สวัสดีค่ะชาวจีบัน

วันนี้เราจะมาอวดน้ำหอม BURBERRY ที่เรามีอยู่ในตอนนี้นะคะ ต้องบอกก่อนว่าเรามีความรู้เรื่องน้ำหอมน้อยมาก แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนอะไรเกี่ยวกับน้ำหอม แต่ด้วยความชอบและหลงไหลในความหอม ซึ่ง BURBERRY เป็นแบรนด์น้ำหอมที่เรามีมากที่สุด ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย...อิอิ เพียงแค่ 4 ขวดเท่านั้นเองค่ะ เราจะขอเขียนจากความรู้สึกจากการที่เราใช้ โดยไม่ได้อ้างอิงจากส่วนผสมใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ

เรามาเริ่มที่น้ำหอมตัวแรกเลยนะคะ

Burberry Summer Limited Edition for Women 100 ML Eau de Toilette

ตัวนี้ถือว่าเป็นน้ำหอมขวดแรกของเราเลย ได้มาเนื่องจากเพื่อนซื้อมาฝากจากฝรั่งเศส น่าจะเกือบสิบปีได้แล้วนะคะ น้ำหอมตัวนี้ออกวางขายครั้งแรกในปี 2007

เป็นกลิ่นแนวๆ floral และ fruity ฉีดได้ในวันสบายๆ อยู่บ้าน ออกไปกินข้าวกับเพื่อน ไปซื้อของ เดินห้างได้หมดค่ะ เป็นน้ำหอมที่กลิ่นสบายๆ ไม่ฉุน แต่ก็ไม่ได้หอมอะไรขนาดนั้น ถือว่าธรรมดามากๆ สำหรับเรานะคะ ความติดทนประมาณ 4-6 ชั่วโมง

มาดูกลิ่นในระดับต่างๆ กันบ้าง
Top Notes: Pomegranate, Mandarin, Bergamot, Rose
Middle Notes: Freesia, Water Lily
Base Notes: Sandalwood, White Musk, Cedar, Moss

มาดูตัวที่สองกันต่อค่ะ

Burberry Body for Woman 60 ML Eau de Parfum Intense

สำหรับตัวที่สองนี่ วอแวอยากได้มาก เพราะกล่องมันสวยถูกใจมาก ยังไงก็จะต้องซื้อให้ได้ จนกระทั่งไปเที่ยวที่ฮ่องกง แล้วซื้อกลับมาจนได้ ตัวนี้น่าจะซื้อมาประมาณ 6 ปีที่แล้วมั้งคะ น้ำหอมตัวนี้ออกวางขายครั้งแรกในปี 2011

ตัวนี้เป็นกลิ่นแนว chypre fruity ติดทนดีเยี่ยม ติดทนทั้งวันจริงๆ ค่ะ ขวดก็สวย ช่วงแรกๆ คือชอบมาก รู้สึกว่ากลิ่นออกแนวผู้ดี ฉีดแล้วดูเป็นผู้หญิงหวานๆ สวยๆ ดูมั่นใจ ทันสมัย เหมาะที่จะฉีดไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ออกเดท ไปทำงาน ได้หมดค่ะ แต่หลังๆ เราว่ากลิ่นมันฉุนมากๆ ฉีดแล้วบางทีก็เวียนหัวเอง ไม่รู้ทำไม เราเลยเลี่ยงไปฉีดช่วงกลางคืนแทนค่ะ

มาดูกลิ่นในระดับต่างๆ กันบ้าง
Top Notes: Freesia, Green Absinthe, Peach
Middle Notes: Rose, Iris
Base Notes: Sandalwood, Cashmerean, Musk, Amber, Vanilla

มาต่อด้วยตัวที่สามกันค่ะ

My Burberry for Woman 50 ML Eau de Parfum

สำหรับตัวที่สามนี่ก็เช่นกันค่ะ เห็นน้ำหอมออกใหม่ ก็อยากได้มาก ด้วยความที่น้ำหอมตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Burberry Trench Coat (ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอังกฤษ คลาสสิค มีสไตล์) โดยน้ำหอมตัวนี้ถือว่าเป็น ซิกเนอเจอร์ของ Burberry ทั้งเรื่องกลิ่น ดีไซน์และตัวตน ตัวนี้เราซื้อกลับมาจาก Duty Free ที่สิงคโปร์ น่าจะประมาณ 4 ปีที่แล้ว น้ำหอมตัวนี้ออกวางขายครั้งแรกในปี 2014

ตัวนี้เป็นกลิ่นแนว fruity และ floral หอมหรูหราสไตล์สาวผู้ดีอังกฤษ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในสวนหลังฝนตกใหม่ๆ ที่เปียกชื่น มีกลิ่นดินและกลิ่นดอกไม้ กลิ่นหอมสดชื่นของพืชและดอกไม้นานาชนิด น้ำหอมตัวนี้ติดทนดีค่ะ อยู่ได้ทั้งวัน หรือย่างน้อยๆ ก็ 6-8 ชั่วโมง ฝาขวดเค้าจะออกแบบมาให้เหมือนกระดุม Trench Coat แล้วก็ยังจะผูกโบว์ที่ขวดด้วยผ้าสีเดียวกับเสื้อโค้ทอีกด้วย ดูมีความ BURBERRY จริงๆ ค่าาาา

น้ำหอมตัวนี้เราชอบมากๆ เลย ฉีดแล้วได้อารมณ์แบบฉันสวย เซ็กซี่ กลิ่นดูผู้ดี ดูเป็นสตรีมีคลาส ดูดีมีชาติตระกูล 555 โอเวอร์ไปไหมคะ แต่มันได้ฟีลแบบนั้นจริงๆ นะ กลิ่นดูไม่แก่จนเกินไป เหมาะที่จะฉีดไปทำงาน ไปประชุม พบลูกค้า ออกเดท แบบดูน่าเชื่อถือ ร่ายมายาวขนาดนี้คงจะรู้แล้วเนอะว่าเราชอบตัวนี้มากจริงๆ

มาดูกลิ่นในระดับต่างๆ กันบ้าง
Top Notes: Sweet pea, Bergamot
Middle Notes: Geranium, Freesia, Quince
Base Notes: Patchouli, Damask rose, Centifolia Rose

มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วนะคะ

My Burberry Black for Woman 90 ML Parfum

ด้วยความที่ชอบ My Burberry มาก พอเค้าออกตัว Black มาก็ซื้อสิคะ เป็นคนใจง่ายค่ะ แค่เดินผ่านแล้วลองไปดมๆ แค่นั้นเลยค่ะ ก็ได้เสียทรัพย์ให้ร้าน Sun Cosmate ไปเลยค่าา ซื้อมาประมาณ 2 ปีแล้วมั้งคะ ไม่ต้องไปซื้อไกลถึงต่างแดน น้ำหอมตัวนี้ออกวางขายครั้งแรกในปี 2016

ตัวนี้เป็นกลิ่นแนว floral น้ำหอมตัวนี้เค้าบอกว่ากลิ่นมันจะหอมหวานดั่งสวนดอกไม้บานสะพรั่งหลังฝนตกในกรุงลอนดอน แฝงด้วยความหรูหราเซ็กซี่น่าค้นหา เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความหรูหรา ให้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้หลังฝนที่ได้รับแสงแดดสดใสอบอุ่นจากดวงอาทิตย์อีกครั้ง การออกแบบขวดน้ำหอมตัวนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ สิ่งที่เปลี่ยนคือสีที่ขวดน้ำหอม กระดุม และโบว์ที่ผูกขวด จะเป็นสีดำทั้งหมด น้ำหอมตัวนี้ติดทนประมาณนึงค่ะ อยู่ได้ประมาณ ก็ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งเราคิดว่ามันควรจะติดทนมากกว่านี้นะ

น้ำหอมตัวนี้เราก็ชอบมากๆ เช่นกันค่ะ กลิ่นจะคล้าย My Burberry แต่จะกลิ่นจะเบากว่า ฉีดแล้วได้อารมณ์แบบสวยหวาน หรูหรา เซ็กซี่ กลิ่นจะดูสดชื่นมากกว่า ออกแนวผู้ใหญ่ ดูสุขุม เหมาะที่จะฉีดไปทำงาน พบลูกค้า เดินห้างหรู ไปดินเนอร์ พักหลังๆ เราเริ่มติดใจตัวนี้มากกว่าแล้วค่ะ

มาดูกลิ่นในระดับต่างๆ กันบ้าง

Top Notes: Jasmine

Middle Notes: Candied Rose, Peach Nectar

Base Notes: Amber, Patchouli

จบไปแล้วกับการพูดถึงน้ำหอม BURBERRY ทั้งหมด 4 ตัวของเรา เป็นยังไงกันบ้างคะ อ่านแล้วอยากจะลองดมดูบ้างไหมคะ เรื่องน้ำหอมก็อยู่ที่ตัวบุคคลจริงๆ ค่ะ แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน น้ำหอมตัวไหนที่เป็นขวัญใจมหาชน พอฉีดทีก็จะเหมือนกับคนอีกหลายๆ คนค่ะ บางทีก็ดูเหมือนกลายเป็นกลิ่นโหลไปเลย หาเอกลักษณ์ของตัวเองให้เจอ เอาเป็นว่าเลือกให้ถูกใจเรา ฉีดแล้วมั่นใจก็พอแล้วค่ะ