มีความ shine มันวาว ทาออกมาแล้วดูสวยสุขภาพดี แพคเกจเป็นปลอกอลูมิเนียมน้ำหนักเลยเบา แน่นหนา ทนทานไม่ก๊องแก๊ง แต่ตรงปลอกสวมมันจะหลวมไวค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆


REVLON : SUPER LUSTROUS LIPSTICK CREME สี Nude Velvet
ราคา 100-150 บาท

หากใครอยากได้นู้ดอมน้ำตาลแบบผู้ดี ทาแล้วไม่ป่วยเราแนะนำสีนี้ค่ะ เนื้อชุ่มชื่น ไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ กลบสีปากมิดในราคาหลักร้อย ถือว่าคุ้มค่ามากๆๆๆๆ ค่ะ แต่ต้องคอยเติมอยู่บ่อยๆ ค่ะ กินน้ำกินข้าวนี่คือหลุดออกเกือบหมดเหลือไว้แค่ขอบปาก คือเป็นลิปที่ใช้หมดไวจริงๆ 5555 แต่ราคาเท่านี้เราซื้อได้เรื่อยๆ ค่ะ เพียงแต่จะมีสีที่เราต้องการหรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะรุ่นนี้ถือว่ามีมานานมากๆ แต่ก็ยังผลิตอยู่ บางสาขาของหมด เราเข้าใจว่าเฉดสีลิปยี่ห้อนี้คือมีเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยต้องเลือกสต๊อกสีที่ขายดีไว้ก่อน หรือไม่ก็ต้องเลือกสต๊อกรุ่นล่าสุด ส่วนแพคเกจปลอกด้านในเป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ส่วนด้านนอกเป็นพลาสติกธรรมดาหล่นทีก็แตก แต่เวลาหมุนเข้าออกคือทนดีค่ะไม่ก๊องแก๊ง
1. ความติดทน ☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆



REVLON : SUPER LUSTROUS LIPSTICK CREME สี 359 NATURALLY NUDE
ราคา 100-150 บาท

คุณสมบัติเหมือนตัวเมื่อกี้เลยค่ะเพียงแค่คนละสี 555 สีนี้จะเป็นนู้ดอมส้มเหมาะกับผิวขาวเหลืองและผิวสองสีดีค่ะ ทาแล้วหน้าสว่างขึ้นแต่ก็ยังผู้ดี และเนื้อก็ชุ่มฉ่ำแต่พอดีไม่เหนียวเหนอะหนะดีค่ะ
1. ความติดทน ☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆



REVLON : SUPER LUSTROUS LIPSTICK CREME สี 240 SANDALWOOD BEIGE ราคา 100-150 บาท

ส่วนตัวนี้ก็เหมือนกับอันข้างบนเช่นเดิม 5555 แต่ที่แตกต่างไปจากเดิมคือสีที่ติดทน คงเพราะสีนี้เป็นสีส้มที่เข้มขึ้นเลยทำให้สียังติดอยุ่ที่ปากต่อให้ผ่านไปครึ่งวันก็ตาม 5555
1. ติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆



IN2IT Moisture Intense Lipstick สี Tawny ราคา 199 บาท

เราชอบลิปรุ่นนี้ของ IN2ITมากค่ะ เพราะเม็ดสีแน่นมากแบบทารอบเดียวก็ทั่วปากแล้วค่ะ เนื้อเป็นครีมมี่ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ แพคเกจก็อย่างที่เห็นเป็นปลอกอลูมิเนียมที่แน่นหนา แล้วเมื่อเทียบกับราคา 2 ร้อยกว่าบาทเนี่ยเราว่าโคตรคุ้ม แท่งนี้คือใช้มานานมาก พกใส่เป๋าแล้วเดินทางสมบุกสมบันยังไงก็ยังอยู่ดี เลิฟมากกกกกก
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆



3CE Lily Maymac Matte Lip Color สี 119 HOLD ON ราคาประมาณ 590 บาท

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าซื้อมาเพราะ lily maymac เลย ยอมรับว่าสีนี้เป็นนู้ดที่สวยมากกกกกก ถูกจริตมาก ทาแล้วไม่ป่วยแถมหน้ายังดูสว่างและเด็กขึ้นมาก แต่! เนื้อลิปแมทของยี่ห้อนี้คือแห้งมากกกกกก (ดูเนื้อสวอชที่มือ)เวลาทาเดียวๆแบบต้องการความแมทนี่จะทายากมาก คือต้องทาลิปมันเยอะหน่อยถึงจะออกมาสวยพอดีแบบในรูป ความแน่นของสีก็กลางๆ ไม่ได้ว้าวอะไร ความติดทนนี่ไม่น่าปลื้มเท่าไรแค่กินน้ำก็หลุดออกเกือบหมดปาก ดีตรงที่แพคเกจทนทานแต่สีคือหลุดเป็นหย่อมๆตามรูปค่ะ
1. ความติดทน ☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆
4. package ☆☆☆☆



3CE mood recipe matte lip color สี 115 Muss ราคาประมาณ 590 บาท

ชอบสีอีกแล้ววววว 5555 สีนู้ดของ 3CE คือสวยทุกตัวจริงๆ แต่ความแมทของเขามันแห้งเกินไป ทาลำบากจริงๆ ความรู้สึกและสรรพคุณต่างๆเหมือนตัวเมือกี้เลยค่ะ แต่ขอเพิ่มเติมตรงแพคเกจที่ถึงจะไม่ใช่อลูมิเนียมอะไรแต่พลาสติกก็ทนจับถนัดมือดีค่ะ
1. ความติดทน ☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆
4. package ☆☆☆



Oriental Princess Beneficial รุ่น Satin Matte สี 01 Gooseberry ราคา 355 บาท

Lip รุ่นนี้ของ OP ทำออกมาได้ดี เม็ดสีแน่นใช้ได้เลยค่ะ ไม่แมทแห้งมากเท่ากับของ 3CE แต่ก็แห้งในระดับหนึ่ง (เอ๊ะยังไง555) กลบสีปากได้มิด ติดทนปานกลาง แพคเกจแน่นหนาทนทาน และมีลวดลายข้างในสวยงาม แล้วทำเฉดสีออกมาได้เยอะมาก แล้วสีนี้คือถูกใจเรา เวลาต้องการลุคปากนู้ดไม่ป่วยและไม่แห้งมากเราหยิบตัวนี้มาใช้แบบไม่คิดมากเลยค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆



Oriental Princess Beneficial รุ่น Cashmere Creamy สี 04 Tropical Orange ราคา 355 บาท

ฉ่ำวาววววววววว เม็ดสีแน่นตาแตกมากกกกก ทารอบเดียวได้ทั่วปากแล้วค่ะ เนื้อไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ครีมมี่มาก แต่มีความชุ่มชื่นที่กำลังพอดีเลยค่ะ ทาตัวนี้แล้วนึกถึง in2it เนื้อสัมผัสเดียวกันเลย แต่อันนี้ราคาแพงกว่าหน่อย แพคเกจก็แน่นหนาทนทานดีค่ะ ชอบบบบบ
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆



Espoir Lipstick No Wear Power Matte 1.30 สี Red Brick ราคา 707 บาท

นัวมากแม่! เป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้ลิปสติกของเอสปัว ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางดี เม็ดสีแน่นและชัดจนเราต้องทาแบบแตะๆ ที่ริมฝีปากแล้วเอานิ้วเกลี่ยเบาๆ ก็ได้ลุคนี้มาเลย เนื้อไม่แมทแห้งจนเกินไป นุ่มมาก มีความลื่นให้เราเกลี่ยได้ จะทาแบบบางเบาก็ได้ จะทาแบบชัดคมก็ปาดเลยรอบเดียวเอาอยู่ แดงเด่นเกินหน้าไปมาก ติดท้นนนนนน ส่วนแพคเกจเป็นพลาสติกหนาแบบแน่นตึ้บ ไม่ต้องห่วงเรื่องแตกร้าวเลยค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆


มาถึงหมวดลิปจิ้มจุ่ม ไม่น่าเชื่อว่าปิ่นจะมีเยอะมาก งั้นขอยกเอามาบางส่วนนะคะ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในสถานะใกล้หมดจ้ะ


TARTE : TARTEIST lip paint สี low key ราคา 850 บาท

จิ้มจุ่มติดทนแห่งปีอีกตัว เนื้อบางเบาออกเป็นน้ำเหลวเลยค่ะ แต่เซ็ตตัวแห้งไวมากกกก ไม่หนาไม่หนัก แมทติดกลืนเนื้อปากไปเลยเหมือนสีปากเราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เสียอย่างเดียวเรื่องสี ปาดที่มือคือสวยมาก แต่พอทาออกมาดูป่วยไปเลยสำหรับผิวสีอย่างเรา สีนี้เหมาะกับสาวผิวขาวชมพูมากกว่า แต่เรามักจะใช้ทาเป็นเบสก่อนค่ะแล้วค่อยเอาลิปที่สีเข้มขึ้นมาทารอบปากด้านในจะได้ลุคออมเบที่นัวและติดทนสุดๆ! ชนิดที่กินข้าวก็ยังไม่หลุดออกมาเลยจ้า
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆
4. package ☆☆☆



L’OREAL Rouge Signature สี 124 ราคา 299 บาท

ตัวนี้เป็นลิปจิ้มจุ่มที่ชอบมากอีกตัวหนึ่ง ปิ่นใช้ทุกวันจริงๆ เพราะสีสวยมาก ทาไปได้ทุกงานทุกโอกาส แถมเนื้อก็บางเบา แต่ข้นกว่าของ Tart ขึ้นมาหน่อยนึง เนื้อออกกึ่งน้ำแต่ครีมมี่หน่อยๆ แต่คือไม่หนักปากเลย แล้วที่สำคัญคือติดทน! ติดไปกับเนื้อริมฝีปาก เวลากินข้าวกินน้ำก็ยังเหลือสีติดปากจางๆ ระเรื่อๆเหมือนเรามีสีปากอมชมพูมาตั้งแต่เกิด 555 คือสวยมากกกกก ชอบมากกกกก 
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆


Clio Mad Matte Lip Tint สี 08 Chai tea latte ราคา 8000 วอน  

ลิปตัวนี้ของ clio ปิ่นไปได้มาตอนไปเที่ยวเกาหลีค่ะ ตอนนั้นกำลังลดราคาอยู่พอดีเลยถอยมาแบบไม่คิดอะไร แต่พอเอามาใช้ เห้ยยยยย ดีงามมมมม เนื้อบางเบา นุ่มลื่น เหลวๆ แต่คือติดทนดี เม็ดสีก็แน่นมาก ทำให้ใช้ได้นาน ไม่แห้งเลย มีความชุ่มชื่นสุขภาพดี เป็นอีกหนึ่งลิปที่ใช้ใน Everyday Look เลยค่ะ เพียงแต่แพคเกจที่เป็นกระดาษมันหลุดลอก ดูตามสภาพเลยค่ะ เละมาก 555 เพราะใช้บ่อยจริงๆ พกน้องไปทุกที่เลยค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆


Clio Mad Matte Lip Tint สี 07 Peach mousse ราคา 8000 วอน

เป็นลิป Clio อีกแท่งที่ถอยมาพร้อมกับตัวเมื่อครู่ รุ่นเดียวกันแต่คนละสีซึ่งเฉดจะสว่างสดใสขึ้นมาเบอร์นึง ถ้าดูเผินๆแทบไม่เห็นความแตกต่าง 555 ถ้าวันไหนอยากได้ลุคที่ดูเด็กลงอีกหน่อยเราจะใช้สีนี้ค่ะ เนื้อบางเบา นุ่มลื่น เหลวๆ แต่คือติดทนดี เม็ดสีก็แน่นมาก ทำให้ใช้ได้นาน ไม่แห้งเลย มีความชุ่มชื่นสุขภาพดี
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆


Merrez’ca  Speak Velvet Lip สี Oreange love 201 ราคา 450 บาท

ตอนลองที่มือสวยมากค่ะ แต่พอมาทาจริงน้องไม่ค่อยเกาะปากค่ะ เนื้อแมทแห้ง เป็นขลุย สีนี้ทำให้ดูปากลอยเราผิดเองด้วยที่ไม่ได้ลองที่ปากก่อนซื้อมา ปิดสีปากไม่ค่อยมิดต้องทาหลายรอบ แต่พอทาซ้ำเหมือนเป็นการปาดเนื้อลิปทิ้ง แพคเกจก็พลาสติกทั่วไปค่ะ
1. ความติดทน ☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆
4. package ☆☆


Moonshot Cream Paint Lightfit สี M115 ราคา 450-750 บาท

เป็นลิปจิ้มจุ่มอีกหนึ่งตัวที่ชอบมากกกกกก (ชอบอีกแระ 5555) สีน้องแน่นมากกกกกก ปิดสีปากมิดเล้ย ไม่ตกร่องงงง (ชอบตรงนี้มากกกก) เนื้อบางเบา ไม่แห้ง ไม่เหนียว แล้วติดทนนนน แพคเกจทนทาน คือทุกอย่างพอดี คุณภาพคับแก้วมาก เสียอย่างเดียว พอเก็บไว้นานแล้วกลิ่นเพี้ยน น้องจะส่งกลิ่นเปรี้ยวเหมือนบูด ขอหักคะแนนตรงนี้จริงจัง
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆


Bobbi Brown Luxe Liquid Lip High Shine สี Italian Rose ราคา 1450 บาท

ขอยกให้เป็นลิปสติกขึ้นหิ้งของเรา! แพคเกจหรูหราหนาแน่นทนทาน ชุ่มชื่น ไม่เหนียว ไม่ตกร่อง เม็ดสีแน่นนนนนนน ตึ้บ! เนื้อข้นคลั้ก แต่ไม่เหนียวเหนอะ ปาดทีเดียวได้รอบปากในจุ่มเดียว กินน้ำก็หลุดติดขอบแก้วนะคะ แต่ลิปที่ปากไม่สะเทือนเล้ยยยย 5555 คือยังอยู่ครบทุกประการ ด้วยความที่น้องเขาปึ้กมาก ทุกวันนี้เราเลยทำแค่ใช้นิ้วแตะลิปที่ติดอยู่ตรงก้านให้พอติดนิ้วแล้วเอามา tap ที่ปาก แค่นี้ก็ได้ทั่วปากแล้วค่ะ โอ้โห้วววววว 5555 นี่ไม่ได้เวอร์นะคะ เป็นอย่างนี้จริงๆ ประทับใจมาก แล้วแท่งนี้คิดว่าใช้ยันลูกบวชก็ไม่หมดจ้า ควรค่าแก่การลงทุนมาก  นี่ว่าจะไปสอยสีอื่นๆที่ชอบมาอีกค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆☆


YSL Tatouage Couture Matte Stain สี 5 ราคา 1390 บาท

เป็นอีกตัวที่ยกขึ้นหิ้ง เนื้อบางเบา เหลว ไม่เหนียว ไม่ตกร่อง ปาดที่มือแล้วเหมือนเม็ดสีไม่แน่นแลดูสีจาง ๆ ใช่ไหมคะ แต่โนวๆๆๆๆๆๆ ทาแล้วเหมือนย้อมสีปากให้เป็นสีนี้ไปเลย ติดทนจริงๆ ค่ะ ติดแบบกลืนไปกับผิวปาก กินนู่นนี่ก็หลุดออกไปบ้างนะคะ แต่ที่ยังเหลืออยู่คือปลายสีลิป เหมือนปากเราสีชมพูระเรื่อ สุขภาพดี กลิ่นกุหลาบหอมจาง ๆ ซึ่งปกติเราไม่ชอบกลิ่นกุหลาบค่ะ แต่สำหรับตัวนี้แล้วกลิ่นไม่แรงมาก เราเลยโอเคค่ะ  
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆☆☆


NYX Lingerie สี 17 Lipli ราคา 325 บาท

อยากดูแพงในราคาไม่แพงเชิญรับน้อง NYX ไปไว้ในอ้อมกอดค่ะ เราชอบรุ่นนี้มากกว่ารุ่นก่อนๆ มาก เพราะสีแน่นและชัดดีค่ะ เนื้อแมทแห้งปานกลางแต่ไม่มากจนเกินไป ติดทนใช้ได้เลยค่ะ แล้วสีนี้เป็นนู้ดส้มอมน้ำตาลที่สามารถใช้ได้ในทุกวันอีกเหมือนกัน แพคเกจก็ทำคงทนขึ้นค่ะเป็นอะคริลิคใส แต่ต้องดูตรงด้ามจับอีกทีเพราะรุ่นเก่าๆ เคยมีปัญหากาวหลุดค่ะเหลือแต่แกนด้ามจับข้างใน
1. ความติดทน ☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆
4. package ☆☆☆


3CE   velvet lip tint สี Daffodil  ราคา 350-450 บาท

ต้องบอกก่อนเลยว่าเนื้อลิปนุ่มมากกกกกกกกกกกกกก และหอมมาก เม็ดสีแน่น จะทาแบบออมเบก็ได้ จะย้ำให้ชัดก็ดี ชุ่มชื่น ไม่แห้งเลย เป็นเนื้อแมทแบบกำมะหยี่ตามชื่อเลยค่ะ แต่แพคเกจเราไม่ชอบตรงที่เป็นซีลมาหุ้มนี่แหละ เพราะมันถลอกได้ง่ายๆเมื่อเก็บรวมในกระเป๋ากับเครื่องสำอางตัวอื่นค่ะ  
1. ความติดทน ☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆


Maybelline Super Stay Matte Ink สี 205 ราคา 249 บาท

ลิปแมทจิ้มจุ่มติดแน่นในตำนาน ข้อเด่นของลิปรุ่นนี้คือติดท้นนนนนนนนนนนนนนน แบบ…ทนเกิ้นนนน 5555 กินข้าวกินน้ำก็ไม่หลุด จูบก็ไม่หลุด! เรื่องนี้ยกให้เขาเลยค่ะ ชุ่มชื่นในระดับหนึ่ง แต่พอนานไปก็จะแห้งติดริมฝีปาก เม็ดสีแน่นมากกกกกกกกกกก แพคเกจเป็นพลาสติกที่ค่อนข้างหนาทนทาน แล้วราคาคือถูกทำให้เราสามารถต่อขยายไปยังสีอื่นๆ ได้อีก แต่ข้อเสียคือ เหนียวเหนอะหนะเหมือนกัน โทนสีที่ติดทนทำให้ล้างออกยากมาก (โดยเฉพาะสีชมพู อันนี้คือใช้รีมูฟเวอร์สำหรับเครื่องสำอางกันน้ำแล้วก็ยังหลุดไม่หมด ติดกันข้ามวันเลยทีเดียว) และโทนสีที่ออกมาส่วนใหญ่เหมาะกับคนผิวขาวอมชมพูมากกว่าค่ะ
1. ความติดทน ☆☆☆☆☆
2. ความชุ่มชื่น ☆☆☆
3. ความแน่นของเม็ดสี ☆☆☆☆
4. package ☆☆☆


หมดเสียที เฮ้อ….ปาดเหงื่อแปป 555 ก็หวังว่าการ Review ในครั้งนี้จะพอเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เจอกันใหม่คราวหน้าจ้า


pinlosophy

pinlosophy

สวัสดีค่า ชื่อ ปิ่น อายุ 39 ปาเข้าไปค่อนชีวิตแล้ว
- รักการแต่งหน้า
- ผิวผสม เป็นกระฝ้า รูขุมขนใหญ่
- พยายามดูแลตัวเอง

ใครมีเคล็บลับก็มาเม้ามอยกันค่า
Line ID : pinlo29
Tel : 094-5950946
Tiktok : pinlo29

FULL PROFILE