ผิวสวย สิวหาย ด้วยวิธีง่ายๆๆ (ภาค2)
ladyorchid9ก่อนอื่นต้องขอโทษกันอย่างมากมายสัญญาไว้ว่าจะมารีวิว แต่ก็ยุ่งมากไม่มีเวลาเลย ตอนนี้ผ่านไปสองอาทิตย์เพิ่งจะมีเวลามานั่งเขียน บวกกับสภาพหนังหน้าช่วงนี้เป็นสิวปุดขึ้นมีอีก 2-3 เม็ดเนื่องจากพฤติกรรมมือบอนของตนเองที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ก็เลยเป็นช่วงเวลาที่ดีเหมือนกันมาลองของใหม่ที่เพิ่งไปถอยมา
อย่างไรก็ดีหลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการรีวิวครั้งแรกในชีวิตของเรื่อง สิว สิว สิว และสิว (http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=26613) ทำให้มีกำลังใจเหลือล้นกะการเขียนรีวิวต่อสำหรับภาค 2 ซึ่งก็จะเกี่ยวกับพวกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคนเป็นสิวอย่างเรา จริงๆ มันก็ไม่ได้จะมีอะไรหวือหวามากอ่ะน่ะค่ะ สำหรับตัวที่จะรีวิวทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามเป็นอย่างดี เพราะของถูกแหละดีจริงๆๆ อิอิๆๆ เอาล่ะๆๆ เข้าเรื่อง ต่อจากครั้งที่แล้วหลังจากเช็ด ล้างหน้าอันปกคลุมไปด้วย ความมัน สิวอุดตัน และสิวอักเสบ บวกกับรอยแผลเป็นต่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการบำรุงผิวพรรณ
ขออนุญาติเกริ่นถึงอดีตชาติที่ใช้พวกยาหมอบวกครีมบำรุงอื่นๆๆ ที่แสนจะแพงมาก่อนน่ะค่ะ ก่อนหน้าเนี่ยเราหาหมอหมอก็ให้ยาทาก่อนล้างหน้า BP ทาๆๆ เสร็จก็ตามด้วย CM ชะโลมไป แล้วก็พวก ครีมทาหน้ากันแห้ง พวก Moisturizer ทั้งหลาย ตามด้วยกันแดด มันก็น่ะยังจะขึ้นมากมายอยู่ดี แล้วเราก็เริ่มแก่ ก็กลัวเหี่ยวเลยตัดใจไปถอยพวกครีมราคาแพงมาลองใช้ดู คือปรากฏว่าไปกันใหญ่ ลองเปลี่ยน Moisturizer ของหมอมาใช้ Hope In a Jar ของ Philosophy ดู 555 ปรากฎกลายเป็น Hopeless คือของเค้าดีน่ะเนื้อครีมเบามาก แต่ไม่เหมาะอย่างแรงกะคนหน้ามัน ตอนที่ซื้อใช้เพราะว่าหน้าเรามันจึงแต่มันดูขาดสมดุลคือแบบงัยดี เออคือเหมือนผิวมันดูแห้งๆ จากฤทธิ์ยาหมอเลยตัดสินใจซื้อมา แต่ถ้าใครหน้าแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว Hope in a jar รับรองแจ่ม พิสูจน์โดยคุณแม่ของเราเองว่าใช้แล้วหน้าชีดูดีขึ้น แล้วก็มีอีกตัวที่เป็น exfoliation ผลัดเซลล์ผิวอันไหนเค้าว่าดีดิชั้นก็ไปถอยมาอีก นั้นก็คือ Clinique Turn AroundConcentrate อันโด่งดัง เราก็ว่ามันดีอ่ะน่ะ ชอบอยู่แต่ตอนซื้อมาอ่ะ เราใช้คู่กะ Hope In a Jar มันทำให้หน้าดูผ่องขึ้นน่ะค่ะ แต่สิวอุดตันก็ยังเยอะอยู่ คิดว่าคงมาจาก Hope In a Jar อ่ะบวกกับความเครียด และฮอร์โมนที่มันขึ้นๆลงๆ
พูดถึงฮอร์โมนและความเครียดอันนี้นิแบบขอบอกได้เลยว่าเป็นตัวการสำคัญเลยน่ะค่ะที่ทำให้เกิดสิว คือที่เค้าพูดๆกันมาว่าต้องสวยจากภายในนิเรื่องจริงน่ะขอบอก ช่วงหลังนิพยายามนอนเยอะขึ้น ไม่นอนดึก ดื่มน้ำเยอะๆ หน้าตาสดใสขึ้นแหะ แต่น่ะตอนนี้สิวมาบุกอีกเนื่องจากมือเจ้ากรรมทำพิษ ดันไปบีบสิวแล้วเอาออกไม่หมดที่นี้เสร็จเลยค่ะ หน้าเดี้ยน สิวเห่อขึ้นมา ดังนั้นๆ สาวๆจ้า ขอร้องเลยละกันอย่าริอาจบีบสิวเองเป็นดี เพราะมือเราเนี่ยก็ไม่ได้จะสะอาดบีบไปหน้าช้ำ แถมทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นมาอีก และมันก็จะลุกลามมากไปกว่าเดิม
โอ้วพล่ามมาะซะเยอะ พอดีกว่าเดี๋ยวจะเบื่อจะเริ่มรีวิวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่สอง พวกบำรุงผิว เพิ่มสวย ดูตามไปเลยนะค่ะ เราไปถอยของ La Roche Posay มาเกือบจะครบชุดเลย ก็อยากจะบอกว่าของเค้าดีจริงๆน่ะ ก็ชุดสำหรับคนเป็นสิวนั้นแหละ Effaclar ถอยมาทั้งหมด 4 ตัว รวมกันแดดด้วยก็เป็น 5 ตัว คือ
- Effaclar Lotion
- Effaclar K
- Effaclar M
- Elfaclar A.I
- Anthelios
ตัวแรก Effaclar Lotion อันนี้เอาไว้ทาหลังหล้างหน้าเสร็จจะเทใส่มือแล้วปะ เอาหรือจะใส่สำลีเช็ดด็ได้ตามอัธยาศรัย ตัวนี้ใช้แล้วมันก็ช่วยกระชับรูขุมขนดี จริงๆมันเปรียบเสมือนโทนเนอร์แหละ แต่ว่ามันดีตรงที่ว่ามันเป็น Alcohol free แถมมีส่วนผสมของ Salicylic Acid ที่จะช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย P. Acne ที่เป็นสาเหตุของการทำให้เกิดสิวด้วย แล้วก็มันมี Zinc ที่ช่วยดูดซับควบคุมความมันแถมมาให้ด้วย ตอนใช้แล้วหน้ามันไม่แห้งตึง หรือรู้สึกแสบ เหมาะมากสำหรับคนที่ติดโทนเนอร์น่ะ สรุปก็ใช้ไปรู้สึกโอเคแต่ไม่ได้จะเห็นอะไรชัดเจนมาก นอกเหนือจากที่บอกไป
ตัวที่สอง Effaclar K ตัวนี้นิยกให้เลยเป็นนางเอกคู่ใจ คือใช้แล้วหน้าดีขึ้นมากอ่ะ เราว่าเห็นผลเร็วกว่า Total Turnaround อีกน่ะ ไม่อยากบอกว่าดีกว่าด้วยอ่ะ ถูกกว่าอีกตั้งหาก คือเป็นตัวที่ผลัดผิว ลดการอุดตันของรูขุมขนที่เลิศมากเลย วิธีใช้ก็นี้เลยคะ หลังใช้โทนเนอร์เสร็จก็ทาไปเลย เนื้อครีมไม่มีคำว่าเหนียวเนอะนะ ซึมเร็วพอสมควร ถามว่าใช้แล้วมันจะมีสิวอุดตันอยู่อีกมั้ยคำตอบเลยน่ะค่ะ ตอบให้เลยแบบชัดเจน แจ่มแมวไปเลยคือ ยังงัยๆ ก็มีค่ะ เพียงแต่ว่ามันทำให้มีน้อยลง คนมีสิวหรือไม่มีสิวแนะนำให้ใช้เหมือนกันน่ะคะตัวนี้จะได้เป็นการผลัดเซลล์อ่อนๆ ไปในตัว ใช้ไปไม่เสียหายรัยหรอกมีอย่างเดียว เสียเงินกะสวยขึ้น เลือกเอาละกันน่ะสาวๆ
มาถึงตัวที่สาม Effaclar M ตัวนี้ก็เป็น moisturizer ที่โอเคอีกตัวหนึ่ง เพราะว่ามันแสนจะเหมาะกับหน้ามันๆ ของเราที่ต้องการความชุ่มชื่น ก็ใช้ไปหลังจากทา Effaclar K เสร็จอ่ะ ทาปุ๊บซึมปั๊บ ไม่มันด้วยซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากเพราะว่าเราสามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แถมมันช่วยคุมมันได้อีก สรุปตัวนี้ดิชั้นชอบ เพราะเนื้อครีมเบาด้วย ทาไปไม่หนักหน้าเลย รู้สึกสบายหน้าดี แบบว่าเหมาะมากกกกกกกก แต่ไม่เหมาะอย่างแรงกะคนหน้าแห้ง สรุปตัวนี้ก็ชอบอีกเช่นกัน
ตัวที่สี่ Effaclar A.I ตัวนี้เค้าว่าให้แต้มไปที่หัวสิว เหอะๆๆๆๆ แต้มไป 3 วันเช้าเย็น ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมาสรุปตัวนี้ ใช้ไม่ได้ผล เสียเงินไปเปล่า ไม่แนะนำ อันนี้ให้ไฟแดง ติดเรทไป สู้เอาพระเอกยอดชาย Benzac 5% ทาคู่กะ Clinda M ทิ้งไว้ยังจะดีกว่าอีกมากมาย อันนี้ไม่แนะนำให้ซื้อเลย เสียดายเงินอย่างแรง
ตัวสุดท้าย Anthelios SPF 30 เป็นกันแดดที่ดิชั้นปลื้มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เนื้อครีมเป็น Fluid สีขาวนะคะ ตอนซื้อมาก็กลัวเหมือนกันว่า ทาไปแล้วมันจะหน้าวอกเพราะว่ามันสีข๊าวขาว สรุปพอได้ใช้จริงๆ แอบชอบมากมาย คือเกลี่ยง่ายมากๆ แล้วก็ซึมเร็วไม่เหนียวเนอะหนะ แถมไม่วอกและดูมันอีกตั้งหากค่ะ ไม่ทิ้งคราบขาวด้วย สรุปชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก เพราะส่วนใหญ่ครีมกันแดดทั่วไปมันจะเหนียวเนอหนะ แต่ตัวนี้ไม่เลย แถมมันยังส่วนผสมที่ดูดซับความมันบนใบหน้าได้อีก สรุปเลิศคุ้มกะเงินที่เสียไป
ที่นี้มาถึงตัวที่เราใช้ลดรอยดำ-แดง แผลเป็นทั้งหลายทั้งปวง มีอยู่สองตัวด้วยกันคือ HiruScar กะ Micropeel Delivery ตอนนี้ใช้แค่สองตัวจริงๆ กะทำทรีทเมนท์
ตัว HiruScar เราว่าแอบดีมากเลย คือหน้าเราจะมีหลุมสิวที่เกิดมานานแหละ พอใช้เจ้าตัวนี้ไปนานๆ เกือบเดือนได้ทาไป หลุมมันแลดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดบวกกับรอยแผลเป็นที่หลงเหลือมันก็ค่อยๆ จางลง แต่มันไม่ได้จะช่วยให้หน้าใส หรืออะไรเลยน่ะ เน้นในเรื่องของแผลมากกว่า ตัวนี้นิทาไปได้เฉพาะก่อนนอน กับวันที่ไม่แต่งหน้า เพราะว่าถ้าไปแล้วลงกันแดดหรือรองพื้นทับหน้ามันจะลอกเป็นขุยเลยทีเดียว จึงไม่เหมาะอย่างแรงกับการทาตอนเช้า ซึ่งจริงๆ ถ้าจะให้ได้ผลก็ควรจะทาทั้งเช้าและเย็น รับรองเลยเรื่องแผลเป็นลด และจางเร็วพอตัว ค่าเสียหายก็น่ะ หลอดเล็ก 100 ก่า หลอดใหญ่ประมาณ 500 เกือบ 600 ได้ หาซื้อได้ที่ร้านขายยา
ตัวสุดท้าย Micropeel Delivery ของ Philosophy อันนี้นิเลิศมาก มันคือครับขัดหน้าใช้แล้วหน้าเด่ง นุ่มใส แบบเห็นได้ชัดเลย วิธีใช้เริ่มแรกก็เอาเกล็ดคริสตอลเป็นวิตามินซี มาขัดๆที่หน้า รู้สึกดีค่ะ เกล็ดค่อนข้างละเอียดพอสมควร ค่อยๆขัด ทั้งหน้า ยกเว้นรอบดวงตา ขัด นวดไป แล้วก็ทิ้งไว้ แป๊ปนึง สัก 1-2 นาที แล้วก็ บีบอีกตัวจากขวดๆ มาทาบนหน้า แล้วก็นวดไปจนเนื้อเจลผสมกับเนื้อคริสตอลจะได้โฟมนิ่ม สีขาวๆ แต่ไม่เยอะมาก รู้สึกได้ว่าจะอุ่นๆ ทิ้งไว้ 2 นาที ตัวเจลผสม Lactic Acid ซึ่งเราชอบมาก เพราะถูกกันดี ได้เวลาล้างออก ล้างออกด้วยน้ำอุ่น พอซับหน้าแล้วรู้สึกว่า มันลื่นดีจังเลย ชอบมากกก กลิ่นก็ดี ออกส้มๆ เราก็ทำอาทิตย์ละ 2 หน รู้สึกว่าหน้าลื่นดีมากก เวลาทาครีมแล้วรู้สึกว่าผิวจะซึมซับครีมได้ดีขึ้น แถมยังทำให้ช่วยผลัดเซลล์ไปในตัวอีก อันนี้แนะนำเลย แต่มันแอบแพงไปหน่อย แต่ใช้ดีมาก
สรุปแล้วที่รีวิวมาทั้งหมดทั้งปวงเนี่ย ก็แค่อยากให้สาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิวที่มันเรื้อรัง หาผลิตภัณฑ์ที่มันเหมาะกะสภาพผิวของตนเองอ่ะ ยิ่งถ้าเป็นสิวง่ายๆ แนะนำเลยว่าหาผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องสิวโดยเฉพาะ ไม่ต้องลองไอ้ตัวอื่น ที่มันไม่ได้ไปทำสำหรับคนเป็นสิวที่ชาวบ้านชาวเมืองเค้าบอกว่าดี เพราะว่าส่วนผสมในเนื้อครีม มันไม่ได้ทำมาให้กับคนที่เป็นสิว ยังงัยๆ มันก็เพิ่มอัตราเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสิวอยู่ดี ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณา
แล้วอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะเตือนสาวๆ มากๆเลย คือไอ้พวกครีมทาหน้าทาแก้สิว แก้ฝา หน้าใส ที่มันขายกันตามหน้าเว็บโครมครามว่าเป็นสมุนไพรนู้นนี่ อย่าได้ไปหลงเชื่อที่เดียวถ้าเราไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาหรือที่ผลิตได้ ถ้าไม่มี อ.ย. รับรอง อย่าเสี่ยงเด็ดขาด ที่ออกมาเตือนเพราะว่า เมื่อเดือนก่อนไปเดินแถวตลาดขายของแถวดอนเมือง แถวเจ้เล้งเก่า โอ้วเห็นเค้าขายไอ้พวกที่บอกเนี่ยแหละ ยังกะตลาดขายส่งกันเลยทีเดียว มีทั้งรกแกะ บัวหิมะ ครีมสมุนไพรนู้นนี่ สรรพคุณนิเวอร์มาก แต่ราคานิแบบแสนจะถูกอย่างไม่น่าเชื่อจนเราแบบเฮ้ย คนซื้อไปใช้หน้าไม่แหกหนักไปกว่าเดิมเลยหรือ คือเราเห็นเค้านั่งทำ packaging กันเลยแบบกลัวแทน ยังงัยๆ ก่อนซื้ออะไร ดูให้ดีๆน่ะค่ะ
พล่ามมาเยอะแหละ ยังงัยขอตัวไปนอนก่อนจ้ะ หวังว่ารีวิวนี้คงช่วยให้สาวๆ หา product ที่เหมาะกะตนเองได้นะจ้ะ ไปละค่ะ
Discussion (9)
ขอบคุณมากๆ ค่ะ ติดตามมาตั้งแต่ภาคหนึ่งละ
ตอนนี้ยังไม่ได้ลองเลยค่ะ
เพราะยังทายาของหมออยู่