เมื่อ AESOP-- pasley seed antioxidant serum กลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน

เมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้ว มีเพื่อนสนิทที่อยู่ไกลกัน

และตอนนี้เป็นแม่ลูก 1 นำเราไปแล้วนั้นนนน

มาเม้าส์มอยเรื่องสกินแคร์ด้วย เพื่อนก็ถามว่าใช้ตัวไหนอยู่บ้าง

นางอ่านเรื่องเล่าเราแล้วแอบสนใจหลายตัว

เลยแอบถ่ายรูป skincare routine ของตัวเองในตอนนี้ส่งไปให้ดู

นางก็แอบสนใจตัว

และบอกว่ารออ่านอยู่นะ

ขอสารภาพว่า..จริงๆ อยากรอให้ขึ้นขวดใหม่ก่อน

แล้วจะมาเล่า เพราะเราอยากให้ตัวนี้เป็นตัวที่ emptie newbie ของเรา

เป็นตัวที่ใช้หมด แล้วต้องซื้อซ้ำจริงๆ

แต่ก็ขอตามใจเพื่อนหน่อย วันนี้เลยจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ

สำหรับมัด มัดใช้ตัวนี้ทั้งเช้าและก่อนนอนค่ะ

หลังจากโทนเนอร์ ไฮยาเตรียมผิว แล้วตามด้วยตัวนี้ 

ใช้ดรอปเปอร์หยด 5 จุดบนหน้าเลย และคอด้วยนะคะ 

นวดๆวนบนหน้า มีความสุขในขั้นตอนนี้มาก เพราะรักกลิ่นของพี่เค้ามาก 

ผ่อนคลายสุดๆ ที่สำคัญ นวดตรงร่องแก้ม แก้มย้วยๆเนี่ย มัดจะนวดเน้นๆเลยค่ะ

และทริคอีกอย่างสำหรับสายรักการมาส์กหน้าแบบมัดคือ

ถ้าพูดถึง #texture ของพี่เค้า จะมีความใสๆ สีชา หนืดๆหน่อย

ใช้ครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าซึมลงผิวยาก 

แต่ทิ้งไว้สักแปบ ก็ซึมเข้าผิวหมดค่ะ 

ไม่กองอยู่บนหน้า 

ขวดนึงใช้ได้นานมาก ประมาณ 6 เดือน 

พี่ BA แนะนำให้ใช้ครั้งละครึ่งหลอด แต่มัดใช้ไม่เคยถึงเลยค่ะ

ด้วยตัวมัดเองอายุ 31 แล้ว และมลภาวะบ้านเราเรียกว่าเป็นมลพิษ

มัดเลยให้ความสำคัญกับคำว่า antioxidant เป็นพิเศษ 

มลพิษเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก 

การสร้างเกราะป้องกันให้ผิวและการซ่อมแซมผิวจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากที่สุด 

ผิวหน้าตัวเองแข็งแรงขึ้นมาก ไม่อ่อนแอและแพ้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน 

ผิวชุ่มชื่นดีมากๆ ผิวฟูขึ้น รูขุมขนละเอียดขึ้น 

และรอยหลุมสิวตื้นขึ้นด้วย

(อันนี้อาจช่วยให้หายขาดไม่ได้ แต่รู้สึกว่ามันเติมเต็มผิวเรา)

เมื่อไหร่ที่มีสิวผด สิวอักเสบขึ้นมา มัดก็จะโบกๆเน้นย้ำไปอีก

เลยทำให้ตัดสินใจจะไม่เลิกใช้พี่เค้า

และจะเป็นอีกตัวที่ล๊อคไว้ใน skincare routine แบบไม่เปลี่ยนใจ

ส่วนใหญ่ถ้าใครถามว่าเซรั่มอะไรดี จะแนะนำตัวนี้ให้ตลอด

เพราะเรามั่นใจในผลลัพธ์ของพี่เค้า 

ตัวนี้ให้ 10/10 ในทุกๆเรื่อง 

ทั้งแพคเกจจิ้ง ไอเดีย texture กลิ่น ราคาและผลลัพธ์

,with love