รีวิวสกินแคร์บำรุงผิวกู้หน้าแก่ของสาววัย 30+ (อายุเป็นเพียงตัวเลขจ้ะ)

อีก 2 เดือนจะสิ้นปีแล้ว ไม่อยากนับอายุตัวเองเลยค่ะ เพราะที่แน่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ปีแน่นอน กลั๊วกลัวใครรู้ว่าเริ่มแก่แล้วถึงแม้เราจะหน้าเด็กก็ตาม ฮ่าๆๆ

De Latex Cream  All in One Deep Cleansing Water Gel
ราคา 390 บาท 
เริ่มต้นด่านแรกที่การคลีนหน้ากันก่อนค่ะ เราใช้คลีนซิ่งเจลของ De Latex Cream เป็นตัวล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าค่ะ เนื้อเจลมีความชุ่มชื้นสูง สามารถละลายเครื่องสำอางบนใบหน้าออกได้หมดจด แม้แต่เครื่องสำอางกันน้ำก็เช็ดออกค่ะ หลังล้างไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ตัวเนื้อเจลเองก็ใช้ง่ายค่ะ เพราะแตกตัวง่าย ไม่เหนียวเลยและไม่มีสี ไม่มีกลิ่นค่ะ ทำให้คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ด้วยนะคะ หลังล้าง เราจะรู้สึกเลยว่าผิวสะอาดมาก มันไม่มีคราบหรือความอุดตันหลงเหลือ ผิวก็ชุ่มชื้นขึ้นมากๆด้วยค่ะ เราใช้ตลอดเลยตัวนี้ เพราะนอกจากจะราคาไม่แพง ขนาดใหญ่แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าสำลีด้วยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

Physiogel – Daily Moisture Therapy Dermo-Cleanser
ราคา 295 บาท
คลีนหน้าแล้วก็ต้องล้างหน้าค่ะ เราใช้เจลล้างหน้าตัวนี้เลย สำหรับคนผิวแพ้ง่าย ใช้ได้เหมือนกันค่ะ เพราะไม่มีส่วนผสมของสบู่และไม่ผสมสี ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง แต่ผิวอย่างเราก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะความชุ่มชื้นของเค้าค่อนข้างสูง ทำให้ผิวหลังล้างหน้าของเราชุ่มชื้นและไม่แห้งตึงค่ะ เป็นเจลล้างหน้าที่ลดการสูญเสียน้ำในผิวได้ดีมากๆค่ะ เนื้อเจลเองก็ล้างออกง่ายค่ะ มีฟองนิดหน่อย ไม่เหนียว ไม่มัน ตอนล้างจะรู้สึกลื่นๆด้วยค่ะ แต่พอหลังล้างก็อย่างที่บอกผิวไม่แห้งตึงและนุ่มขึ้นมากๆค่ะ

Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner
ราคา 890 บาท
ต่อกันที่โทนเนอร์เช็ดหน้าค่ะ ตัวนี้จะเป็นโทนเนอร์ที่ผสมวิซฮาเซล ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งตึง และมอบความกระจ่างใสให้ผิวค่ะ ที่สำคัญคือลดริ้วรอยด้วยค่ะ อันนี้คือจุดที่ทำให้เราซื้อเค้ามาใช้เลยค่ะ ฮ่าๆ ตอนใช้ก็เอาโทนเนอร์ มาหยดๆลงสำลีแล้วเช็ดเบาๆให้ทั่วใบหน้า ตัวนี้จะมีกลิ่นนิดหน่อยนะคะ เพราะมีส่วนผสมจากกุหลาบด้วย ทำให้มีกลิ่นหอมๆของดอกกุหลาบเวลาใช้ค่ะ ซึ่งเราว่าก็หอมดีนะ กลิ่นมันผ่อนคลายดีค่ะ หลังใช้ ผิวไม่แห้งตึง เช็ดทำความสะอาดผิวได้ดีมากๆ ไม่แสบผิวและช่วยเตรียมผิวก่อนการบำรุงได้ดีเลยค่ะ ส่วนเรื่องริ้วรอยเรายังไม่เห็นผลเท่าไหร่ค่ะ คิดว่าต้องลองใช้อย่างต่อเนื่องน่าจะเห็นผลชัดขึ้น แต่โดยรวมชอบนะคะ ดีกว่าโทนเนอร์ทุกๆตัวที่เราเคยใช้มาเลยค่ะ

SK II Facial Treatment Essence
ราคา 2,800 บาท
มาถึงขั้นตอนที่บำรุงจริงๆจังๆแล้วค่ะ ตัวแรกก็ต้องเริ่มที่น้ำตบก่อน ซึ่งเราก็มีค่ะ เลือกใช้น้ำตบพิเทร่าของป้าเจี๊ยบ ที่ราคาแรงพอควร แต่ใช้ได้นานนะคะ เพราะใช้ทีเราหยดแค่ 4-5 หยดแล้วตบเบาๆก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ ตัวนี้จะมีหลายคนไม่ชอบกลิ่นของเค้าที่เป็นน้ำหมักอ่ะค่ะ ซึ่งเราก็เป็นนะคะ กลิ่นแบบแอบมีชะงักเบาๆตอนใช้ ฮ่าๆๆ แต่ใช้ไปใช้มาเริ่มชิน แถมตัวน้ำตบยังซึมง่าย ไม่มีเหนียวผิวด้วยค่ะ ตัวนี้เราเลยใช้ทั้งเช้าและเย็น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นมากๆ หน้าแบบอิ่มน้ำใสมากเลยค่ะ มีริ้วรอยจางลงนิดๆด้วยนะคะ สรุปแล้ว ดีมาก เราชอบเลยค่ะ ไม่เสียดายที่ซื้อมาเลย แนะนำให้สาวๆมีไว้ใช้ค่ะ ดีมากทั้งในเรื่องราคาและผลหลังการใช้จริงๆ

WISH by Dr.JSK
ราคา 1,390 บาท
ถัดมาเราบำรุงน้ำตบแล้ว เราต่อด้วยเซรั่มเข้มข้นเลยค่ะ ตัวนี้จะเน้นช่วยเรื่องริ้วรอย ผิวหน้าเนียนใส อิ่มฟู เป็นเวชสำอางจากเกาหลี มีส่วนผสมที่ใช้ในการฉีด Baby Face เรียกว่า Cinderella Brilliant เหมาะสำหรับสาวๆอย่างเราที่มีริ้วรอยตามอายุที่มากขึ้นค่ะ เนื้อเซรั่มจะเป็นเจลใส เข้มข้นมาก แต่ซึมไว ทาลงผิวแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวหลังทารู้สึกอิ่มน้ำและชุ่มชื้นขึ้นมากๆ เป็นตัวที่เราใช้ทั้งเช้าและเย็นเหมือนกัน ไม่มัน ไม่เยิ้ม ใช้ติดๆกันจะเห็นผลเรื่องริ้วรอยชัดมาก ตามแก้ม ตามหน้าผากคือ จางลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ และรูขุมขนก็กระชับ ผิวดูเนียนละเอียด หน้าใสขึ้น นี่เทียบกับปริมาณที่เรายังใช้ไม่ทันหมดขวดเลยนะคะ แบบเห็นผลไวมากๆ จัดให้เป็นสกินแคร์ที่เราขาดไม่ได้และให้เป็นอีกตัวที่ใช้ประจำแน่นอนค่ะ เข้มข้นดีงามมากๆ เหมาะกับผิวที่มีริ้วรอยค่ะ เชียร์มาก

Bio-Oil Dry Skin Gel
ราคา 450 บาท
ตัวนี้เป็นครีมสามัญของเราเลยค่ะ คือไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่ก็ใช้ค่อนข้างบ่อยๆ ทาวันเว้นวัน เฉพาะตอนกลางคืน ทาตอนเช้าไม่ได้เนื้อหนัก มันผิวเกินไปค่ะ เป็นเจลบำรุงผิวเพื่อความชุ่มชื้นของ Bio-Oil ที่ทำออกมาใช้ง่ายกว่าตัวออยล์ เพราะเนื้อเจลแตกตัวง่ายกว่า ซึมไวกว่า และมันผิวน้อยกว่า ตัวนี้เค้าจะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นผิวได้ดีมากๆ วันไหนผิวแตกผิวแห้งหนักๆ เราก็จะทาหลังเซรั่มไปเลยค่ะ เหมาะกับผิวแห้งไม่ค่อยชุ่มชื้นอย่างเราๆ มีติดไว้ใช้คือ ผิวไม่แห้งและชุ่มชื้นขึ้นแน่นอน

CLINIQUE All About Eyes
ราคา 450 บาท 
ครีมบำรุงดวงตา ตัวนี้เป็นกระปุกเล็กนะคะ ราคาก็จะลดลงมาหน่อยไม่แพงมาก เพราะผิวรอบดวงตาเราไม่ต้องใช้เนื้อครีมเยอะค่ะ อย่างกระปุกนี้เราใช้เกือบ 3 เดือนถึงหมดแล้วเนื้อครีมก็แตกตัวง่ายค่ะ ทำให้ใช้แต่ละครั้งไม่ต้องใช้เยอะมาก เป็นครีมบำรุงดวงตาแบบเนื้อเจลที่เกลี่ยง่ายและให้ความชุ่มชื้นดีมากๆ ทาก่อนนอน ตื่นมาดวงตาคือ เฟรชมาก เหมาะกับเราที่นอนดึกประจำ ฮ่าๆๆๆ ตัวนี้ก็จะช่วยกู้ผิวรอบดวงตาได้ดีเลยค่ะ ส่วนริ้วรอยรอบดวงตาก็เห็นผลอยู่นะคะ มันจางลงนิดๆ แต่ต้องใช้ 3 กระปุกขึ้นไปค่ะ ถึงจะเห็นผลชัดเจน ก็ใช้เวลานานนิดนึงค่ะ แต่โอเค เราไม่ติดเรื่องราคาและผลลัพธ์อยู่แล้วก็ใช้เรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนตัวแน่นอนค่ะ

Faith in Face Signature Gold Mask
ราคา 169 บาท
เราเป็นคนมาส์กหน้าวันเว้น และใช้บ่อยสุดก็ตัวนี้เลยค่ะ เป็นมาส์กหน้าทองคำแผ่นฟอยล์ที่หรูหรามาก มี 2 ชิ้นคือ ชิ้นบนกับชิ้นล่าง ซึ่งตอนใช้มันทำให้แผ่นมาส์กแนบสนิทกับผิวหน้าได้ดีค่ะ เป็นมาส์กที่ช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นเต็มๆ เพราะให้น้ำมาส์กมาเยอะมากๆและแผ่นมาส์กก็เก็บความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ ซึ่งนอกจากเราจะชอบที่มาส์กเค้าทำให้ผิวเราชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ตื่นเช้ามาหลังมาส์กไป 1 คืน ผิวก็จะใส ผิวอิ่มฟูมากอ่ะ จริงๆสามารถใช้ได้ติดๆกันด้วยนะคะ เราเคยใช้อยู่ประมาณ 14 วันติดกัน ช่วงนั้นผิวดี ริ้วรอยจางลง อิ่มฟู เนียนขึ้น เราชอบเลยค่ะ แต่ติดอย่างเดียวที่ไม่สามารถทำให้เราใช้ทุกวันได้คือ ราคาแอบแรงค่ะ เลยจะชอบซื้อตุนๆไว้ช่วงโปรวัตสัน โปร 299 อ่ะค่ะ เหลือตกแผ่นละ 100 บาทเอง จะคุ้มกว่านี้ค่ะ

8 ขั้นตอนดูแลผิวให้หน้าเด็กของเรา บางคนอาจจะเยอะหรือน้อยกว่านี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่อย่าลืมบำรุงและดูแลผิวหน้าด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็พอ จะไปพึ่งแต่หมอๆๆๆๆอย่างเดียวก็ไม่ไหวค่ะ แพงเกิน ฮ่าๆๆๆ ก็อายุเท่านี้แล้ว คงไม่หยุดที่เข็มสองเข็มหรอกค่ะ เพราะงั้น เอามาลงกับสกินแคร์ดีๆ บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอก็จะได้ผิวดี หน้าเด็กไม่แพ้ฉีดโบท็อกซ์แน่นอนค่า ยังไงมีตัวไหนอยากบอกต่อมาเม้นท์กันได้นะคะ จะได้เป็นข้อมูลให้กับสาวๆคนอื่นที่มีปัญหาผิวเหมือนเราได้ด้วยค่า