9 Item น่าใช้ในยามเป็นสิว

           สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน วันนี้แป้งจะมาบอกต่อ 9 item น่าใช้ในยามเป็นสิวนะคะ ซึ่ง 9 item ที่แป้งจะมาแนะนำในวันนี้ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เข้าใจง่ายเดี๋ยวแป้งจะแยกให้เป็นกลุ่มๆ ละกันค่ะ

          กลุ่มแรกก็คือโฟมล้างหน้านะคะ เพราะว่าการทำความสะอาดผิวถือได้ว่าเป็นการดูแลผิวในขั้นตอนแรก เพราะว่าเป็นการเตรียมผิวเพื่อให้พร้อมรับการบำรุงค่ะ
          ตัวแรกที่แป้งแนะนำก็คือ Smooth-E Babyface Foam นะคะ ตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เพราะว่าเป็นออแกนิค 100% ค่ะ ช่วงที่แป้งรู้สึกว่าผิวแห้งหรือมีอาการแสบผิวแป้งจะชอบใช้ตัวนี้ เพราะว่าเขาช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และลดอาการแสบหรือระคายเคืองได้ เนื้อโฟนเป็นสีขาวข้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ นะคะ เกลี่ยออกมาก็เป็นโฟมที่ไม่มีฟองตามที่โฆษณาเขาบอกเลยค่ะ แต่ข้อเสียของตัวนี้ก็คือด้วยความที่เป็นโฟมแบบไม่มีฟองนะคะ เลยต้องใช้ปริมาณเยอะหน่อย ทำให้รู้สึกเปลืองค่ะ 555+ แล้วก็ในยามฉุกเฉินถ้าวันที่เราแต่งหน้าแต่ไม่มี Cleansing ตัวนี้ไม่สามารถล้าง คสอ แก้ขัดได้นะคะ เพราะนางล้าง คสอ ไม่ออกค่ะ แต่ถ้าล้างหน้าแบบหลังจากใช้ Cleansing เช็ด คสอ ออกแล้ว ตัวนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ดีอยู่นะคะ

           อีกตัวคือ Beauty Cottage Soda Pore Minimize Cleansing Foam นะคะ ตัวนี้ดีงามกับคนผิวมันมากๆ ค่ะ เพราะว่าเขาช่วยล้างความมันบนใบหน้าออกได้ดี แต่ว่าคนผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ เพราะว่าเขาอ่อนโยนต่อผิว แล้วก็ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วย ช่วยดีท็อกส์ผิว ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและตราบ คสอ ที่ตกค้างอยู่บนใบหน้า แล้วก็ช่วยละลายหัวสิวด้วยค่ะ เนื้อโฟสของเขาก็จะเป็นสีขาวข้นนะคะ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่นมากๆ พอเกลี่ยก็จะกลายเป็นฟองนุ่มๆ ละเอียดๆ เหมือนวิปครีมค่ะ ตอนนี้แป้งใช้ตัวนี้เป็นหลักเลย เพราะว่าแป้งเป็นคนหน้ามัน และอีกอย่างคือ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินไม่มี Cleansing ตัวนี้ก็สามารถล้าง คสอให้อย่าสะอาดหนดจดเลยนะคะ และที่สำคัญคือบีบออกมาแค่นิดเดียวก็ใช้ได้ทั้งหน้าเลยค่ะ คลีนหมดจดลดผิวมันแบบที่เขาเคลมเลย แต่ว่ายังไงเราก็ควรใช้ Cleansing กันก่อนนะคะ จำเป็นจริงๆ ค่อยใช้เดี่ยวๆ ค่ะ

          กลุ่มต่อไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แก้ปัญหาเฉพาะจุดนะคะ
          ตัวแรกเป็นเจลแต้มสิวที่เป็นกลุ่มตัวยา Clindamycin ค่ะ อันนี้เลือกยี่ห้อไหนก็ได้นะคะไม่ต่างกัน จะต่างกันแค่บางตัวทำเป็นแบบโลชั่นแค่นั้นเองค่ะ แต่ที่แป้งหาได้ตอนนั้นคือ Preme Nobu นะคะ ตัวนี้เป็นยาฆ่าเชื้อค่ะ ใช้แต้มแค่สิวที่อักเสบเท่านั้น ทาเฉพาะแค่กลางคืนด้วยนะจ๊ะ แล้วกลางวันก็ควรทากันแดดด้วย เพราะว่ายาตัวนี้ค่อนข้างแรง หลังใช้จะมีอาการแสบเล็กน้อยถึงมากค่ะ เนื้อของเขาเป็นเจลใสๆ กลิ่นใกล้เคียงกับแอลกอฮอล์นะคะ พอเกลี่ยงแล้วก็จะซึ่มหายไปเลยค่ะ ถ้าสิวอักเสบเยอะจนจำเป็นต้องใช้ตัวนี้ก็ให้หยุดพวก Whitening การสคลับผิว การแกะสิว หรืออะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง นะคะ.เพราะว่าจะทำให้แสบมากๆ ได้ค่ะ

           ตัวต่อมาเป็น Epiduo gel นะคะ เป็นเจลรักษาสิวที่เป็นการผสานของ 2 ตัวยาเข้าด้วยกัน ก็คือ Adapalene และ Benzyl peroxide ต่ะ ตัวนี้เหมาะกับคนที่มีสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ถ้าเป็นสิวเยอะมากจริงๆ สามารถทาทั่วหน้าได้นะคะ ยกเว้นจุดที่ผิวบอบบางค่ะ แต่ไม่ควรใช้ทั้งหน้าในระยะยาวนะคะ เพราะตัวนี้ตะข่วยทั้งผลักสิวที่กำลังจะขึ้นให้ออกมาให้หมดพร้อมกับการละลายสิวค่ะ อาจจะทำให้ผิวบริเวณที่ไม่ได้มีปัญหาเกิดการระคายเคืองได้นะคะ อาจะใช้ทั้งหน้าในช่วงแรกพอดีขึ้นก็เปลี่ยนมาแต่งเฉพาะจุดก็ได้ค่ะ เนื้อของเขาเป็นเจลสีขาวขุ่นกลิ่นแทบไม่มีเลยนะคะ พอเกลี่ยปุ๊บก็ซึมปั๊บ ไม่เหนอะหนะค่ะ แต่ตัวนี้ก็มีข้อควรระวังทุกอย่างเหมือน Clindamycin เลยนะคะ ต่างกันนิดนึงตรงที่อันนี้ไม่เสบถ้าไม่มีตัวกระตุ้มค่ะ สามารถใช้คู่กับ Clindamycin ได้ แต่ว่าแค่แป๊บเดียวนะคะ ไม่งั้นจะแสบถึงซวงเลยค่ะ

          อีกตัวเป็นครีมแต้มสิว Tomei 7 in 1 นะคะ อันนี้เป็นครีมแต้มสิวที่ถือว่าโอเคมาก เพราะสามารถแต้มได้บ่อยครั้งตามความต้องการ จะแต้มเวลาไหนก็ได้ แล้วก็ทาบริเวณใกล้เคียงได้ ไม่ระคายเคืองผิวค่ะ แป้งชอบใช้กับสิวอักเสบ แล้วก็จุดที่รู้สึกคันๆ เหมือนสิวจะขึ้นนะคะ เนื้อเขาก็จะเป็นเจลสีขาวขุ่น กลิ่นอ่อนมากแต่ก็เป็นกลิ่นที่รู้สึกคลีนดีค่ะ เกลี่ยง่าย บางเบา ทาทับเมคอัพได้ไม่เป็นคราบนะคะ แต่ถึงแม้ว่าตัวนี้จะไม่ระคายเคืองผิวก็ตามถ้าใช้พร้อม Clindamycin หรือสิวที่แกะก็ร้องเหมือนกันค่ะ

          ต่อไปมาที่กลุ่มของ Moisturizer กันบ้างนะคะ อันนี้จำเป็นมากๆ เพราะว่าเป็นพื้นฐานของการบำรุงผิวเลยค่ะ
          ตัวแรกที่แป้งจะพูดถึงก็คือ Beauty Cottage Soda Pore Minimize Cream นะคะ ตัวนึ้จะช่วยในเรื่องของการกนะขับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ละลายหัวสิว ลดรอยสิว และทำให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ เนื้อครีมก็จะเป็นกลึ่งเจล สีขาวขุ่น กลิ่นสดขื่นมาเป็นกลิ่นเดียวกันกับโฟมเลยนะคะ พอเกลี่ยแล้วก็ซึมเลย บางเบา ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ ที่สำคัญคือเป็นมิตรกับเมคอัพมากๆ ด้วย ใช้แล้ว คสอ ติดหน้าดีค่ะ จริงๆ แล้วตัวนี้แป้งรู้จักเป็นตัวสุดท้ายนะคะ แต่อยากพูดถึงก่อนเลยเพราะตอนนี้รักนางที่สุด เพราะเวลาทารู้สึกฟินมาก มีความรู้สึกเย็นๆ ซ่าๆ ออกมาเบาๆ ตอนที่แป้งทดลองใช้ครั้งแรกเป็นตอนกลางคืนนะคะ แล้วพอตื่นเช้ามารู้สึกว่าผิวละเอียดขึ้น สิวอักเสบก็ยุบทั้งที่ไม่มีแต้มอะไรช่วยเลย เพราะใช้นี้แล้วชอบที่แหละค่ะถึงได้มาใช้โฟมด้วย มันจะซ่าๆ หน่อยนะ 555+

          ตัวต่อมาเป็น Ezerra Cream นะคะ เหมาะกับคนที่ผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายมากๆ ค่ะ เพราะตัวนี้ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ลดการระคายเคืองของผิว อ่อนโยนแบบทารกสามารถใช้ได้ เนื้อครีมเป็นสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมนะคะ เกลี่ยนง่าย ซึมไว ไม่มัน ไม่เหนอะค่ะใช้ได้กับทั้งผิวหน้าแล้วผิวกายเลยนะคะ บริเวณไหนที่มีอาการแพ้ หรือคันใช้ทาได้เลยค่ะ

           อีกตัวเป็น Smooth-E Cream นะคะ ตัวนี้ก็เหมาะกับผิวแพ้ง่ายเหมือนกันเพราะว่าเป็น Natural 100% ค่ะ ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น รอยสิว และริ้วรอยแห่งวัย แป้งว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่แกะสิวจนเป็นแผลนะคะ เพราะแป้งรู้สึกว่าเขาช่วยสมานแผล และลดพวกอาการแสบได้ดีค่ะ เนื้อครีมเป็นสีขาวข้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นะคะ เวลาเกลี่ยจะรู้สึกได้เลยว่าครีมข้นมาก แต่ก็ซึมไวนะคะ ไม่มัน ไม่เหนอะด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยควบคุมความมันนะคะ ใช้ได้กับทั้งผิวหน้าแล้วผิวกายเลยค่ะ จะใช้ลดพวกรอยแตกรายก็ได้ค่ะ

          และกลุ่มสุดท้ายก็จะการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนหรือมาส์กนั่นเอง ซึ่งตอนนี้แป้งก็ถูกใจอยู่แค่ตัวเดียวนะคะนั่นก็คือ Beauty Cottage Soda Pore Minimize Mark Sheet ค่ะคุณสมบัติเขาก็จะเหมือนเอาครีมและโฟมมาผสมกันเลยนะคะ ก็คือช่วยในเรื่องของการกนะขับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ละลายหัวสิว ลดรอยสิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยดีท็อกส์ผิวเอาสารตกค้างออกจากผิวค่ะ แผ่นมาส์กสีขาวเนื้อนุ่ม เนื้อมาส์กเป็นเซรั่มเข้มข้น กลิ่นเหมือนกับครีมและโฟมเลยนะคะ มีความเย็นๆ ซ่าๆ เหมือนครีมด้วยค่ะ หลังมาส์กเนื้อเซรั่มซึมเข้าได้แบบไม่ทิ้งความมันเอาไว้เลยนะคะ แล้วก็รู้สึกสดชื่นเหมือนได้รับออกซิเจนด้วยค่ะ

          ทั้งหมดก็เป็น 9 Item สำหรับผิวเป็นสิวนะคะ โฟม 2 เฉพาะจุด 3 moisture 3 มาส์ก 1 ต่ะ ซึ่งแต่ตัวแป้งก็ใช้เองจริงทั้งหมดเลย แต่ละตัวก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปนะคะ ซึ่งแป้งก็มีเปลี่ยนสลับกันใช้บ้างตามช่วงจังหวะของสภาพผิวค่ะ แต่ว่าตอนนี้ที่เห่อที่สุดก็จะเป็น Beauty Cottage Soda Collections นะคะ เพราะว่าตอบโจทย์กับผิวตอนนี้มากๆ แล้วก็ฟินกับกลิ่นด้วยค่ะ ส่วนตัวที่แป้งให้ความสนใจน้อยที่สุดในตอนนี้ก็คือ Clindamycin นะคะเพราะนางแสบ แต่ก็ยอมรับว่ารักษาสิวอักเสบได้ดี แป้งก็เลยจะเอาไว้ใช้แค่กับสิวที่อักเสบมากๆ เท่านั้นค่ะ

          ถ้าใครชอบคอนเท้นท์นี้ก็อย่างลืมช่ายกดไลท์ให้แป้งกันด้วยนะคะ แล้วใครสนใจตัวไหนหรือกำลังใช้ตัวไหนอยู่ก็มาคอมเม้นท์พูดคุยแชร์กันด้วยน้า