สวัสดีค่า <3

กระทู้นี้เราภูมิใจนำเสนอมาก เพราะทุกผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นแบรนด์ของคนไทยแบบ 100% ซึ่งปกติเราก็มีใช้อยู่บ้างสลับกับแบรนด์ต่างประเทศ จนประมาณเดือน ก.ค. เราไปกินยาเลื่อนประจำเดือนเพราะจะไปตจว. ทำให้สิวอักเสบที่ปกตินานๆ จะขึ้นสักที ประทุมา 3เม็ดเป้งๆ พร้อมสิวอุดตันประปราย ก็ใช้ BHA และยาแต้มสิว Smooth E สิวหายจริง แต่หน้าแห้งลอก ผิวบางและทิ้งรอยดำไว้ให้ช้ำใจเล่น T^T

ด้วยความที่เพิ่งหายจากสิวและผิวกำลังอ่อนแอ เราก็เลยไปเซิสหาสกินแคร์ที่อ่อนโยนกับผิวและไม่อุดตัน ซึ่งก็เจอกับสกินแคร์หลายตัวที่น่าสนใจเลยซื้อมาลอง จนสุดท้ายกลายเป็นสกินแคร์กันตายที่เราหยิบมาใช้ทุกวันมามากกว่า 3เดือน ทุกตัวผ่านการซื้อซ้ำแล้ว (ยกเว้นแป้งฝุ่น เยอะมากใช้ไม่หมดซักที) ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

เริ่มกันที่ตัวช่วยที่ทำให้สิวหายและรอยดำจางกันก่อนเลยละกัน

Smooth E Acne Plus 

สำหรับสิวไม่มีหัว ตัวนี้ใช้ดี มีสารสกัดธรรมชาติที่ลดการอักเสบและระคายเคือง และใช้ซาลิไซลิกแอซิด แบบปลดปล่อยอนุภาค (ดีกว่า ซาลิไซลิกแอซิด ปกติ 4 เท่า) ช่วยเสริมฤทธิ์ในการลดเชื้อ P.acne ลดการอักเสบใช้สลายสิวและป้องกันก่อนเกิดการอักเสบ 

วิธีใช้ : เราใช้ทาบนสิวอักเสบก่อนนอนแบบโบกหนาๆ ถ้าเพิ่งขึ้นแดงๆ  80% จะยุบหายไม่ได้เกิด แต่บางทีก็เอาไม่อยู่ปะทุออกมาก็ต้องรักษากันไป ข้อเสียตัวนี้คือ ผิวจะลอก ก็ซาลิไซลิกอ่ะเนอะ ลอกๆๆ จนหัวสิวโผล่แล้วหลุดออก ซึ่งสำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าทุกวันแบบเรามันทำให้ทาคอนซีลเลอร์ไม่ติด เราเลยต้องสลับใช้กับตัวนี้ 

La Vita Scar Care 

ลดรอยสิว รอยแดง รอยดำ ตัวนี้ใช้มานานแล้ว แต่เพิ่งมาค้นพบว่าเค้าสามารถลดการอักเสบได้ดีมากๆ เพราะมีสารสกัดจากใบบัวบกเข้มข้น ช่วยในการสมานแผลและลดการอักเสบ มีว่านหางจรเะข้ กับไฮยาลูโรนิคแอซิด ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น 

วิธีใช้ : เราใช้โบกหนาๆ หลังจากกดสิวเลย แผลหายไวไม่แห้งลอกให้หงุดหงิด แถมเค้ายังมีโอลิโกเปปไทด์-68 และวิตามินบี 3 ช่วยลดเม็ดสีผิว ช่วยให้พวกรอยแดง รอยดำจางไวด้วย ตัวนี้ต้องมีติดบ้านตลอด ขาดไม่ได้เลย 

อย่างที่บอกไปว่าหลังสิวหาย หน้าเราก็แห้งขาดน้ำมาก ริ้วรอย ร่องแก้ม ตีนกา รูขุมขนกว้างคือมาหมด เราเลยต้องหาตัวช่วยเรื่องความชุ่มชื้นมาโบกแบบหนักๆ แรกๆ ใช้ไฮยาฝาม่วงของญี่ปุ่น แต่มันขวดจิ๋วมากทาไม่สะใจ เลยลองซื้อโน่นนี่มาใช้ไปเรื่อย แต่สุดท้ายก็จบที่สองตัวนี้

Giffarine HYA intensive whitening pre serum : ไฮยาแม่อั้ม หน้าเด้ง ผิวใส

ตัวนี้เห็นแม่อั้มโฆษณาก็คันทันที สั่งมาลองเลยจ้า เค้าเคลมว่าเป็นไฮยาลูลอนิกธรรมชาติที่มาไกลจากยุโรปกันเลย พร้อมสารสกัดจากดอกไม้และมะนาวคาเวียร์ ที่จัดเป็น Natural AHA ช่วยให้ผิวขาวใส ใช้แล้วผิวชุ่มชื้น หน้าเด้ง ผิวใส ไร้ริ้วรอยอะไรประมาณนี้ 

เนื้อไฮยาใสไม่มีสี(ในรูปที่ดูเหลืองอ่อนเพราะสะท้อนสีผิวเรา) ค่อนข้างเหลว มีกลิ่นหอมบางๆ ทาแล้วซึมไปกับผิวได้ดี มีหนึบผิวนิดหน่อย เราใช้ตัวนี้เป็นพรีเซรั่มก่อนลงบำรุงตัวอื่น ใช้ครั้งละ 3-4หยด นวดวนไป ซึ่งเราชอบใช้ตัวนี้ตอนกลางคืน เพราะเคยใช้เช้าแล้วรู้สึกไม่รอด มีแอบหน้าหมองช่วงบ่ายๆ 

โดยรวมใช้แล้วชอบ ช่วยเรื่องริ้วรอยได้ระดับหนึ่ง ตื่นเช้ามาผิวดูอิ่มๆ หน้าเด้งดีแต่เรื่องขาวใสเราว่าไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ สรุปคือใช้ทุกคืน นี่ขวดที่สองและใกล้หมดแล้ว 

ข้อเสียคือ ราคาแรงใช่เล่น 27ml. 600บาท (หรือเราควรสมัครสมาชิกกีฟเฟอรีนเพื่อสิ่งนี้ 555) 

La Vita Vital Viva Moisturizing Gel ไฮยาเนื้อเจลบางเบา ใช้แล้วหน้าตึงเว่อร์

ตัวนี้เคยใช้ทาหน้าหลังออกแดดตอนผิวแสบไหม้ เค้าช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมากและอ่อนโยนสุดๆ เพราะเป็นสูตร Oil free แถมยังปราศจากพาราเบน,ซิลิโคนและแอลกอฮอล์อีกด้วย เลยเอาใช้ช่วงหน้าแหก แล้วมันก็เวิร์คมากจริงๆ 

ส่วนผสมหลักคือ ไฮยาลูรอนิก 4โมเลกุลที่นอกจากจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยนำพาสารสำคัญในการบำรุงผิวเข้าสู่เซลล์ผิวได้ล้ำลึกอีกด้วย มีว่านหางจระเข้ช่วยลดการระคายเคือง แล้วก็สารสกัดจากใบบัวบกเข้มข้นช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ริ้วรอยลดเลือน หน้าตึง ผิวใสอิ่มน้ำสุดๆ 

เนื้อเจลใสเข้มข้น แต่บางเบา มีกลิ่นหอมจางๆ ทาแล้วจะรู้สึกเย็นๆ ซึมเข้าผิวได้ดีมาก ตัวนี้ไม่หนึบผิวเลย คนผิวมันน่าจะชอบ ส่วนเราชอบตรงทาแล้วรู้สึกว่าผิวตึงกระชับดี ตัวนี้เราใช้ตอนเช้า ลงตัวแรกเลย บีบเจลออกมาขนาดประมาณเหรียญ 1บาท แต้ม 5 จุดแล้วเกลี่ย แล้วก็ลงบำรุงตัวต่อไป ตัวนี้ใช้แล้วผิวกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียนและแต่งหน้าติดทนขึ้นจัดเป็นตัวโปรดที่ขาดไม่ได้ ใช้มามากกว่า 5หลอดแล้ว 

ข้อเสียคือ เจลชอบค้างในหลอด บีบออกไม่หมด เราต้องตัดหลอดตลอดๆ แล้วหมดเร็วมาก อยากให้เค้าทำแบบหลอดใหญ่ออกมาขายซักที 

มาถึงแบรนด์ไทยที่กำลังมาแรงและรีวิวแน่นมากจากผู้ใช้จริง จนเราอดใจไม่ไหวตามไปสอยมาจากเซนทรัล ศาลายา ที่นี่ BA น่ารักและแนะนำดีมาก ซึ่งพอใช้แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย และตอนนี้เราก็กลายเป็นสาวก Fundamental ไปเรียบร้อย ลองใช้หลายตัวมากแต่สุดท้ายที่ได้ไปต่อและใช้ทุกวันอย่างจริงจังก็มีดังนี้

1. Cleansing Milky Jelly : ขวดเดียวจบ ครบทุกขั้นตอนของการล้างหน้า

เป็นตัวแรกของแบรนด์นี้ที่เราลองซื้อมาใช้ ตอนนั้นซื้อเป็นขวดเล็ก 100มล. เพราะที่ผ่านมาใช้ Cleansing Milk ทีไร สิวอุดตันบุกตลอด แต่ตัวนี้ที่กล้าลองใช้เพราะเค้าเคลมว่า 

10-FREE ปราศจากสารระคายเคือง สารก่อสิวทุกชนิด

✖ Oil ✖ Silicone ✖ Paraben ✖ Alcohol ✖ Fragrance ✖ Sulfate ✖ Ionic Surfactant ✖ Synthetic Color ✖ Phenoxyethanol ✖ PEG/PPG

ซึ่งพอได้ลองใช้แล้วมันแจ่มมากจริงๆ ล้างเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดโดยที่ผิวไม่แห้งตึง และไม่ต้องกลัวหน้าเหี่ยวหรือระคายเคืองเพราะไม่ต้องใช้สำลีเช็ดอีกต่อไป 

เช้า : เรากด 1 ปั๊ม นวดบนหน้าเปียกวนๆ แล้วล้างออก 

เย็น : กด 1-2 ปั๊ม นวดลงบนหน้าแห้ง นวดวนๆไป เพื่อละลายเครื่องสำอางบนหน้าออก ซึ่งของเราจะมีพวกสิวผดเม็ดเล็กๆ หลุดติดออกมาด้วย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จบ ไม่ต้องล้างด้วยโฟมหรือสบู่ต่อจ้า ดีงามมากกก 

ตัวนี้ซื้อไซส์ใหญ่ 450ml.มาใช้เป็นขวดที่สองแล้ว และจะใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าจะหยุดผลิต เพราะใช้แล้วสิวอุดตันลดลง หน้าชุ่มชื่นไม่แห้งผาก ปลื้มมากขาดไม่ได้!

2. Whiteglow Advanced Serum : เซรั่มหน้าใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่คนผิวบอบบางใช้ได้ 

ช่วงที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายจากการใช้ BHA จะเลือกใช้พวก Whitening นี่คือยากมาก เพราะส่วนมากจะมีสารที่ช่วยในการผลัดเซลล์ ซึ่งเราใช้แล้วจะแสบหน้า ระคายเคืองตลอด ซึ่งตัวนี้ก็มีสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวคือ Lactic Acid แต่สูตรของเค้าจะไม่เร่งการผลัดเซลล์จนผิวบาง เราใช้แล้วไม่แสบ ไม่คันยุบยิบใดๆ ถือว่าผ่าน และเซรั่มตัวนี้เค้าใช้สารหลายตัวที่ช่วยเรื่องขาวกระจ่างใสแบบจัดเต็มมาก (ดูได้จากหน้าขวด) 

เนื้อเซรั่มจะขาวขุ่นนิดๆ เหลวเหมือนน้ำ ทาแล้วซึมเข้าผิวได้ดี เราใช้ครั้งละ 3-4 หยด เช้า-เย็น ผลลัพธ์ที่ได้พอใจมาก สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รอยสิว ฝ้า กระ ดูจางลง ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือมันขาวใสแบบสุขภาพดีไม่ใช่ขาวซีด ซึ่งเราแฮปปี้มาก ขวดแรกกำลังจะหมด นี่ซื้อขวดที่สองตุนไว้แล้ว

3. AQUALIGHT SUN SERUM SPF50+ PA+++ กันแดดที่ทำให้ผิวโกลว์สวย เนื้อหนึบแต่ไม่อุดตัน

ตัวนี้ซื้อเพราะเห็นคนรีวิวในเพจว่าใช้แล้วผิวโกลว์สวย ลงแค่แป้งฝุ่นต่อผิวก็ฉ่ำเด้งเลยไปสอยตาม ซึ่งตัวนี้เค้าเคลมว่าเป็นกันแดด Physical สูตร 100% Natural หนึ่งเดียวในไทย ปกป้อง DNA เซลล์ผิวด้วย MAJESTEM™ สารสกัดรางวัล In-Cosmetics 2016 จากเซลล์ต้นกำเนิด Edelweiss, Switzerland แถมยังกันน้ำโดยปราศจากซิลิโคน ด้วย BioMimic Lamellar ที่สำคัญไม่ต้องกลัวอุดตันเพราะ 

10-FREE ปราศจากสารระคายเคือง สารก่อสิวทุกชนิด

✖ Oil ✖ Silicone ✖ Paraben ✖ Alcohol ✖ Fragrance ✖ Sulfate ✖ Ionic Surfactant ✖ Synthetic Color ✖ Phenoxyethanol ✖ PEG/PPG

คุณสมบัติเริ่ดแบบนี้ก็ต้องลองป่ะ เนื้อกันแดดสีเนื้อ มีให้เลือก 2เฉดสี เราใช้ 01 ทาแรกๆ จะดูวอกมากแต่สักพักจะปรับเข้ากับสีผิวเนียนไปเอง เนื้อกันแดดเหมือนรองพื้นคือกดออกมาเหลว แต่ทาแล้วเหนียวหนึบ ฟีลสเปคตร้าแบน60เลย ให้ลุคฉ่ำโกลว์แบบไม่ต้องไฮไลต์ คนหน้ามันไม่น่าชอบแต่เราได้อยู่ ใช้แล้วหน้าดูสว่างเนียนขึ้นนิดนึง ปกปิดรอยแดง รอยสิวได้บ้าง วันไหนไม่อยากหน้าแน่นลงคอนซีลเลอร์แล้วตบแป้งฝุ่นก็รอดนะ กันแดดได้ดีไม่มีแสบหน้า ฝ้า กระ ไม่เพิ่ม ตอนนี้ใช้ขวดที่สองใกล้หมดละ

ข้อเสีย : หัวกดไม่โอเค พอกันแดดเหลือครึ่งนึงมันจะกดยาก ช่วงใกล้หมดนี่หัวกดหลุดออกมาเลยจ้า ^^”

4. ACNE & SPOT CONCEALER ปกปิดเนียน ไม่อุดตัน ใช้แล้วสิวยุบไว

ตัวนี้ซื้อมาคู่กับกันแดด ตอนนั้นเค้าจัดโปรแพ็คคู่ก็เลยเอามาลอง ตัวนี้เค้าเคลมว่าทำจากธรรมชาติและ10-FREE ปราศจากสารระคายเคือง สารก่อสิวทุกชนิดเหมือนตัวกันแดด ไม่ต้องกลัวอุดตันแถมมีส่วนผสมที่ช่วยให้สิวยุบไวและช่วยสมานแผล อย่าง NiacinamideและTrocopherol  

มีให้เลือก 6 เฉดสี เราใช้ 02 เป็นคอนเซีลเลอร์แบบจิ้มจุ่มใช้สะดวกดี เนื้อสัมผัสเข้มข้นไม่ไหลเยิ้ม เม็ดสีแน่นมาก ปกปิดดีเยี่ยมแบบไม่ขุยและไม่ตกร่อง เราเคยเอามาผสมกับตัวกันแดดแล้วใช้ฟองน้ำไข่ลงทั่วหน้า ได้ลุคเหมือนลงคุชชั่นแบบผิวโกลว์ๆ ฉ่ำๆ ผิวสวยดีแบบไม่ต้องกลัวสิวเห่อหรืออุดตัน คนเป็นสิวควรลอง ตัวนี้กำลังจะหมดหลอดแรก หลังๆ ผิวดีขึ้นเลยใช้น้อยลงแต่ซื้อต่อแน่นอน

ข้อเสีย : ค้างหลอดเยอะ ต้องตัดหลอดแน่นอน

5. CASHMERE MATTE POWDER แป้งฝุ่นเนื้อเนียน คุมมันเยี่ยม ไม่อุดตัน

เพราะกันแดดเค้าเนื้อหนึบมาก แป้งฝุ่นเพื่อเซ็ตผิวและคุมมันจึงเป็นสิ่งที่ต้องมี ตัวนี้เค้าทำมาจากธรรมชาติ100% เคลมว่าช่วยคุมมันดีเยี่ยมตลอดวัน ด้วยพลัง Tripple Matte Powder จาก Silica, Kaolin และแป้งจากข้าวไทยที่ใช้นวัตกรรมผลิตจนเนียนละเอียดที่สุด 

แป้งมีสีเดียว เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น เนียนละเอียดมากจริงๆ คุมมันได้ดีมากๆ ให้ลุคแมทต์จริงอะไรจริงแต่ส่วนตัวเราชอบผิวโกลว์ๆ หน่อยเดี๋ยวหมดกระปุกนี้จะถอยรุ่น GLOW มาใช้ 

ที่เราประทับใจมากคือ แพคเกจเค้าเริ่ดสุดๆ เปิดมาจะเจอพัฟแบบผ้า(ซึ่งเนื้อดีมาก) พร้อมที่กั้นซึ่งต้องสแกนลายนิ้วมือก่อนเปิดใช้5555 ล้อเล่น! 

พอเปิดขึ้นมาจะเป็นตาข่ายเวลาจะใช้ก็เอาพัฟกดลงไปแป้งก็จะติดขึ้นมาแบบพอดีๆ ไม่ต้องเคาะตะแคงเหมือนแบรนด์อื่น พกไปเติมระหว่างวันได้แบบเก๋ๆ  กระปุกนึงใช้นานมากนี่ 3เดือนแล้วยังไม่หมดซักที ขนาดเราใช้ทุกวันนะ 

ข้อเสีย : เนื้อแป้งละเอียดเบา จนฟุ้งเข้าจมูก ใช้ทีต้องกลั้นหายใจหรือค่อยๆ ลงแบบใจเย็นๆ

มาถึง 2ตัวสุดท้ายซักที จัดเป็นโหมด Make Up แบรนด์ไทยที่เราใช้แล้วไม่แพ้ ไม่อุดตัน และให้ผลลัพธ์ที่ดีกับผิวในราคาที่เป็นมิตรมากๆ

Merrezca Excellent Covering Skin Perfecting Foundation SPF50+/PA+++ #Light Nude

ตัวนี้เคยลองใช้แบบซองมาก่อน แล้วชอบเนื้อรองพื้นที่เกลี่ยง่าย ปกปิดปานกลาง ใช้แล้วผิวเปล่งปลั่งให้ลุคดิวอี้สุขภาพดี ระหว่างวันไม่หมองไม่ตกร่อง แถมยังเคลมว่ามีส่วนผสมจากสารสกัดของสมุนไพร ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองรูขุมขน และไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว 

ใช้แล้วติดใจเลยถอยไซส์ใหญ่มาใช้ แต่ดันสั่งสีผิด ปกติเราใช้ Light Beige สีพอดีกับผิวเป๊ะ นี่ได้ Light Nude มา สี Undertone ชมพูมาก ทาแล้วหน้าเทาจ้า555 ก็เลยเก็บเข้ากรุไม่ได้หยิบมาใช้เลย จนมาเจอกับตัวนี้เลยเอามาใช้ผสมกันแล้วก็ใช้ยาวกลายเป็นคู่แท้ที่ขาดกันไม่ได้ไปเลยจ้า 

Daiso Push Matte Foundation #01

รองพื้นตัวนี้เห็นคนรีวิวกันเยอะว่าถูกและดี เลยซื้อมาลองแบบขำๆ แต่พอใช้แล้วมันดีกว่าที่คิดมากกก เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่ายไม่เหนียวหน้า ใช้มือก็รอด ใช้ฟองน้ำไข่ยิ่งแจ่ม ปกปิดดีมาก บิ้วท์เพิ่มได้ตามจุดที่ต้องการปกปิดพิเศษ เคยใช้เดี่ยวๆ ทั้งวันไม่หมอง ไม่หลุด คุมมันเริ่ด ทนเหงื่อดีมาก แต่มีตกร่องตรงใต้ตาบ้างตามสไตล์รองพื้นเนื้อแมทต์ 

ก็เลยลองเอาไปผสมกับ Merrezca ที่ซื้อมาผิดเบอร์ ซึ่งของ Daiso เราใช้เบอร์ 01 ขาวเหลือง พอไปผสมกับUndertone ชมพูของ Merrezca เลยออกมาลงตัวมากๆ พอดีกับสีผิวเรา แถมยังทำให้หน้าไม่ดูแมทต์เกินไป ผิวดูโกลว์นิดๆ แต่ไม่มันเยิ้ม ลงแป้งฝุ่นต่อก็เนียนสวยได้ทั้งวัน ตอนนี้ใช้ขวดสองแล้ว มีตุนไว้อีก 1ขวด ถูกและดีมีจริงจ้า  

มาดูรูป Before-After หน้าสดกันดีกว่า

ผิวโดยรวมดีขึ้น ขาวกระจ่างใสขึ้น รอยสิวและฝ้ากระจางลง รู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ไม่แห้งลอกเหมือนแต่ก่อน แต่งหน้าง่ายขึ้นและติดทนกว่าเดิม ซึ่งสำหรับเราแค่นี้ก็พอใจมากแล้ว ก็จะซื้อใช้ไปเรื่อยๆ เพราะนอกจากผิวหน้าจะดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยสนับสนุนแบรนด์ไทยอีกด้วย 

ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับสาวๆ นะคะ ใครเคยใช้ตัวไหนมาแชร์กันได้ หรือแบรนด์ไทยตัวไหนที่เด็ดก็มาแบ่งปันกันด้วยนะ 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ ^^