แอ่วเหนือกันหนาจ้าววว

ปิดเทอมใหญ่คราวนี้แจมกับแก๊งค์เพื่อนๆสมัยมัธยมได้มีโอกาสจัดทริปเที่ยวเหนือกัน แจมขับรถจากเชียงรายลงไปน่าน ระยะทางที่ไปไม่ได้ไกลมาก แต่ดันหลงไปทางลัด ซึ่งทางไม่ค่อยจะดี คดเคี้ยวไปอีก เมาหัวเลยจย้างานนี้

Day1 

หลังจากที่เราถึงแล้ว เราก็แวะหาข้าวกินกันด้วยความหิวโซ และก็เริ่มเที่ยวในบริเวณตัวเมืองกันก่อน เมืองน่านเป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆสงบ ตะตอนยอนมากกกก

ที่แรกที่เราไปกันเลยคือ ตึกรังสีเกษม เป็นหอประวัติศาสตร์โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา  ข้างในก็จะเป็นประวัติศาสตร์ย้อนยุค มีมุมให้เราถ่ายรูปต่างๆมากมาย แต่ตอนที่แจมไปตอนนั้นเขากำลังก่อสร้างบางส่วนอยู่ จึงถูกปิดไม่ได้ให้เข้า เสียดายเบาๆ

และหลังจากนั้นอากาศกำลังโอเค ไม่ร้อนจนเกินไป เราไปต่อกันด้วยวัดภูมินทร์ ใครมาน่านแต่ไม่มาวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึง ข้างในจะมีภาพวาด และจะมีคุณลุงมาพูดกลอนให้ฟัง "กระซิบรัก บันลือโลก" หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง และหากเดินไปด้านข้างวัด ข้ามถนนไปไม่ไกลนักก็จะเจอซุ้มดอกลีลาวดีสวยๆ คนเขามักจะมาถ่ายรูปที่นั่นเช่นกัน

และหลังจากนั้นจู่ๆฝนก็ตกลงมาแบบไม่คาดคิด แจมกับเพื่อนก็รอและรอ กว่าฝนจะหยุดตก ทำให้ทริปที่แพลนเอาไว้ล่มไปหลายอย่าง เพราะส่วนใหญ่เขาก็ปิดกันหมดแล้ว เราจึงไปหาไรกินกันที่ คาเฟ่สุดกองดี ที่ซึ่งมองเห็นริมแม่น้ำน่าน และบรรยากาศของร้านร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ ใครที่ไปน่านแนะนำร้านนี้เลย บรรยากาศดีมาก แถมยังมีเบียร์คราฟท์จำหน่ายให้จิบไป ชมบรรยากาศไปอีกด้วย

Day 2 

สคริปมาวันที่สองเลย ตื่นเช้ามาก็มุ่งหน้าหาข้าวกิน แจมจำชื่อร้านไม่ได้ แต่ร้านที่ไปอยู่ในเมืองแถววัดภูมินทร์เลย

และด้วยความที่เพื่อนเราเป็นพวกคลั่งคาเฟ่มาก ไปไหนยังไม่รอดคะมาต่อกันอีกหนึ่งคาเฟ่ ที่มีชื่อว่า ERABICA Coffee ที่นี่มีโรงคั่วเมล็ดกาแฟเล็กๆด้านหลังร้านด้วย ถือว่าสายกาแฟแท้ ห้ามพลาด และด้านบนชั้น 2 ยังมีผลงานแกลอลี่เล็กๆโชว์ ใครชอบงานอาร์ต สะสมผลงานห้ามพลาดเช่นกัน

และพนักงานที่ร้านก็น่ารัก เป็นกันเองกับเรามาก ชอบ ถูกใจร้านนี้คะ 

ไปคะ ไปกันต่อ เรากำลังจะเดินทางไปที่ อ.ปัว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ประมาณ 50-60 กิโล ระหว่างทางเราก็ผ่านป้ายหอศิลป์ริมน่าน จึงได้ขอแวะเข้าไปหน่อย ค่าเข้ารู้สึกจะ 20 บาทนะคะ ถ้าจำไม่ผิด ก็จะเป็นภาพวาดต่างๆ รู้ปั่นนู้นนี่นั่น ข้างในมีร้านอาหารด้วย เงียบมาก มีแต่แก๊งเพื่อนๆแจมเท่านั้นที่เข้าไป ไพรเวทสุดๆๆ55555

ถึง อ.ปัวแล้วจ้าาาาาา แวะกิน signature ของที่นี่กันสักหน่อย
ร้านชื่อว่า ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ
เมนูแนะนำเขาก็มี เห็ด เห็ด เห็ดดดดดดดดดดด !! จัดไปคะ พิซซ่าเห็ด
เมนูอื่นเขาก็มีน้า อร่อยมากทุกอย่างเลย วิวก็เป็นธรรมชาติเช่นเคย ร้านไม่ใหญ่มาก ด้านล่างร้านก็จะเป็นวิวทุ่งนา อากาศดี สบาย

​และมุ่งหน้าหาที่พักกันต่อ เราไปดูที่โรงเรียนบ้านชาวนา ที่พักสวย บรรยากาศดี แต่ติดที่มันเงียบไปหน่อย และแถว อ.ปัวก็ไม่ค่อยมีที่ให้ไปแล้ว นอกจากพวกคาเฟ่และวัด เราจึงเลือกที่จะกลับตัวเมืองน่านกัน... (ตอนแรกเราจะเลยไปกันที่ อ.บ่อเกลือ แต่ชาวบ้านทักว่ามีดินสไลด์ปิดถนน แพลนของเราจึงเปลี่ยนไปหมด ใครจะไปหน้าฝน เช็คกันดีๆด้วยนะค้าาาา)

Day3

ด้วยความที่น่านเงียบเหงามากกกกกกกก เปลี่ยนแพลนไปแพร่กันเลยดีกว่า
ไม่ได้ไกลกันมากนัก เมื่อถึงแล้วมาเริ่มต้นรับศิริมงคลกันด้วยการไหว้พระธาตุที่ วัดพระธาตุช่อแฮ 

และที่โรงแรมที่เราพักก็มีจักรยานให้เราปั่นเล่นรอบเมืองจนเย็น เราก็มาหาไรกินจุบจิบที่กาดสามวัย ใกล้ๆที่พัก
กาดที่ของถูกมากกกกกกกกก ก.ล้านตัว
ถูกแถมให้เยอะ อิ่มมมม

สำหรับค่ำคืนนี้เรามาก็ดริ้งกันที่ Beach Bar

ร้านนี้บรรยากาศดีมาก จะมีสระน้ำอยู๋กลางร้าน ใครอยากจะลงไปเล่นน้ำก็เล่นได้เลย

วันที่แจมไปเป็นวันศุกร์พอดี คนเลยเยอะมากกก

โต๊ะแน่นสุดๆ เห็นว่าเป็นร้านที่ดังที่สุดของน่าน แนำนำอีกกก

สำหรับทริปแอ่วเหนือของแจมก็จะประมาณนี้เลย ไม่ได้ขึ้นดอยเพราะฝนมันลง เสียดายหนักมากจริงๆ ใครที่จะไปหน้าหนาวรับรองเลยว่่าฟินแน่นอน