สวัสดีค่าทุกคนวันนี้เตยจะมารีวิว Base Makeup ตัวดังของ Covermark ที่หลายๆคนรู้จักกัน คือ 

1. Moisture Clear Base 

2. Moisture Veil LX

เรานี่แบบพลีชีพรีริวให้ดูเลย คือซุมผิวหน้าให้ดูใกล้ทั้งก่อนทาและหลังทาเลย แสงที่เราถ่ายมีทั้งแสงนีออนและแสงธรรมชาติ

Moisture Clear Base (SPF35 PA++)

เบสตัวนี้มีส่วนประกอบของ Fine-Fit Polymer ช่วยปรับผิวให้ดูเนียนเรียบกระจ่างใส เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายขึ้นและเครื่องสำอางติดทนนาน เบสตัวนี้ยังเด่นในเรื่องการช่วยกักเก็บน้ำและเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ จึงเหมาะกับสาวผิวแห้งอย่างเรา  เราชอบมีปัญหาผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย คือช่วงไหนที่เราบินเยอะและบินไปแต่ที่อากาศหนาวติดลบ หน้าเราจะชอบลอกเป็นขุยที่จมูก ถ้าแห้งมากจะลอกที่แก้มด้วย แห้งมากจนแต่งหน้าแล้วรู้สึกว่าเครื่องสำอางดูลอยๆไม่ติดหน้าเลย เบสตัวนี้ก็ช่วยปรับผิวเราให้เนียนเรียบทำให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น 


วิธีใช้ : แต้มจุดเล็กที่ใบหน้า 5 จุด แก้ม หน้าผาก จมูกและคางแล้วเกลี่ยให้ทั่ว             หน้า

ราคา 1,300 บาท (30 ml.)

Moisture Veil LX (SPF 32 PA++)

ตัวนี้เป็นรองพื้นชนิดแป้ง (Powdery Foundation) ไม่ใช้แป้งผสมรองพื้น เป็นที่นุ่ม เนื้อเนียนละเอียดเกลี่ยง่าย ทาแล้วซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วเพราะเป็นสูตร Skin Melting) สมารถปกปิดจุดบกพร่องได้ทันทีที่ทา
มี Moisture Coating เคลือบอนุภาคแป้งด้วยความชุ่มชื้น ทำให้นุ่ลื่นเกลี่ยง่ายแม้ผิวหน้าจะแห้งกร้าน
นอกจากนี้ยังมี Sandwich Complex Powder และ Moist Change Powder ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ใหเแป้งแห้งหลุดลอก และช่วยเปลี่ยนความมันส่วนเกินบนใบหน้าเป็นความกระจ่างใส แป้งนี้จึงเหมาะทั้งสาวผิวแห้งและสาวผิวมัน

สีที่เราได้มามี 2 สี คือ MN10 และ MO20

***แป้งนี้ห้ามใช้กับพัฟที่เปียกน้ำ เพราะจะทำให้หน้าแป้งแข็งตัว***

ตลับที่เราได้มาสวยมาก แต่ว่าเป็น Limited Edition เมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่มีขายแล้ว

ราคา :  ตัวรีฟิล 1,500 บาท , ตลับ 700 บาท

นอกจากถ่ายในแสงที่เราจัดเอง ก็ยังมีถ่ายในแสงนีออนบ้านธรรมดาทั่วไปและแสงธรรมชาติ
​

สรุปผลการใช้

Moisture Clear Base : เป็นเบสสีเนื้อ เกลี่ยง่ายดีและปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอตามตำเคมของแบรนด์เลย

Moisture Veil LX : สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหรือสิวแดง เราว่าลงรอบเดียวก็เนียนสวยแล้ว
ส่วนผิวเรามีปัญหาผิวแดงตรงข้างจมูกและเหนือคาง บางวันก็มีสิวด้วย เราต้องลงเพิ่มอีก Layer เพื่อปกปิด ซึ่งการลงเพิ่มแบบนี้ไม่ได้ทำให้ดูหน้าหนาโบ๊ะเลย และอีกปัญหาที่เรามีคือรูขุมขนกว้าง ไม่ค่อยช่วยปิดรูขุมขนเท่าไหร่ คือทาตอนแรกรูุมขนเบิกบานมาก แต่พอแป้งเซตตัวก็ดีขึ้น ไม่ได้ปิดรูมขุมขน 100% แต่ผลที่ได้ก็ถือว่าโอเคเลยนะ คนที่มีปัญหารูขุมขนกว้างแบบเราต้องระวังหน่อย เพราะครั้งแรกที่เราลองใช้ เราลง Base แล้วไม่ได้อให้เบสซิึมเข้าสู่ผิวก่อน ลงแป้งเลย ผลที่ได้คือ แป้งเหมือนลงที่รูขุมขนเราเลยอ่ะ ไม่ได้จับตัวเป็นก้อนนะ แต่รูขุมขนเราชัดมาก แต่พอรอบที่ 2 เรารอให้เบสแห้งก่อน ก็ไม่มีปัญหานี้ละ

เรื่องความเนียนนี่ต้องยอมเลยนะ แม่และพี่สาวเราบอกว่าไม่ได้ต่างจากตอนเราแต่งหน้าปกติเลย หน้าดูผ่องเด้งมาก คือปกติเราต้องลง Primer + Foundation + Concealer + แป้งฝุ่น 4 ขั้นตอนเต็มๆ แต่อันนี้แค่ 2 ขั้นตอน คือเบสกับแป้ง เราว่าเหมาะกับคนที่เร่งรีบ ตื่นเช้ามีเวลาแต่งหน้าน้อย ชีวิตแอร์อย่างเรา ปกติเราตื่นก่อน 2 ชม.ก่อนรถมารับ คือเราชอบตื่นเร็วๆจะได้ไม่ต้องรีบมาก กินข้าว แต่งหน้าชิวๆก่อนไปบิน แต่มันก็มีวันที่เราตื่นสาย แบบนาฬิกาปลุกแล้วไม่ตื่น ตื่นแค่ 20 นาทีก่อนรถมารับเนี่ย คือจะให้มานั่งแต่งหน้าลงผิวแบบ 4 ขั้นตอนที่เราทำประจำคงไม่ทัน รองพื้นนื้อแป้งอันนี้ถือว่าดีสำหรับเราเลยนะ คือถ้าเรากลับไปบินเมื่อไหร่แล้วตลับนี้หมด เราซื้อแน่นอนพกพาเวลาไปบินแล้วต้องไปค้างที่อื่นสะดวกดี ไม่ต้องพกรองพื้น คอนซีลเลอร์และแป้งฝุ่นให้หนักกระเป๋า อันนี้อันเดียวจบเลยความติดทนก็ถือว่าดีนะ เราทดสอบด้วยการแต่งหน้า 12 ชม.เต็มมาแล้ว แถมวันนั้นไปกินบาร์บีคิวพลาซ่ามาด้วย คือสำหรับเราแป้งไม่หลุดลอกเลย อาจเป็นเพราะเราเป็นคนไม่ค่อยชอบจับหน้าเวลาที่เครื่องสำอางอยู่บนหน้าด้วย แต่สำหรับคนทีจับหน้าบ่อยก็ต้องมีการหลุดลอกเป็นธรรมดา ไม่มีการโฆษณาเกินจริงๆ555 คือเคยมีคนมาขอให้เราแนะนำรองพื้นให้ เค้าบอกว่ารองพื้นชอบหลุดตรงจมูก เราเลยถามว่าชอบจับตรงช่วยจมูกใช่มั้ย เค้าบอกว่าใช่ เอาจริงๆเราก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง ไม่มีรองพื้นตัวไหนที่จะเทพแบบจับแล้วไม่หลุดอ่ะ

จบแล้วค่าสำหรับการรีวิวนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่หา Base Makeup ที่ดีใช้ง่ายและสะดวกนะคะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยนะคะ ยังไงเราด็ยังหวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันค่าาา

BYE  XOXO