จุล เจตนิพัทธ์: จากนักศึกษาสู่การเป็นเบื้องหลังที่แลกมาด้วยความพยายาม(Q&A)
bellenattha 38 10 เค้าแจกฟรี/ มีคนให้มาแหละ :)จุล เจตนิพัทธ์: จากนักศึกษาสู่การเป็นเบื้องหลังที่แลกมาด้วยความพยายาม
“สมัยนี้ ยิ่งใครอยู่ได้ด้วยตัวเองเร็วกว่าก็ยิ่งดี” คำพูดจากชายหนุ่มอายุ 22 ปีในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนผ่านจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ พวกเขาหลายคนได้ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของความรัก กิจกรรม ชมรม หรือแม้แต่ความสนุกสนานกับการได้พบปะพูดคุยกับเพื่อน ๆ แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น ยังมีนักศึกษาบางกลุ่มที่พยายามพัฒนาตัวเอง ขวนขวายหาความรู้ ดิ้นรนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเองเพื่อคาดหวังอนาคตของตนเองที่ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
เพราะเหตุใดพวกเขาเหล่านั้นถึงต้องพยายามหนักมากกว่าคนอื่น ๆ ?
แนะนำตัวกันหน่อยค่ะ
สวัสดีครับ ผมจุลครับ เจตนิพัทธ์ ทวีทรัพย์ตอนนี้มีรายได้จากการทำงานด้านไหนหรือผลงานอะไรบ้าง
มีรายได้จากเงินเดือนที่พ่อให้ด้วย ทำงานเสริมด้วย
ก็มีรับตัดต่อหนังสั้น น้อง ๆ มัธยมปลายเขาก็มาจ้างทำ
รับถ่ายรูปบ้าง มีงานแสดงบ้าง
ผลงานก็จะเป็นพวกหนังสั้นนักศึกษาต่าง ๆ
ร่วมถ่ายแบบโฟโต้บุ๊ค เคยประกวด KPN Award
ร่วมแคสซีรี่ส์กับช่อง 3SD ทำยูทูบเป็นของตัวเอง
มีงานตลอดไหม
มันจะมาเป็นช่วงมากกว่าสำหรับงานตัดต่อ บางเดือนงานน้อยก็มีครับเริ่มทำงานพิเศษตอนไหน
แคสงานโมเดลลิ่งเริ่มงานตอนอายุ 13-14 ปีเราเพิ่งเริ่มตัดต่อ 1-2 ปีหลังเพราะพึ่งทำเป็นตั้งแต่ตอนที่เข้ามาเรียน
ทำไมถึงมาเริ่มหารายได้พิเศษ
รู้สึกว่าเราจะขอพ่อแม่ตลอดไปก็ไม่ได้อยากอยู่ได้ด้วยตัวเองเร็ว ๆ
ในสมัยนี้ ยิ่งใครอยู่ได้ด้วยตัวเองเร็วกว่าก็ยิ่งดี ก็เลยคิดว่าอยากจะเลี้ยงตัวเองให้ได้เร็ว ๆ
อยากเรียนฟิล์มอยู่แล้วรึเปล่า
ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเราอยากเรียนอะไร เนื่องจากไปแคสต์งานหรือซีรี่ย์พอเจอเบื้องหลังน่าสนใจก็เลยอยากเรียน ก็เลยหาคณะอะไรที่มันสอนแนวนี้
นำความรู้ที่เรียนอยู่มาประยุกต์ใช้อย่างไร
ก็อย่างตัวจุลเอง จุลเรียนคณะเกี่ยวกับภาพยนตร์เอามาปรับกับงานได้ทุกอย่าง เช่น การไปแคสงานซีรี่ส์
บางทีเราก็รู้โดยอัตโนมัติเองว่าผู้กำกับต้องการงานตรงไหน
ชอบอะไรแบบไหน เราก็รู้ อย่างอาจารย์สอนการตัดต่อ
ก็สามารถทำให้รับงานนอกได้ด้วย ได้เงินเพิ่มด้วยครับ
อยากเปลี่ยนงานที่ทำอยู่ตอนนี้บ้างไหม
ความรู้สึกต่องานตอนนี้ยังสนุกอยู่เคยคิดจะเปลี่ยนงานนะแต่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไรอีกก็เลยไม่เปลี่ยน
ส่วนในอนาคตก็คงยังตอบไม่ได้เต็มปากว่าจะเป็นยังไง
อาจจะเจออะไรที่เราชอบกว่านี้ก็ได้เราอาจจะไปทำงานอย่างอื่นก็ได้
ซึ่งงานที่ทำอยู่ในตอนนี้มองว่าในอนาคตก็ยังมีคนที่ต้องการคนที่จะมาทำงานพวกนี้เยอะอยู่เหมือนกัน
อาจจะอยู่ได้ยาว ๆ ถ้าเราไม่เปลี่ยนงานไปก่อน
ท้อไหม
เหนื่อย ฮ่ะ ๆ (หัวเราะ) เหนื่อยมากช่วงเราหมดไฟ
มีครับ เมื่อประมาณปีที่ผ่านมาอ่ะครับคือเรารู้สึกเหนื่อยกับการแคสงานเราเลิกแคสงานไปปีกว่าเลย เวลาเราไปพวกแคสงาน
มันต้องสู้กับคนเป็นร้อย มีคนที่เก่ง ๆ กว่าเราเยอะ
มันเหนื่อยมากจนเราหมดกำลังใจไปเลย
เคยคิดจะเลิกเลยนะแบบไม่เอาแล้ว
แต่ก็ยังอยู่ที่เดิมเพราะว่าเรารักที่ของเราตรงนี้ไปแล้ว
แล้วดึงตัวเองกลับมาทำงานต่อได้อย่างไร
กว่าจะมาได้ขนาดนี้ก็รากเลือดก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังพยายามอยู่เรื่อย ๆ
แต่คนรอบข้างก็สำคัญ
คำพูดจากหลายๆคนทำให้เราได้คิดว่าเราจะหนีไปจริง ๆ เหรอ
หลายคำพูดให้กำลังใจจนเราอยากสู้ต่ออีกครั้ง
เวลาเหนื่อยมากๆ เราจะทำอะไร
พักผ่อน(ยิ้ม) อยู่กับเพื่อนที่แบบเวลาเราเหนื่อยเราโทรไปปรึกษาเขาเขาก็ให้กำลังใจเรา พูดอะไรแบบให้เรามีแรงทำงานเหมือนเดิม
ก็หลายอย่างอ่ะครับที่เพื่อนหรือคนรอบตัวเขาก็ช่วยเราด้วย
ยังอยากพัฒนาตัวเองอยู่รึเปล่า
เอาจริง ๆ ในเรื่องของการทำงานก็มีเรื่องที่ต้องพัฒนาอีกเยอะมาก
อย่างที่เราทำหลัก ๆ ในตอนนี้ก็จะเป็นตัดต่อ
รับทำอะไรแบบนี้มากกว่า ก็ในการตัดต่อมีเทคนิค
ใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ ยังไงเราก็ต้องพัฒนาตัวเองมากๆตลอดเวลาอยู่ดี
คิดว่าตัวเราตอนนี้ดีพอหรือยัง
พูดตามตรงเลยก็คือยังบางอย่างเรามีโอกาสแต่เราแค่เหนื่อยแค่ขี้เกียจ
ก็เลยเลือกที่จะทิ้งไปในหลาย ๆ งาน หลายๆด้านในตัวเรา
เราลืมที่จะทบทวนมันและปล่อยให้มันค่อย ๆ หดหายไป
แรงกระตุ้นในการทำงานอย่างแรกเลยคือตัวเอง
คิดเสมอว่าถ้าไม่ทำอนาคตตายแน่ไม่มีเงินกินข้าว
ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัวในอนาคตจะทำยังไง
เต็ม100% ตอนนี้คิดว่าตัวเองมาไกลเท่าไหร่แล้ว
ก็ฮ่ะ ๆ (ขำ) ไม่รู้อ่ะ น่าจะ 60-70 ประมาณนี้เพราะว่าการทำงานแบบนี้มันไม่มีอะไรต็มร้อยอยู่แล้ว
มันจะมีอะไรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดเวลา
ควรเรียนอย่างเดียวหรือทำงานพิเศษด้วยดี
แล้วแต่มุมมองคนนะบางคนก็คิดว่าเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย
กับบางคน คนที่เขาพอจะมีกำลังทรัพย์อยู่แล้ว ไม่ต้องมากังวล
เขาก็ตั้งใจมาก ๆ แล้วค่อยไปทุ่มกับชีวิตหลังเรียนจบ แล้วแต่คน
แนะนำว่า ก็เรียนไปด้วยแล้วก็มีรับงานข้างนอกด้วย
ในสิ่งที่เราทำได้แบบเล็ก ๆ น้อยเป็นค่าขนมแต่ละเดือนแบบนี้น่าจะโอเคกว่า
เพราะบางงานมันหนัก แล้วเรายังต้องเรียนอีก ไม่อยากให้ทิ้งไป
แนะนำสำหรับคนที่อยากทำงานพิเศษช่วงวัยเรียน
อยากบอกว่า ให้อดทนและฝืนทำมันไปซักหน่อยแต่ไม่ต้องฝืนมากนะ เพราะว่างานทางด้านนี้ ถ้าเราฝืนตัวเองมาก
มันจะกลายเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพ ทั้งราคาผลงาน ราคาเครดิตเรา
ทุกอย่างจะร่วงหมดเลย มันต้องใช้ใจอย่างเดียว