สวัสดีค่าสาวจีบัน วันนี้เราจะขอมาเปิดศึก 1 fight 1 กับวิตซีต่างสัญชาติตัวนึงจากเอเชีย อีกตัวนึงจากยุโรป ที่มีความเลื่องชื่อและโด่งดังมานาน ใครๆ ก็บอกว่าถ้าอยากลองใช้วิตซี ก็ลองดูเป็น 2 ตัวนี้สิจ๊ะเธอ...ทำให้เกิดไม่อยากเลือก อยากใช้พวกเค้าทั้งสองคน เลยซื้อมาทั้งสองไปเลย 

ซึ่งงานนี้ขอบอกว่าไม่มีดราม่า ไม่มีเข็มขัดเกิน เอ้ยยย..ไม่มีการให้คะแนนเกิน เพราะใช้จริง (เริ่มเห็นผลเลยมาแชร์ให้ฟังกัน) เจ็บจริง (เพราะจ่ายตังเอง ไม่มีผู้เปย์ให้)ให้คะแนนกันจริงๆ มาดูกันว่าคู่นี้ จะชนะคะแนน หรือชนะแบบน็อก ลองมาดูกันจ้า

เปิดตัวคู่ดวลในครั้งนี้ นั่นคือ Melano CC (จากญี่ปุ่น) VS  Kiehl's (จากอเมริกา)

**ซึ่งเกณฑ์การตัดสินครั้งนี้ เราจะดูเรื่องช่วยปรับความกระจ่างใสได้ขนาดไหน / ช่วยลดเรื่องรอยสิวได้มั้ย / ความชุ่มชื่น / ดีต่อผิวหน้าในระยะยาว / ผลลัพธ์ต่อความคุ้มค่า และความประทับใจในแง่ต่างๆ

ซึ่งความเหมือนของ 2 ตัวนี้ คือ เค้าเคลมว่าเป็น Pure Vitamin C เหมือนกัน ที่เป็นวิตามินบริสุทธิ์แท้ๆ เข้มข้นผสมอยู่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว และด้วยความที่เป็น Pure Vitamin C คือมันจะไวต่อแสงแดด อากาศมากๆ เลี่ยงได้คืออย่าเอาไปวางให้โดนสิ่งพวกนี้ เพราะว่ามันจะทำลายวิตามิน ทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้นะ

ขอเล่าประวัติ เพื่อทำความรู้จักผู้เข้าแข่งขันกันก่อนคร่าวๆ

ผู้เข้าแข่งขันฝั่งเอเชีย 

 >> Melano CC Vitamin C Brightening Essence จากญี่ปุ่น << 

20 ml ราคา 480 บาท

ผู้เข้าแข่งขันฝั่งยุโรป 

>> Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate จากอเมริกา <<

50ml ราคา 3,200 บาท

มีส่วนผสมวิตามินซีเข้มข้น 12.5% ที่ดังจากฝั่งอเมริกา เน้นจัดการจุดด่างดำ ฝ้า กระ และช่วยให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียน   เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องไปสัก 4 สัปดาห์  ยังมี Hyaluronic Acid ให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นกับผิวอีกด้วยจ้า แต่ราคาคือหยอดกระปุกซื้อเลยจ้า แต่ไม่ลองก็ไม่รู้อ่ะเนอะ

.

.

3 2 1 เราเริ่มเทียบกันหมัดต่อหมัดกันเลย 

ยกที่ 1 : เนื้อสัมผัส / กลิ่น / การซึมซาบ (แล้วแต่คนชอบเลยตรงนี้)

Melano CC > เนื้อเอสเซ้นซ์แบบเจลใส บางเบา มีกลิ่นหอมซิตรัสเต็มๆ ได้อารมณ์แบบสปาผิว ผ่อนคลาย ฟินๆ ซึ่งตัวนี้เกลี่ยง่าย ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาอะไรที่มันหนักผิว และตอนทาลงบนผิวจะมีความอุ่นๆ ผิวนิดๆ

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 9/10

Kiehl's > เนื้อจะเป็นซิลิโคนสีขาวนวลๆ ทาแล้วผิวจะลื่นๆ ตอนทาเหมือนจะไม่ค่อยซึมลงผิวเท่าไหร่ ความรู้สึกมันเหมือนแค่เคลือบๆ ผิวอะ ต้องเกลี่ยทาดีๆ ไม่งั้นมันจะเป็นขุยๆ ซึ่งกลิ่นตัวนี้ก็หอมซิตรัสอ่อนๆ ใครที่อยากใช้วิตซี แต่ไม่ค่อยชอบกลิ่น ตัวนี้แหละเหมาะ และตอนทาก็จะมีความอุ่นผิวเหมือนกัน

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 9/10

ยกที่ 2 : ความกระจ่างใส / รอยดำ รอยแดง จากสิว

Melano CC > ตัวนี้เคลมว่าเห็นผลภายใน 14 วัน แต่เอาจริง เราก็ไม่ได้หวังผลเร็วอะไรขนาดนั้น แต่หลังจากใช้อาทิตย์ที่ 2 ก็รู้สึกว่าผิวแดงๆ ตรงร่องจมูก คาง มันน้อยลง และใช้ไปเรื่อยๆ รอยสิวแดงๆ มันจางลงเรื่อยๆ เหมือนกัน รอยดำๆ ก็จางลงจริงนะ เวลาตอนเช้ามารู้สึกว่าผิวไม่ค่อยหมอง ไม่โทรม เริ่มเห็นความสดใสของใบหน้า 

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 10/10

Kiehl's > ส่วนตัวนี้เคลมว่าจะเห็นภายใน 4 อาทิตย์ ซึ่งเราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงช่วงอาทิตย์ที่ 3 รู้สึกว่าหน้ามันไบรท์ๆ ขึ้น รอยสิวดูจางลง รู้สึกหน้านุ่มๆ ในตอนเช้า เราชอบฟีลลิ่งนี้นะ (แต่คิดว่ามาจากเนื้อซิลิโคนเคลือบผิว เพราะพอล้างหน้าก็ไม่นุ่มเหมือนตอนแรกละ งง 5555) 

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 9/10

ยกที่ 3 : ความเปลี่ยนแปลงหลังใช้ได้ 1 เดือน / เรื่องสิว / รูขุมขน

Melano CC > ก็รู้แล้วว่าไม่แพ้วิตซีตัวนี้แน่นอน เพราะช่วงที่ใช้ ไม่มีสิวขึ้นเพิ่ม และรู้สึกว่าหน้าใสขึ้นกว่าเดิม ผิวไบร์ทขึ้นประมาณ 1 สเต็ป ผิวหน้าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ แบบสีผิวเรียบเนียน ทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ส่วนเรื่องรูขุมขนเราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง 

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 9/10

Kiehl's > ตัวนี้ระหว่างที่ใช่ไปเรื่อยๆ เรารู้สึกว่าชอบมีสิวผดเล็กๆ ผดขึ้นเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้ขึ้นมากมาย สิวอักเสบมีเกิดขึ้นบ้าง แต่รู้สึกว่าผิวหน้าไบร์ทขึ้น 1 สเต็ป สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รู้สึกผิวหน้า รูขุมขนกระชับขึ้น แต่ผิวไม่ค่อยเรียบเนียน เพราะตอนใช้แอบมีผดและสิวขึ้นอย่างที่บอก และเรื่องริ้วรอยต่างๆ ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงนะ

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 8/10

ยกที่ 4 : ลักษณะการใช้งาน  

Kiehl's > เป็นแบบขวดปั้ม ใช้ง่าย กดง่าย กดประมาณ 2 ปั้ม ก็ทาทั่วหน้าแล้ว ใช้ง่ายมากเว่อร์ แต่สีขวดไม่ทึบอะ แต่คิดว่าคงกันแสงได้ในระดับนึง ตอนใช้ก็พยายามเก็บให้พ้นแสง และอย่าเปิดฝาออกมาเล่นล่ะ ไม่งั้นอากาศจะเข้าไปทำลายวิตามินได้ 

จุดนี้ทำคะแนนไปได้ : 8/10

ตารางสรุปคะแนนสำหรับเวทีหมัดต่อหมัดครั้งนี้จ้า 

งานนี้วิตซีโซนเอเชีย กับ โซนยุโรป สูสีกันเว่อร์ ยังไงก็ลองดูกันน้าค้า