ปฏิบัติการเติม-กัก-ตุน! ความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย INTENSE HYDRATION by BURT'S BEES

ฮัลโหลววว สวัสดีวันสุขทุกๆ คนค่าา (>3<)

วันนี้ขอเปิดตัวมาด้วยความสดใสร่าเริง อาจจะเป็นเพราะวันนี้วันศุกร์หรรษาที่จูนไม่ได้มาตัวเปล่าแต่มาพร้อมกับพายุฝนฟ้าคะนอง... ผ่ามไม่ใช่! ที่มาพร้อมกับกล่องชิ้นใหญ่จากแบรนด์ BURT'S BEES ที่ใครหลายๆ คนก็น่าจะรู้ว่าลิปมันของแบรนด์นี้มันดีย์มากๆๆๆๆๆ และอีกความจริงก็คือจูนแอบเพิ่งมารู้ด้วยว่านอกจากลิปมันของเขาแล้วเนี่ย แบรนด์นี้เขาก็มีสกินแคร์มาให้เราได้ลองใช้กันอีกด้วย! วันนี้จูนเลยอยากจะมาเปิดกล่องที่อัดแน่นไปด้วยน้องๆ สกินแคร์ 3 ชิ้นแบบจุกๆ อันประกอบไปด้วย Eye Cream, Day Lotion และ Night Cream ที่จูนได้ทำการทดลองใช้มาแล้วเกือบๆ 2 อาทิตย์ เลยอยากจะมาแชร์มาเล่าให้ฟังกันว่าหลังจากที่ได้ลองใช้น้องๆ เขานั้นมีข้อดีและข้อเสียยังไงบ้าง แล้วควรตำมากหรือตำน้อยเราตามไปดูกันเลยค่ะ 

โดยไลน์นี้เขาจะมาในธีมที่มีชื่อว่า "INTENSE HYDRATION" แค่อ่านก็รู้ทันทีว่าน้องๆทั้งสามชิ้นนี้เขาน่าจะตอบโจทย์ปัญหาผิวแห้ง-ขาดน้ำได้เป็นอย่างดี และที่น่าสนใจอีกตัวคือ Eye cream เพราะช่วงนี้จูนนอนดึกและใช้สายตาเยอะในการทำภารกิจดูซีรี่ย์ต่างๆอย่างเมามันส์ เลยทำให้ตาดูล้าๆ ขาดความชุ่มชื้นแลดูไม่สดใส เลยอยากแอบลองสุดๆ นอกจากเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดเลือน ริ้วรอยร่องเล็กและร่องลึกต่างๆให้ดูตื้นขึ้นด้วย 

แล้วถ้าใครที่อายุเพิ่ง 25 แล้วยังคิดว่าการเติมความชุ่มชื้นยังไม่จำเป็นหรอกจูนบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ เพราะปัจจุบันนี้มลภาวะรอบตัวเรามากขึ้นกว่าสมัยก่อนมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงสีฟ้าเอย IR หรือแม้แต่ฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะมันเป็นตัวการสำคัญทำให้ผิวเหี่ยวและแก่ก่อนวัย ดังนั้นการเติมความชุ่มชื้นจึงสำคัญมากๆค่ะ ไม่ต้องรอให้อายุขึ้นเลข 3 ก็สามารถดูแลและปกป้องผิวของเราได้ตั้งแต่ตอนนี้จะดีที่สุดค่ะ^^

Burt's Bees Intense Hydration Night Cream

ขนาด 50 g. /  ราคา 1,780 THB

ตัวนี้เป็นไนท์ครีมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวจากดอกไม้ที่มีชื่อว่า "แคลรี่ เซจ" (Clary Sage) อีกทั้งยังมีสารสกัดจากผิว "บิทเทอร์ ออเรนจ์" (Bitter Orange Peel Extract) ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และตัวสุดท้ายคือ"มาฟูรา บัทเทอร์" (Mafura Butter) ซึ่งตัวนี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมันที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิวได้เป็นอย่างดีค่ะ

และส่วนผสมที่น่าสนใจเพิ่มเติมเลยคือ...

• ทูคูมา บัทเทอร์ (Tucuma Butter) ตัวนี้เขาจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวนุ่ม 

• โคคุม บัทเทอร์ (Kokum Butter) จะเน้นช่วยสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวเป็นหลัก แต่ที่พิเศษคือเขาผสานคุณค่าของเทคโนโลยีโปรไบโอติก ที่ช่วยปรับโครงสร้างให้ผิวสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าจะให้สรุปสั้นๆคือตัวนี้เขาจะเน้นเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว+ปรับสมดุลผิวไปในตัว เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมากๆ ไปจนถึงคนที่มีผิวขาดน้ำน่าจะชอบเลยค่ะ อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตัน คนที่ผิวค่อนข้างอุดตันง่ายหรือเป็นสิวก็สามารถใช้ได้ค่ะ

แอบขอเกริ่นก่อนว่าจากที่ได้ลองใช้มาทั้ง 3 ตัว สิ่งที่เหมือนกันเลยคือกลิ่น คือกลิ่นของเขาจะไม่ได้เชิงหอม แต่ไม่ได้ฉุนหรือเหม็นอะไรนะ จะเป็นกลิ่นฟีลๆเนื้อครีมที่ได้ปรุงแต่งมากอะ555 ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือตรงที่เนื้อสัมผัสล้วนๆ เลย โดยเนื้อของไนท์ครีมตัวนี้จะมีความเข้มข้นมากๆๆ พอๆ กับตัวอายครีมเลยค่ะ ปกติจูนเป็นคนผิวมัน-ขาดน้ำเลยจะชอบเนื้อครีมที่บางเบา แต่ตัวนี้จะมีความหนักๆ หน่อย ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆที่เคยใช้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากตื่นนอนมาคือโอเคเลยแบบงงมาก

อันดับแรกจูนขอพูดในเรื่องเนื้อครีมของเขากันก่อน จะบอกว่าเนื้อหนักกว่าที่คิด555 แต่ไม่ได้ถึงกับแย่ขนาดนั้นนะ คือเกลี่ยง่ายอยู่แต่อาจจะซึมช้านิดนึงค่ะT^T จากที่ลองใช้มาน้องเขาจะใช้เวลาประมาณ 1-2 นาทีเลยกว่าจะรู้สึกว่าเนื้อครีมซึมเข้าผิวไปหมด แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ เพราะพอตื่นมาปกติจากที่หน้าจูนจะมันมากถึงแม้จะนอนให้ห้องแอร์ก็ตาม พอหลังใช้นางมาประมาณสัปดาห์ที่ 1 หน้าจะดูอิ่มน้ำแบบไม่มันเลย และผิวดูเนียนๆขึ้น พอจับคือหน้านิ่มมากๆแบบรู้สึกได้เลย จากเป็นคนที่อคติกับเนื้อครีมที่หนัก(หนักในที่นี้จูนหมายถึงครีมที่เนื้ออาจจะซึมช้ากว่าเนื้อครีมที่เป็นแบบกึ่งเจลนะงับ)เลยเปลี่ยนความคิดไปเลย เพราะเมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วคือโอเคมากๆ แต่แนะนำว่าให้ทาตอนนอนในห้องแอร์จะดีที่สุดค่ะ5555

Burt's Bees Intense Hydration Eye Cream

ขนาด 10 g. / ราคา 1,020 THB

มาต่อกันที่อายครีมกันเลยจ้า ตัวนี้มาในขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย ส่วนปลายจะเป็นหัวแหลมคล้ายๆหัวดินสอ พอบีบเนื้อครีมออกมาจะเห็นได้ว่ามีความเข้มข้นสูงมาก คือบีบออกมาเป็นเส้นเลยที่เดียว ไม่ไหลไม่หกไม่เยิ้ม ลองใช้นิ้วเกลี่ยเนื้อจะคล้ายๆกับตัวไนท์ครีมแต่จะข้นๆหนืดๆกว่านิดนึง แต่ยังเกลี่ยง่ายอยู่

ในเรื่องของส่วนผสมจะคล้ายกับตัวไนท์ครีมเลย จากที่ดูด้านข้างกล่องพอเทียบกันแล้วไม่ได้แตกต่างกันมากค่ะ แต่จูนจะขอยกส่วนผสมที่น่าสนใจและไม่ซ้ำกับตัวไนท์ครีมแทนแล้วกัน เริ่มจาก

• Capric Triglyceride สารสกัดจากมะพร้าว ช่วยฟื้นฟูผิว สามารถซ่อมแซมผิวที่ขาดความชุ่มชื้นให้กลับมาเนียนนุ่ม  ตัวนี้อยู่ในอันดับต้นๆเลยคาดว่าน่าจะใส่ในปริมาณที่เยอะอยู่ค่ะ

• Persea Gratissima (Avocado) Oil  น้ำมันจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามิน A, D และโปรตีนที่จำเป็นต่อผิวพรรณ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่แห้งแตกและหยาบกร้านให้กลับมาเนียนนุ่ม

• Aloe Barbadensis Leaf  Powder สารสกัดจากใบว่านหางจระเข้ ทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิว ช่วยให้ความนุ่มลื่นกับผิว

ถ้าดูคร่าวๆแล้ว ส่วนผสมที่อยู่ในอายครีมนอกจากจะเน้นเติมเต็มความชุ่มชื้นแล้วยังช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาแข็งแรง+เนียนนุ่มขึ้นค่ะ 

ปกติเป็นคนไม่ค่อยได้บำรุงผิวใต้ตาเลย คือนานๆทีจะดูแลที ส่วนใหญ่จะใช้ที่เป็นแผ่นมาส์กตาเพราะสะดวกดี แต่พอได้มาลองตัวนี้ก็ค่อนข้างเห็นความต่างตรงที่ใต้ตาดูกลับมาเนียนและนุ่มขึ้นจริงๆ แต่พวกปัญหาใต้ตาคล้ำส่วนตัวยังไม่เห็นผลนะ ถ้าใครที่อยากหาอายครีมที่ช่วยเน้นบำรุงริ้วรอยรอบดวงตาคือแนะนำเลยแต่ถ้ามีปัญหาใต้ตาคล้ำอาจจะต้องหาตัวอื่นมาใช้ควบคู่ด้วยจ้า

Burt's Bees Intense Hydration Day Lotion

ขนาด 50 g. / ราคา 1,680 THB

มาถึงตัวสุดท้ายกันเลี้ยววว ตัวนี้เป็นเดย์โลชั่นสามารถใช้ทาบำรุงก่อนทาครีมกันแดดได้ตามปกติเลย จากที่ดูตัวนี้ส่วนผสมจะคล้ายๆกับตัวอายครีมและไนท์ครีม ซึ่งจากที่เทียบกันแล้วส่วนผสมของตัวนี้จะคล้ายตัวอายครีมมากกว่า แต่ก็จะมีส่วนผสมที่อยู่ในไนท์ครีมด้วยเหมือนกัน ดังนั้นจูนขอสรุปคร่าวๆเลยว่าตัวนี้จะเน้นช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นผิวเป็นหลัก+บำรุงฟื้นฟูผิวและปรับสมดุลไปด้วยในตัวค่ะ แต่ตัวนี้จากที่ลองใช้เนื้อบางเบาสุดแล้ว เกลี่ยง่ายกว่าสองตัวด้านบนมาก และซึมไวกว่าด่้วยเน้ออ

ถ้าจากในรูปจะเห็นได้ว่าเนื้อโลชั่นจะมีความเหลวกว่าสองตัวบนเลย พอทาไปแล้วถามว่าซึมไวไหม? ถ้าเทียบกับสองตัวบนตัวนี้ซึมไวกว่าค่ะ ซึ่งผลลัพธ์จากที่ลองใช้ตัวนี้สำหรับจูนเรื่องความชุ่มชื้นคือดีย์มากๆ เวลาแต่งหน้าแล้วติดทนดี ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นมากๆ แต่เรื่องริ้วรอยอะไรยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นะ อาจต้องใช้เวลามากกว่านี้หน่อย แต่โดยรวมถือว่าผ่านเลยสำหรับคนผิวขาดน้ำ

โอเคก็จบกันไปแล้วน้าสำหรับรีวิวในครั้งนี้ ส่วนตัวถามว่าประทับใจและชอบตัวไหนมากที่สุด คงเป็นตัวไนท์ครีมที่อยากให้ทุกคนไปลอง เพราะปกติจูนนี่แทบจะเลี่ยงเนื้อครีมแนวนี้มาก เพราะกลัวไปเองว่ามันจะไปอุดตันทำสิวขึ้นหรือเปล่า5555 แต่พอลองเปิดใจใช้คือผลลัพธ์มันดีกว่าที่คาดไว้มากๆ ยิ่งคนที่ผิวแห้ง เริ่มมีริ้วรอยบริเวณข้างแก้มหรือหน้าผากแนะนำว่าให้ไปโดนด่วนๆเลยค่ะ5555 สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อนไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าว่าจะมีอะไรมาอัพเดตให้อ่านกันอีกอิอิ บ๊ายบายย ขอบคุณและสวัสดีค่า♥