๋Jeban X Clinique ผลการใช้ Clinique ID เป็นเวลา 2 สัปดาห์

สวัสดีค่าทุกคน วันนี้เราจะมารีวิว Clinique ID ที่เราได้มาจากการเป็นผู้โชคดีไปร่วมงาน Jeban X Clinique เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เรามาช้ามาก เพราะ 2 อาทิตย์แรกหลังจากไปงานหน้าเราแพ้อะไรไม่รู้มีสิวแดงขึ้นที่หน้าผาก ไม่เยอะแต่ก็รู้ได้ว่าเกิดจากการแพ้อะไรซักอย่าง เราก็เลยไม่อยากลองใช้ในช่วงนั้น คือถ้าใช้ช่วงนั้นแล้วแพ้มากขึ้นไปอีกก็ไม่แฟร์กับแบรนด์ที่เราจะบอกว่าเราแพ้ตัวนี้ เพราะเวลาหน้าคนเราแพ้ขึ้นมาเนี่ย อะไรที่ไม่แพ้ก็อาจจะแพ้แล้วทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่ายไม่ช่วงนั้น ว่าแล้วไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่า

ในงานที่ไปทุกคนจะได้ My Clinique ID Passport และได้รับการตรวจผิวหน้าว่าเราเหมาะกับ Moisturizer และ Booster สีไหน

เราว่าสาวๆโดยส่วนมากรู้อยู่แล้วว่า Moisturizer มี 3 สูตร คือ
1. Clinique ID Dramatically Different Moisturizing Lotion + Emulsion เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก และผิวผสมค่อนไปทางแห้ง
2. Clinique ID Dramatically Different Oil-Control Gel เหมาะกับผิวผสมค่อนข้างมันถึงมันมาก
3. Clinique ID Dramatically Different Hydrating Gel เหมาะกับทุกสภาพผิว

และตัวบูสเตอร์มีถึง 5 สูตร
1. สีเขียว มีสารบำรุงเข้มข้นจากสาหร่ายและใบชาขาว เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
2. สีฟ้า สารบำรุงเข้มข้นจากกรดอัลฟ่า ไฮโดรซิล เหมาะสำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
3. สีขาว สารบำรุงเข้มข้นจากรากสมุนไพรเจแปนนิส แองเจลิก้าหรือโสมตังกุย เหมาะสำหรับสีผิวดูไม่สม่ำเสมอ
4. สีส้ม สารบำรุงเข้มข้นจากอะมิโนเทอรีนและคาเฟอีน เหมาะสำหรับผิวเหนื่อยล้าขาดความเปล่งประกาย
5. สีม่วง สารบำรุงเข้มข้นจากเวย์โปรตีน เหมาะสำหรับผิวที่มีริ้วรอย

การเลือก Clinique ID ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนและต้องการแก้ปัญหาตรงจุดไหนมากที่สุด สำหรับเราตามที่เช็สภาพผิวออกมาเราต้องได้ Moisturizer ที่เป็นเนื้อ Lotion ที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้งหรือผิวผสมค่อนไปทางแห้ง และต้องได้บูสเตอร์สีส้ม เพราะเรานอนน้อยและผิวเหนื่อยล้า แต่ด้วยความที่ตัวเราเองอยากลอง Hydrating Jelly ประกอบกับเราชอบสีม่วง เราก็เลือกทั้ง 2 อย่างนี้มา ซื้อถ้าพูดถึงบูสเตอร์ก็ถือว่าเหมาะกับเรา เพราะเราก็มีปัญหาเรื่องริ้วรอยพอสมควร

การเลือกก็สามารถเลือกได้ถึง 15 แบบเลยย 

เราลองแล้วเราชอบมากเลยเพราะเนื้อเจลลี่ซึมเร็วมาก ไม่เหนอะหนะเลย ถ้าเทียบกับเนื้อโลชั่นที่เราเคยลองของเพื่อน เราชอบตัวนี้มากกว่า แต่ถ้าไปที่อากาศหนาวมากๆ ยังไงโลชั่นก็ดีกว่าาา

ที่หัวปั๊มจะมี 2 รู ตาม ที่แบรนด์บอกคือ จะมี Moisturizer ออก 90% และบูสเตอร์แค่ 10 %

ผลหลังจากการใช้ประมาณ 2 สัปดาห์ของเราถือว่าค่อนข้างน่าพอใจเลยค่า ร่องแก้มดีขึ้น ถึงจะไม่ได้มากไม่ได้เห็นชัดเจนอะไรมากก็ยังดีกว่าเราไม่ทำไรเลย55

ภาพทั้ง 2 ไม่มีการแต่งรูปนะคะ ก่อนใช้เราถ่ายแสงนีออน หลังใช้เราถ่ายแสงธรรมชาติเลยค่ะ ใครๆก็รู้ว่าแสงธรรมชาติเวลาที่เราอยู่ในที่ร่มและไม่พยายามหันเข้าหาแสงผลที่ได้มักจะโหดร้ายเสมอ คืออาจไม่ได้ต่างกันมากอย่างที่เราบอก แต่มันดีขึ้นจริงๆ แต่ผลลัพธ์ใน 2 สัปดาห์ได้ขนาดนี้ เราพอใจค่าาาา เราก็อยากจะมีเวลาทดลอง 1 เดือนเต็มๆ แต่สภาพผิวหน้าไม่เป็นใจจริงๆ เราลองแบ่งแม่เราใช้ได้ค่าาา แม่ชอบมากกกก

มาจบกันที่ภาพกิจกรรมในวันนั้นค่าาา

+3

ดีใจที่ได้เจอสาวๆทุกคนนะคะ

  BYE XOXO