[Review Contest] ฉันจะไปเฟียสที่เวียดนาม

ซินจ่าว ? สวัสดีจ้า

ห่างหายไปนานคิดถึงกันบ้างไหมเอ่ย

วันนี้บอกเลยว่ารูปเพียบ เพราะเราไป

ลั้นลาที่เวียดนามมาจ้าา 

ไปตะลุยฮอยอัน-ดานังมา เป็นไงไปดูกานนนน

เริ่มด้วยการรวมตัวของเดอะแก้ง

4 สาวที่หาความเข้ากันไม่ได้เลย

แต่เป็นเพื่อนกันมายาวนานกว่า 20 ปี

อุ้ย! รู้เลยอายุไม่น้อยแล้ว 555

เรามารวมตัวกันที่สนามบินดอนเมือง

ประมาณตี5 กว่าๆ เพราะเครื่องออก

ตอนประมาณ 7 โมงเช้าได้ พอเช็คอินเรียบร้อยก็รอเรียกขึ้นเครื่อง และแวะถ่ายรูปตามสไตล์เซเลปนิสนุง นานๆ ทีอยากมีแฟชั่นสนามบินกะเขาบ้าง

ใช่ค่ะเราตกเป็นเหยื่อการตลาด

จากสายการบิน Air Asia ที่นำเสนอ

ชานมไข่มุกในราคา 75 บาท

และใช่ค่ะมันอร่อยแต่ถ้าคนไม่ชอบหวาน

ก็อาจจะต้องรอละลายอีกหน่อย

แต่ไข่มุกคือดี มันคล้ายๆเจลลี่ ถือว่าผ่านค่ะ!

แล้วเราก็มาถึงสนามบิน Danang 

ประเทศเวียดนามค่าโดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ นั่งชิวๆ พอมาถึงก็ตรงไปซื้อซิมเลยจ้า

ใครที่ยังสับสนว่าจะซื้อแพคจากเครือข่ายที่ไทย หรือยังไงดี เราแนะนำมาซื้อที่เวียดนามเลยนะ ราคาไม่แพง เน็ตไว โอเคเลย พอซื้อเสร็จก็ออกมาเจอกับคนจากโรงแรมมารับ อันนี้เราใช้บริการเรียกรถจากโรงแรมเพิ่มเติมนะ ใครไม่มีก็เรียกแกร๊บได้ ราคาไม่โหดมาก แต่ต้องมีสติตอนทอนเงินนะ คนเวียดนามชอบมั่วทอนเงิน ระวังอย่าโดนหลอก

รถคือดี มีความส่วนตัวมากแม่ เหมือนเป็นซุปตาร์ที่มีรถมารับที่สนามบิน 555

เราจะบอกว่าทริปนี้คือแฉะตั้งแต่ออกจากสนามบินเลยจ้า พายุเข้าเวียดนามฝนตกตลอดวัน WTF ไม่นะฝันที่จะกรุยกรายท้าแดด ท้าลมหนาวสลายทันตา เห็นแต่ความมืดมน และเม็ดฝน แต่เสียเงินมาแล้วต้องสตรองและไปต่อค่ะ!

ที่พักที่แรกคือดีมากกกกก ห้องใหญ่อลังการ เตียงนุ่มนอนสบาย ราคาไม่แพง เราพักที่ Hoian Sincerity Hotel&Spa ใครจะมามานอนที่นี่ได้ คือดีจริงคุ้ม ห้องนี้ 2465 นอน 4 คน ตกคนละ 600 กว่าเอง ที่พักไม่ไกลจากที่เที่ยวด้วย ทางโรงแรมมี shutter bus บริการฟรี แต่เราไม่ได้นั่งเพราะหาไม่เจอมันมีน้อยไม่เคยทัน 555 ใครขยันรอก็รอไป

สถานที่แรกที่จะต้องมาเมื่อมาฮอยอันก็คือ Basket Boat หรือเรือกระด้งนั่นเอง มันจะดีมากถ้าฝนไม่ตก เสื้อผ้าหน้าผมที่พร้อมมาเฟรียสที่เวียดนาม ย่อยยับเลยค่ะ ต้องห่อตัวเองไว้ด้วยเสื้อกันฝนสีเหลืองอ๋อย และรองเท้าผ้าใบที่ชื้นแฉะ แต่เราก็ต้องไปต่อค่ะ ฝนก็หยุดเราไม่ได้

จะดีกว่าเน้ถ้าไม่มีฝน คือมันชิวมาก ใช้เวลาไปกลับประมาณ 1 ชม. กลางทางมีโชว์ให้ดู อันนี้แอบกระซิบว่าเขาจะกดดันให้เราให้ทิป แต่เราไม่ได้ให้อะ ไม่ได้งกนะ แต่รู้สึกว่าเราจ่ายเงินไปแล้วอะ คือใครจะให้ไม่ให้ก็แล้วแต่เลยจ้า

หลังจากนั่งเรือเสร็จเราก็เรียกแกร๊บมาส่งในเมืองเก่ากันต่อ และก็รีบตรงไปหาของกินทันที หิวมาก ขอเติมพลังก่อน ที่สำคัญหาที่หลบฝนจ้าา มันตกทั้งวันจริงๆ ชื่อร้านลืมอะ เอาเป็นว่าใครอยากกินไรก็เดินเข้าเลยเนาะ

หน้าตาอาหารก็จะประมาณนี้ เราสั่งมาแบ่งกันกินเพราะอยากชิมอย่างละหน่อย แบบร้านนี้ราคาแอบแรง เลยกะว่าเดี๋ยวไปหากินต่อข้างนอก รสชาติอาหารถือว่าใช้ได้ ผ่าน!

เมืองเก่าของฮอยอันคือเมืองน่ารักมาก ทั้งเมืองเป็นสีเหลือง และประดับโคมตลอดแนว ใครชอบถ่ายแนวสตรีทคือมาไม่ผิดหวัง แต่เราเสียใจนิดหน่อยที่มีฝน ฮืออออ

พอกินข้าวเสร็จเราก็เดินหาร้านขนมหวานต่อ แบบตามรอยมาเลยว่าต้องมาร้าน Faifo แล้วแบบเห้ย นี่ไง อารามฝนตกเริ่มหนัก เงยเจอชื่อก็รีบเลี้ยวเข้า ละแบบผิดร้านจ้าาาา นี่มันร้านก้อปเกรดเอนี่หน่า โปรดสังเกตชื่อร้านที่จะเข้าจริงๆ คือ Faifo แต่ที่เลี้ยวมาคือ Faifoo คุณพระ! มันมี o เพิ่มมา 1 ตัว แต่เข้ามาแล้วก็ต้องสั่งละจ้า เอาเบาๆ แก้เซ็ง หลบฝนด้วยแหละเลยยอมสั่ง หุ้ย!

ไหนๆ ก็มาผิดร้าน ถ่ายรูปซักหน่อยเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าเอ๋อจนเดินเจ้าผิดร้าน! โทษฝนเลย เพราะแกนังฝนตกมาไม่หยุดซักที

หลังจากรอให้ฝนซ่า ก็ได้เวลาเดินต่อละจ้า เห็นตรงไหนสวยก็ถ่ายหมด เมืองนี้มันมีกลิ่นอายวินเทจมาก ย้ำอีกทีถ้าฝนไม่ตกจะเก๋กู้ดมาก แต่ฝนทำไรเราไม่ได้ ไปค่ะ สะบัดบ๊อบสู้มัน

บรรยากาศเมืองคือดีมาก ต่างชาติก็เยอะมากเช่นกัน ยิ่งคณะทัวร์คือแบบไม่มีความเกรงใจใดๆ เลยจ้า เพราะฉะนั้นเราต้องสตรองนะคะเพื่อนๆ

ทุกที่คือรันเวย์ค่ะ แม้ฝนตกก็อย่าให้วงการนี้หยุดนิ่ง จิกกล้องแตกไปเลยจ้าาา

กลางถนนก็อย่าได้แคร์จ้า อย่าหวั่นแม้จะมีสายตาแปลกๆ จ้องมอง เชิดเข้าไว้ ฮึบ!

สีเหลืองคือดีย์ ใส่ชุดมาแบบเพื่อการนี้ คือแวะถ่ายได้ทุกกำแพงจริงๆ สวยทุกมุม

อันนี้กำแพงดำบ้าง ใครสายถ่ายรูปเตรียมเมมเตรียมแบตมาดีๆ เน้อ

ขอเสนอชื่อตรอกนี้ว่า ตรอกอีเหลือง เป็นซอกตึกเล็กๆ ที่อยู่ตรงข้ามร้าน Faifo โอตัวเดียวนะ อย่าไปผิดร้าน

และนี่คือร้าน Faifo ของจริงจ้าาาาา ที่เขาแนะนำกันเพราะที่นี่มีดาดฟ้าให้ขึ้นไปถ่ายรูปแบบเห็นบ้านเมือง บรรยากาศรอบๆ เราก็ไปรอช้าเมินของหวานแล้วรีบขึ้นด้านบนทันที

สวยมากแม่ แม้ฟ้าจะหม่นๆ หน่อย แต่ก็ได้อารมณ์เหงาๆ ไปอีกแบบ ใจอยากนั่งแบบเต็มที่มาก แต่ติดที่เปียกไปหมดเลยจ้า เลยได้แค่พิงๆ เกาะๆ เอาไว้ แต่ใครมาแนะนำ ถ่ายรูปสวยจริงๆ

ย่านเมืองเก่าจะมีอีกที่นึงที่ใครมาฮอยอันก็ต้องมาดูให้ได้ คือการลอยโคม และลอยกระทงกระดาษ ถือเป็นไฮไลท์ยามค่ำคืนของที่นี่เลย แสงสีสวยมาก

คือดีมากที่ตัดสินใจซื้อโทรศัพท์ใหม่ เราใช้ไอโฟร11 คือถ่ายกลางคืนได้ดีเลย กล้องสู้ไม่ไหว ภาพเบลอไปหมด ฝนตกด้วยแหละเลยยิ่งยาก ตอนนี้เลยยิ่งรัวไอโฟนอย่างเดียวเลย

เมืองสวย สีสันแสบตาจ้าาา โรแมนติกฝุดๆ

ขอพักเบรกเติมพลังนิดนุง ฝนเทมาแรง เลยต้องหาที่หลบก่อน และการหาไรกินคือดีสุด ใครบอกว่าอาหารเวียดนามไม่อร่อย เราเถียงเลยนะ เรากินแล้วอร่อยหมด เอ๊ะ หรือเราตะกละ 555

และที่พลาดไม่ได้เช่นกันก่อนกลับที่พัก คือการถ่ายกับโคมไฟ แต่เสียเงินนาจาาา คนละ 20,000 ดอง ราวๆ 20 บาท จ่ายๆไปเถอะเพื่อรูปที่ดี

ก่อนกลับที่พัก อีกซักหน่อย อ๋อจะบอกว่าทริปนี้เรามาเป็นธีมน้าาา วันนี้นัดกับเดอะแก้งใส่สีส้มอิฐ สวยๆ ชิคๆ วินเทจเบาๆ

กลับที่พักแบบสะโหลสะเหล เพลียร่าง ฝนตกทั้งวัน อัดยาแล้วนอนพักพรุ่งนี้ลุยต่อ จบแยก!

Day 2 ตื่นมาพร้อมลุย go to Ba Na Hills

บอกลาที่พักคืนแรกซักนิด วันนี้มาธีมสีเทาดำ นาจาาา ลึกลับน่าค้นหา อิอิ

เราใช้บริการจากโรงแรมมาที่ทางขึ้นไปบาน่าฮิลส์เลยนะ จ่ายเพิ่มจากค่าที่พักนิดหน่อย แต่สบายปลอดภัย ไม่ต้องจัดการเองให้วุ่นวาย เรากับเพื่อนจองที่พักบนบาน่าไว้ 1 คืน มันจะรวมค่ากระเช้าที่จะขึ้นไปด้วย ใครที่ไม่อยากนอนก็ได้ ก็จ่ายขึ้นกระเช้าปกติ และก็เย็นๆ ลงมา ถ้าจำไม่ผิดรอบสุดท้ายน่าจะประมาณ 5 โมงเย็น ราวๆ นี้แหละ

มีแต่เขา ต้นไม้ ม่านหมอก และฝนปรอยๆ มองแล้วสะเทือนใจที่ฟ้าไม่เป็นใจ แต่เอาวะจ่ายเงินมาแล้ว ต้องเอาให้สุด

ที่พักคืนที่สองของเรา อารมณ์แบบเด็กหอซีรีย์จีนเลย คือดีอะชอบนะ น่ารักดีผ้าห่มหนามากกก แสดงว่ากลางคืนต้องหนาวมาก ที่นี่รวมค่ากระเช้า 4 คนก็ไม่แพงนะ พอได้อยู่ 

หลังจากมาถึงเก็บของก็ออกมาทัวร์ และใช่ค่ะ ฝนตกกระหน่ำ เลยต้องหาที่หลบ และก็ได้ร้านอาหารอีกเช่นเลย ทริปนี้นึกไรไม่ออกก็กินมันอย่างเดียวค่ะ มื้อนี้จ่ายหนักหน่อย แต่ตีเป็นเงินไทยราคาก็พอๆกับเข้าร้านตามห้างปกติ อย่าตกใจกับค่าเงินดอง

เมื่อกินเสร็จฝนยังไม่หยุด เราก็มูฟมาเล่นเครื่องเล่นในอาคารต่อทันทีจ้า  เรียกว่านาทีนี้มันทำไรไม่ได้จริงๆ

โปรดสังเกตุที่หมอก ยิ่งกว่าโรงเรียนเวทมนต์

ให้อารมณ์วินเทจ เมืองอังกฤษเก่าๆ ชอบๆ พอมีหมอกก็ได้อารมณ์อีกแบบ

มาข้างบนนี้ไม่มีไรทำนอกจากถ่ายรูปอย่างเดียวจ้าาา ถ่ายไปเลยเอาให้คุ้มค่าที่พัก ฝนตกเราไม่กลัว เรากลัวไม่ได้รูป บอกแล้วทุกที่คือรันเวย์

พอเริ่มเย็นมากๆ หมอกยิ่งจัด นี่นึกว่าอยู่เมืองร้างเพราะคนที่ไม่ได้นอนลงไปหมดแล้ว และเราก็จะเจอคนไทยบนนี้เยอะมาก 555 คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่

โบสถ์บนบาน่าที่ต้องถ่าย ใครมาก็ต้องมีซัก1แชะ ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์รองจากสะพานมือ แต่คนอื่นเขาแบบรูปสดใส ไอเรามาแบบขลังเชียว สวยอีกแบบเนาะ ปลอบใจตัวเองอยู่ 555 และนี่คือวันที่สองของเรา บนบาน่าฮิลส์ พรุ่งนี้ลุยต่อ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี4 กะตื่นไปเก็บภาพที่ยังไม่ได้ถ่าย กับรีบลงไปสะพานมือคนจะได้ไม่เยอะ จะได้ไหมรอดูเลย

Day3 เปิดมาด้วยอาหารเช้า จริงๆตื่นตั้งแต่ตี4 แต่ฝนตก เลยนอนต่อ ตื่นมา 7 โมงเช้าก็ยังตกอยู่ เลยเปลี่ยนแพลนมากินข้าวก่อน อาหารไปเลี้ยงสมองถึงจะคิดออกว่าเอาไงต่อดี ตอนนี้แพลนที่วางไว้ล่มหมด

เห็นมือนั่นไหม ใช่คะ นี่คือสะพานมือ หมอกบังหมดแล้วจ้า ฝนตกลงมาแบบไม่เกรงใจชุดที่ใส่เลยจ้า

คุณกิตติค่ะ ที่นี่ลมแรงมากเลยค่ะ คาดว่าพายุจะกระหน่ำ ฝนตกไม่หยุดหย่อนเลยค่ะ รายงานล่าสุดร่มหักไปแล้ว2 คันค่ะ จะร้องละแม่ นอกจากต้องฝ่าฝูงชน ลมและฝนมาเต็ม ร่มไม่ช่วยอะไร จึงเก็บร่มแล้วฝ่าฝนเลยจ้า ตัวชื้นแฉะก็ชั่งมันละ ผมนี่ฟีบเชียวค่ะ แล้วที่ตื่นมาหนีบตอนเช้า เพื่ออะไร! แคมเปญนี้ยอมแพ้ค่ะ ไว้กลับมาซ่อมละกัน

วันนี้ธีมแล้วแต่กรูจ้า ใส่ยังไงก็ได้แล้วแต่เลย คิดไม่ออก แต่ดันใส่ออกมาเข้ากันเฉย อ่อ จะมีคนนึงที่ผิดธีมไปติส แต่ก็ไม่โดดมากพอให้อภัยได้

ต่อไปเราจะพาไปสวนดอกไม้ ระหว่างทางก็จะมีธรรมชาติเยอะแยะมากมาย เราก็เลยได้กลับสู่ธรรมชาติ อย่าตกใจกับความเปียกของผู้หญิงคนนี้ สงสารเขาเถอะค่ะ เขาผ่านอะไรมาเยอะ

ดอกไม้และผู้หญิงคนนั้น เห็นแค่นี้แหละค่ะ หมอกจัดถ่ายไรไม่ค่อยเห็นเลย เอามาให้พอกรุบกริบเนาะ 

เอ๊ะ นี่มันเสาอะไร ดูแล้วก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าถ่ายรูปสวยพอ

จากนั้นก็หลบฝนมาที่โรงบ่มไวน์จ้า เขาว่ามาบาน่าต้องมาดื่มไวน์ที่นี่ให้ได้

เราเลยจัดเบาๆ 1 แก้วถ้วนแบ่งกัน 4 คน คนละจิบๆ พอให้รู้รส เฮ้ย คือมันอร่อยมาก ไม่ขมไม่ฝาด หอมอร่อย คือดีเลย ไม่เสียดายเงิน 300 บาทที่เสียไปละ ใครมาต้องจัด แนะนำเลย

ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ทริปนี้ต้องมีรูปลงไปได้อีก2-3เดือนพูดเลย

แลนด์มาร์คอีกจุด ที่ถ่ายไม่เห็นไรเลย จบข่าว!

แยกย้าย ลากกระเป๋าลงกันเถอะ มูฟออนค่ะ ไปที่ใหม่จ้าาา

ที่พักคืนที่ 3 Danang golden bay ดีอีกแล้วจ้าาาา หรูหราหมาเห่ามาก พนักงานก็ดี คนมาพักก็ดี มีนักฟุตบอลมาพักด้วย หล่อมาเขิลเลย ที่นี่คนเกาหลีเยอะมากกกกก นึกว่าอยู่เกาหลี

มาถึงนี่ก็ต้องไปว่ายน้ำสิ ที่จองที่นี่ก็เพราะวิวบนสระน้ำชั้น 29 นี่แหละ คือสวยมาก ไม่ผิดหวังเลย

จริงๆ ไม่ได้ว่ายหรอกน้ำอะ ขึ้นมาถ่ายรูปอย่างเดียวเลย สวยจริง แถมผู้ชายงานดีมากจ่ะแม่

อันนี้คือธีมแคปเปญย่อย ชุดดินเนอร์โรงแรมหรู ชอบส่วนตัวไม่ได้นัดกันแต่เข้ากันเป๊ะ ทุกที่คือรันเวย์ บนโต๊ะกินข้าวก็เช่นกัน

อันนี้ไม่ได้หิวนะคะ แค่โหย กินช้างได้ทั้งตัว

จบดินเนอร์ ก็ตัวใครตัวมัน แยกย้ายนอนจ้า 

รอต่อวันสุดท้าย วู้!

Day4 ชุดว่ายน้ำ 1 ชุดไม่เคยมีจริง งานกลางคืนและงานเช้าต้องคนละชุดค่า ตื่นมาเพื่อการนี้ หุหุ 

มื้อเช้าของวันสุดท้ายในเวียดนาม วันหยุดผ่านไปเร็วจริงๆ และวันนี้ฝนไม่ตกจ้าาา เนี้ยพอวันจะกลับฟ้าโปร่งเชียว น่าโมโหจริง!

ธีมวันนี้สีน้ำเงินฟ้าจ้าาา ถือว่าทริปนี้ประคองธีมกันได้ดีมาก ตรบมือ!!!! อ่อวันนี้เราเริ่มจากมาที่วัดเจ้าแม่กวนอิมจ้า ชื่อวัดนี้หรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่ว่าที่นี่รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมใหญ่และเด่นมาก สวยมากด้วย อยู่ไม่ห่างจากที่พักมากนัก

เป็นวัดจีนแบบสมบูรณ์แบบ สวยงามทุกมุม

ไหว้พระก่อนกลับซักหน่อย นำสิ่งโชคดีติดตัวไว้

คนเยอะมากจ้าาา หามุมหลบคนไม่ได้เลย ภาพก็จะได้ประมาณนี้ พอละเหนื่อย

ไหว้พระเสร็จก็เรียกแกร๊บมาเดินชายหาดชิวๆ ต่อ

ถ่ายรูปสิคะ รออะไร เรามาเพื่อการนี้ 

หาดนี้คนก็เยอะ มีผ้าใบให้นั่งด้วยเหมือนพัทยาบ้านเรา แต่ไม่รู้เก็บเงินค่านั่งไหม ไม่ได้ลอง 555

รันเวย์ต้องสะเทือน โพสต์แบบไม่แคร์สื่อ แม้จะมีอากงนั่งมองอยู่ข้างๆ คงงงว่าพวกมึงทำไรกันฟระ แต่ถามว่าสนไหม โนวจ้า นาทีนี้ต้องโพสต์เข้าไว้

เมื่อโพสต์จนเอวยอก ก็ถึงเวลาต้องกลับโรงแรมเพื่อรอรถไปสนามบินกลับไทย แต่ก่อนกลับก็ได้ชุดอาฟเตอร์นูนทีจ้า จริงๆต้องกินตั้งแต่เมื่อวานที่มาถึงแล้ว เขาให้ฟรีกินได้ถึง5โมงเย็น แต่เมื่อวานถึงที่พักก็เกือบ 5 โมงแล้ว แต่นี่ไปขอเขา ทางโรงแรมก็ใจดีให้ขึ้นไปทาน ดีมากๆเลย ปลื้ม ถ้ามาอีกก็จะมาพักอีก บริการดีมาก

และแล้วก็ถึงเวลากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงจ้าาา

ถึงไทยน่าจะประมาน 1 ทุ่มนิดๆ เช้าทำงานต่อ เห้ออออ บอกเลยว่าเวียดนามต้องได้มาอีก บาน่าฮิลส์ก็ต้องมาซ้ำ ขอแบบฟ้าโปร่งใส แล้วเจอกันใหม่นะเวียดนาม เรามาหานายแน่ 

สรุปทั้งทริปค่าเครื่องบินไป-กลับ ค่าที่พัก ค่ากินเที่ยว ตกคนละไม่เกิน 14,000 บาทในระยะเวลา 4 วัน 3 คืน ถือว่าได้อยู่ คุ้มกินดีอยู่ดีไม่ลำบากจ้า

กระทู้นี้อาจยาวมากกกก แต่ตั้งใจทำจริงๆ ไม่อ่านจบก็ได้แค่ดูรูปบ้างก็ดีใจแล้ว โพสต์เอวเคล็ดขนาดนี้ ดูหน่อยเหอะ พรีสสสส