รีวิวGraymelin 3สูตรที่ใช้จริง

สามสูตรนี้นะคะ ที่เราได้ทดลองใช้
เรามาเริ่มกันที่สูตรแรกกันเลยดีกว่า นั่นก็คือ
Graymelin 100% Hyaluronic Acid Serum ขนาด 50ml.

เจ้าเซรั่มตัวนี้จะเป็นไฮยาลูรอนิคเพียวๆ 100% เลยค่ะ ไฮยาลูรอนิคไม่เพียงช่วยเติมน้ำให้ผิวแต่ยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการสร้างชั้นผิวและปรับสมดุลผิว ลดการถูกทำร้ายจากรังสียูวีและมลภาวะ

ใครที่อยากเติมน้ำให้ผิวต้องตัวนี้เลย เนื้อเซรั่มตัวนี้จะบางเบา ทาแล้วซึมหายไปในผิวเลยค่ะ ไม่เหนียวเหนอะะหนะ ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่าช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ฉ่ำน้ำ แต่งหน้าติดทนขึ้น

เรามาดูตัวต่อมากันค่ะ นั่นก็คือ
Graymelin Bifida Serum 100% ขนาด50ml.

สารสกัด Bifida Ferment Lysate (BFL) เป็นสารที่ได้จากการบ่มแบคทีเรียBifidaหรือแบคทีเรียดี  รู้จักในนาม Probiotic นั่นเอง ความพิเศษอยู่ที่BFLนี้สามารถซ่อมแซมและบำรุงผิวได้ลึกถึงระดับเซลล์เลยทีเดียว

ตัวนี้เค้าเคลมว่าเหมือน เซรั่มตัวดังของทั้ง2แบรนด์นี้ คือ Estee Advanced Night Repair กับ Lancome Advanced Genifique Serum

ส่วนตัวเราว่าเหมือนในที่นี้คือคุณสมบัติเจ้าตัวBifida ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ช่วยให้ผิวแข็งแรง ไม่โทรม แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับANR ส่วนตัวLancomeนี่เรายังไม่เคยลองใช้ ถ้าใครงบไม่ถึงสองตัวดังก็ใช้เจ้าตัวGraymelin Bifida Serumทดแทนไปได้จ้า

เซรั่มตัวนี้เราใช้แล้วรู้สึกว่าช่วยในวันที่เรานอนดึกอะ ตื่นมาแล้วหน้าไม่โทรม ปกติที่หน้าแพ้ง่ายก็รู้สึกได้ว่าแข็งแรงขึ้น ช่วยลดรอยแดงจากสิว

ตัวสุดท้ายนะคะ คือสูตร
Graymelin Galactomyces 100% Ferment Filtrate ขนาด 50ml.

ตัวนี้มีส่วนผสมหลักจากพิเทร่า(Pitera) ยีสต์หมักสัญชาติเกาหลี หัวเชื้อพิเทร่าอันโด่งดัง สารสกัดตัวเดียวกับ SKII ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับผิวมนุษย์

ตัวนี้ใช้แล้วรู้สึกว่ารอยสิวจะจางลงไวขึ้น ผิวดูละเอียดขึ้น ผิวกระจ่างใส แต่เคยใช้แบบสูตรเดียวจะไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ พอใช้กับสองสูตรด้านบนรู้สึกว่าเห็นผลชัดขึ้น

สรุปทั้งสามตัวนี้นะคะ
-เนื้อเซรั่มบางเบามาก
-ไม่มีแอลกอฮอลล์
-ไม่มีน้ำหอม
-ไม่มีพาราเบน
-ผิวแพ้ง่ายใช้ได้จ้า
-ไม่ควรใช้แค่สูตรใดสูตรหนึ่ง เพราะอาจไม่เห็นผลเท่าที่ควร
-เหมาะกับคนงบน้อย

สุดท้ายนี้ฝากติดตามผลงานรีวิวต่อๆไปด้วยนะคะ เราเพิ่งเคยรีวิวครั้งแรกผิดพลาดประการใด สามารถติ-ชมได้นะคะ