[REVIEW] APARA Essence นวัตกรรมสกินแคร์ตัวเด็ด จากเซรั่มน้ำยางพาราไทย

สวัสดีค่า

มาพบกับโดนัทอีกแล้ว

วันนี้โดนัทมาเอาใจสาย “น้ำตบ” ค่ะ

ซึ่งเดี๋ยวนี้ 1 ในสกินแคร์ รูทีน ของทุกคนคือชินกันไปแล้วว่าต้องตบน้ำตบ หลังเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์

และโดนัทก็เป็น 1 ในนั้นที่ติดการใช้น้ำตบมาก

วันนี้โดนัทจึงภูมิใจนำเสนอ... ?

น้ำตบแบรนด์ไทยที่มีนวัตกรรมทางส่วนประกอบที่มาจาก

งานวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยได้ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศทางชีววิทยาศาสตร์
เพื่อต่อยอดให้ส่วนประกอบที่เป็นนวัตกรรมทางเครื่องสำอางของไทยให้พัฒนาเป็นเวชสำอางที่มีคุณค่าของประเทศ ?

ซึ่งคิดว่าสำหรับสกินแคร์ชิ้นนี้ คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวดูไม่สม่ำเสมอ ผิวไม่ชุ่มชื้น และมีสิวบ่อยๆ ต้องชอบค่ะ 

ผลิตภัณฑ์น้ำตบชิ้นนี้มาจากแบรนด์ APARA (อะพาร่า)ค่ะ

และชื่อของผลิตภัณฑ์คือ APARA The First Care Para Activating Essence

• ความเป็นมา

ความพิเศษของสารสกัดจากต้นยางพารามีต้นกำเนิดมาจาก

งานค้นคว้าวิจัยของ รศ.ดร.รพีพรรณ วิทิตสุวรรณกุลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

เนื่องจากการที่ท่านได้สังเกตว่าเมื่อต้นยางพาราถูกกรีดแล้ว พบว่าตัวต้นยางพาราสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

ความสามารถด้านการ Heal ตัวเองนี้จึงเป็นที่น่าสนใจ จึงมีการวิจัยหาพฤกษเคมีที่มีคุณค่าต่อ

โดยส่วนที่นำมาใช้ไม่ใช่เนื้อยางนะคะ 

จะเป็นส่วนของสารสกัดเซรั่มน้ำยางที่เต็มไปด้วยพฤกษเคมีค่ะ 

และก็ได้พบว่ามีสารปริมาณ 0.48% ในน้ำยางพาราที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประโยชน์ผิว

จึงมีการสกัดสารพฤกษเคมีที่มีคุณค่านี้มาใช้ในการผลิตเครื่องสำอางค่ะ

ซึ่งสารสกัดหลักของน้ำตบ APARA ที่มาจากสารสกัดจากยางพารา คือ Hevea Brasiliensis Extract

และทางผู้วิจัยได้มีผลการศึกษาด้าน Whitening 

โดยในการศึกษาได้นำตัวเซรั่มน้ำยางมาผลิตเป็นครีมทาผิวในคนที่เป็นฝ้าเพื่อทำให้ฝ้าดูจาง และผิวกระจ่างใสขึ้น

โดยมีการศึกษาในอาสาสมัคร 100 คน เป็นเวลา 9 สัปดาห์ 

พบว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ 

โดยปริมาณสิวและอาการอักเสบลดลง 100% 

และในเคสที่เป็นฝ้าผิวดูขาวขึ้น 98.4% ค่ะ

​Source : Thailand Center of Excellence for Life Sciences (TCELS)น์ต่อผิวค่ะ

โดยทางแบรนด์ได้ใช้สารสกัดจากน้ำยางพาราสกัดนี้เป็นสารที่ออกฤทธิ์ และประสิทธิภาพที่เคลมนั้นมีดังนี้ค่ะ

1. มีสารกลุ่ม Protease Inhibitor ที่ขัดขวางกระบวนการส่งเม็ดสีจากเซลล์ที่สร้างขึ้นไปที่ผิวหนัง

2.ช่วยให้เกิดการสร้างเม็ดสีแบบ Pheomelanin (แปลว่าผิวจะคล้ำน้อยลง)

3. มีความสามารถเป็น Super antioxidant

4. มีกลุ่มน้ำตาลที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

5. มี AHA และ BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมทั้งลดการอุดตัน

6. มีกรดอะมิโน 17 ชนิด ซึ่งเอื้อให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น

7. มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินบี ,สังกะสี ,โครเมี่ยม ,ซีเลเนี่ยม เป็นต้น

และนอกจากสารสกัดจากน้ำยางพาราแล้ว 

ส่วนประกอบอื่นๆในสูตรก็ยังมีอีกมากมายค่ะ ตั้งแต่

Witch hazel extract ที่มีสารสำคัญกลุ่ม Tannin ช่วยควบคุมความมัน ทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น

Rose flower oil ที่ช่วยแต่งกลิ่นผลิตภัณฑ์อย่างเป็นธรรมชาติ

Chamomile extract หรือสารสกัดจากคาร์โมมายล์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง

Sodium PCA ซึ่งช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว (NMF)

Centella asiatica extract หรือสารสกัดจากใบบัวบกที่ช่วยสมานแผลและลดการเกิดแผลเป็น และยังมีประโยชน์ด้านลดริ้วรอยอีกด้วยค่ะ

Artichoke leaf extract หรือสารสกัดจากใบอาร์ติโช๊กซึ่งเป็นสารสกัดที่ผู้ผลิตเคลมว่าช่วยยับยั้งเอนไซม์ MMP-1 ซึ่งแปลว่าจะยับยั้งการย่อยสลายคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นดีค่ะ

Niacinamide หรือวิตามินบี 3 มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวแบบครอบคลุมค่ะ ตั้งแต่ลดอาการอักเสบ ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ไปจนถึงช่วยทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ

Aloe leaf juice หรือน้ำจากว่านหางจระเข้ที่มีฤทธิ์ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว และปลอบประโลมซึ่งจะทำให้ผิวลดอาการอักสบลง

ในส่วนประกอบ ไม่มีแอลกอฮอล์ ,ซิลิโคน ,สารก่อระคายเคือง,สีและน้ำหอมสังเคราะห์ รวมถึงสารที่ไม่เป็นมิตรต่อผิวค่ะ

• วิธีใช้

หยด Essence ลงบนมือแล้วตบบนใบหน้า เช้า และเย็นทุกวันค่ะ

• ผลลัพธ์หลังใช้

ซึ่งหลังจากที่โดนัทได้ทดลองใช้ 2 อาทิตย์แล้ว

มีความรู้สึกว่า APARA ทำได้ตามคำเคลม เนื่องจากเป็นน้ำตบที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวดี แต่ไม่มีความรุ้สึกหนึบ หรือเหนอะหนะใดๆระหว่างวัน โดยสารสกัดจาก Witch hazel ในปริมาณต้นๆในสูตรทำให้ผิวดูมันน้อยลงรูขุมขนดูกระชับขึ้น

หลังใช้แล้วผิวดูฟูขึ้น ดูละเอียดขึ้นค่ะ ซึ่งมีติดนิดเดียวเรื่องกลิ่นที่มาจากส่วนประกอบตามธรรมชาติในสูตรค่ะ

ถือว่าโดยรวมเป็นผลิตภัณฑ์น้ำตบที่ทำมาได้ดี และเป็นนวัตกรรมจากประเทศไทยที่หวังผลด้านต่างๆที่เคลมได้จริงค่ะ

ดังนั้นใครที่มีปัญหาสิว ,ปัญหาฝ้า หรือผิวไม่ชุ่มชื้น อยากแนะนำให้ลองใช้กันดูนะคะ

สำหรับใครที่สนใจสามารถตามไปที่เฟสบุคเพจ APARA THAILAND ได้เลยนะคะ

สุดท้ายนี้โดนัทขอบคุณแบรนด์ APARA มากๆที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้โดนัทได้ทดลองใช้ค่ะ

สุดท้ายนี้โดนัทอยากบอกว่าในฐานะคนอยู่วงการผลิตเครื่องสำอางมานาน

เมื่อไหร่ที่ทราบว่านวัตกรรมจากพืชไทยได้ไปไกลอีกระดับ

โดนัทรู้สึกปลื้มและดีใจมาก เพราะไทยเรามีพืชดีๆ

อุดมสมบูรณ์มากๆ

โดนัทเองก็อยากเป็นแรงเล็กๆในการสนับสนุนวงการนวัตกรรมเครื่องสำอางไทยให้ไปได้ไกล

เพราะเมืองไทยเรามีดีมากมายเลยค่ะ ❤️

ขอบคุณที่รับชมนะคะ

เอาไว้ครั้งหน้าจะมาแนะนำอะไรอีก

อย่าลืมติดตามกันนะคะ

บ๊าย บายยย ❤️