เริ่มทำ Blog ง่ายๆ มาหา Style ตัวเองให้เจอกัน :)
Mini_Meen
61
20
สวัสดีค่า
เชื่อว่าหลายคนคงสนใจที่จะสร้างกระทู้หรือ blog ของตัวเองกันใช่ม๊า
แต่ก็อาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ยังหาสไตล์ตัวเองไม่เจอ
ไม่มั่นใจว่าวิธีการเขียน วิธีการถ่ายรูป
หรือการวาง layout จะออกมาโอเคหรือเปล่า
วันนี้มีนเลยอยากจะมาแชร์วิธีการหาสไตล์ของตัวเองในการเขียนกระทู้
รวมถึงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองมาให้ได้อ่านกันค่ะ
Find your own styles
1) หาแรงบันดาลใจ
ลองสังเกตตัวเองว่า ชอบอะไร อะไรทำให้เราสนใจและสร้างความประทับใจให้กับเรา พูดง่ายๆ ก็คืออะไรที่ดึงดูดเราจนเราต้องทำหรือมองหาสิ่งนั้นซ้ำๆ หรือถ้าใครเบื่อแนวเดิมๆ ที่ทำอยู่ ก็สามารถหาอะไรใหม่ๆ เพื่อสร้างไอเดียที่ท้าทายขึ้นก็ได้ค่ะ
2) หาคีย์เวิร์ด
เมื่อเราเจอสิ่งที่เราชอบแล้ว ลองหาคีย์เวิร์ดของสิ่งเหล่านั้นแล้วพิมพ์หาในอินเตอร์เน็ตดู ข้อมูลมากมายจะ pop up ขึ้นมา ซึ่งยิ่งคีย์เวิร์ดของเราละเอียดได้มากเท่าไร เราก็จะเจอสิ่งที่เราต้องการได้มากขึ้น แต่ถ้ายังไม่มีรายละเอียดมาก ก็ค่อยๆ เลื่อนหาดูสิ่งที่เราสนใจต่อไป เชื่อว่าจะต้องเจอบางอย่างที่เราชอบแน่ๆ
3) เข้า PINTEREST !
Pinterest เป็นอีกเว็บนึงที่น่าสนใจมากๆ เพียงแค่พิมพ์คีย์เวิร์ดที่สนใจลงไป รูปมากมายก็จะขึ้นมา พอกดเข้าไปดูเรื่อยๆ เว็บไซต์จะคอยหาภาพที่มี vibe ลักษณะเดียวกับสิ่งที่เราสนใจขึ้นมาให้เราดูเรื่อยๆ ทำให้เราเจอสิ่งที่ชอบได้ง่ายเลยล่ะ
ความสนุกของ Pinterest ก็คือ เมื่อเราสมัคร account เราก็สามารถสร้าง board ของตัวเองได้ ทำให้เรามี catalog ไว้เก็บความสนใจของเราในแต่ละช่วงได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แล้วเมื่อเรากดเข้าไปในรูปที่เราสนใจแล้ว เค้าก็จะลิ้งค์ more like this หรือภาพต่างๆ ที่เรา "น่าจะสนใจ" ไว้ให้เราอีกมากมาย ทีนี้ก็จิ้มภาพที่เราชอบๆ ไปเรื่อยๆ ได้เลย
หรือถ้าใครอยากถ่ายภาพสวยๆ ลองเข้าไปที่ tumblr ก็ดีนะ มีภาพสวยๆ เอาไว้เป็นตัวอย่างมากมายเลยค่ะ
หลังจากได้รับแรงบันดาลใจพร้อมไอเดียกันเต็มๆ แล้ว
เร่ิมเขียนกันเลย !
Let's get started !
1) หาหัวข้อที่สนใจ
อยากเล่าเรื่องอะไร เริ่มจากมองไปรอบๆ ตัวว่ามีสิ่งไหนที่เราอยากเล่า อย่างแชร์บ้าง อาจจะเริ่มจากโต๊ะเครื่องแป้ง ของใช้ประจำวัน อาหารการกิน การแต่งตัว การท่องเที่ยง หรือไลฟ์สไตล์ต่างๆ
2) เช็คลิสหัวข้อสำคัญในการเล่าเรื่อง
เริ่มจาก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้คืออะไร ยี่ห้อไหน มองรายละเอียดของผลิตภัณฑ์จากภายนอกตั้งแต่ แพคเกจ รูปทรง วิธีการเปิด-ปิด ขนาด ปริมาณ แล้วค่อยๆ มองลึกเข้าไปถึงเนื้อผลิตภัณฑ์ อธิบายลักษณะของเนื้อสัมผัส สี กลิ่น ความรู้สึกที่ใช้ และสุดท้ายผลลัพธ์ของการใช้ อาจมีการเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อย การทำ before - after หรือ wear test ต่างๆ
3) เลือกสรร Theme ที่ใช่
หา theme ตรงนี้ก็สำคัญนะคะ เมื่อเรามีไอเดียหลักๆ แล้ว ลองออกแบบคร่าวๆ ว่า เราอยากให้ mood & tone ของกระทู้เราเป็นแบบไหน ใช้สีประมาณไหน หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่เรารีวิว อาจจะเลือก color palette เป็นแบบ monochrome หรือเลือกมาสัก 2-3 สี เพื่อให้คุมโทนก็ได้นะ
ยกตัวอย่างเช่น...
รีวิวโฟมล้างหน้า ที่มี apricot เป็นส่วนผสม เราสามารถหยิบโทนสีของ apricot มาใช้เป็นโทนหลัก อย่างสีส้ม สีเหลือง สีเขียว หรือจะวาดรูป apricot น่ารักๆ เพื่อเพิ่ม gimmic ได้เหมือนกันค่ะ อ่า...ถ้าใครมีพร็อบที่เกี่ยวข้องก็สามารถเอามาใช้ในการถ่ายรูปได้เลย
เท่านี้กระทู้ของเราก็จะมี Theme ที่มีความ unity แล้วล่ะค่ะ
4) การถ่ายรูป
มาถึงอีกหัวใจสำคัญแล้วค่ะ นั่นก็คือรูปภาพ จริงๆ จะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือหรือกล้องแบบจริงจังก็ได้เลย เพียงแต่ต้องรู้ว่าถ่ายยังไงแล้วตอบโจทย์ไอเดียและ theme หลักของเรา ถ้าเราจะถ่าย swatch ก็ควรให้สีของผลิตภัณฑ์ชัดเจน ถ่าย wear test ก็ต้องให้เห็นการเปลี่ยนแปลงระหว่างวัน ซึ่งเทคนิคง่ายๆ ที่เราลองสรุปมามีดังนี้ค่ะ
จะถ่ายรูปให้สวยแสงต้องมาก่อน ถ้าเรามีแสงที่เพียงพอรูปที่ถ่ายจะได้รายละเอียดชัดเจนค่ะ จะเป็นแสงแดดหรือแสงจากหลอดไฟก็ได้เลย เพราะเมื่อแสงน้อย iso ของกล้องจะยิ่งสูง เมื่อ iso สูงภาพจะไม่คมชัด หรือถ้าเกิดว่าใช้ iso ต่ำ shutter speed จะช้า เมื่อเราอยู่ไม่นิ่ง ภาพที่ถ่ายก็จะเบลอ
ซึ่งโดยส่วนมากเทคนิคการถ่ายภาพพวกนี้ในโทรศัพท์จะเป็น auto ให้อยู่แล้ว เค้าจะชดเชยแสงให้ในสภาวะต่างๆ แต่ถ้าลองสังเกตดูดีๆ ความคมชัดของภาพก็จะลดลง แม้ว่าภาพจะดูสว่างก็ตาม ถ้าแสงเพียงพอถ่ายยังไงก็จะออกมาโอเคเลย
สังเกตจากภาพที่ยกตัวอย่างให้ดูนะคะ
มีนใช้กล้องของ iPhone 7 ถ่ายในสภาพแสงที่แตกต่างกัน
ซ้าย
ถ่ายในห้องแสงน้อยมาก ไม่เปิดไปช่วย ด้วยความออโต้ของกล้อง เค้าจะปรับให้ภาพสว่างปกติอยู่แล้ว แต่สังเกตดีๆ ภาพจะไม่คมชัด มีความแตกๆ และเห็น grains ชัด สีเพี้ยนไปนิดหน่อย
กลาง
ถ่ายในห้องที่แสงปานกลางและลองเอาไฟช่วยนิดหน่อย ภาพก็จะคมชัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังคงเห็นความแตกๆ ของภาพเล็กน้อย
ขวา
ถ่ายนอกห้อง ได้รับแสงจากธรรมชาติ วัตถจะมีความคมชัดมากขึ้น ตัวหนังสือชัดเจน สีชัดเจนใกล้เคียงความเป็นจริง
เพื่อให้ภาพที่ถ่ายน่าสนใจมากขึ้น ลองถ่ายภาพหลายๆ มุมดูค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบ Close up ให้เห็นรายละเอียดของผลิตภัณฑ์หรือข้อมูลชัดๆ หรือถ่ายแบบมุมกว้างให้เห็นภาพรวม ถ่ายด้านข้าง ถ่ายตรงๆ ก็ลองทดลองหามุมมองกันดูนะ
ต้องอย่าลืมว่าเราจะเน้นอะไรในการถ่ายภาพๆ นั้น พยายามให้จุดสนใจนั้นอยู่ตรงกลาง หรือจะใช้กฎของ Rule of Thrids ก็ได้ค่ะ กฎนี้เป็นจะช่วยให้เราวางองค์ประกอบของภาพได้อย่างสมดุล โดยให้จุดสนใจของภาพอยู่ในตำแหน่งจุดตัดทั้ง 4 จุดเหล่านี้จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับภาพ ช่วยให้ภาพลงตัวมากยิ่งขึ้น
ถ่ายภาพให้เสร็จในคราวเดียว
ในกรณีที่ต้องการถ่ายภาพ swatch หรือรีวิว การที่จะทำให้ภาพในกระทู้นั้นๆ มีความใกล้เคียงกัน สภาพแสงต้องเหมือนหรือแตกต่างกันไม่มาก ภาพที่ออกมาจะได้มีคุณภาพและไปในทิศทางเดียวกันทั้งกระทู้ เวลาเอาไป process ในโปรแกรมแต่งภาพต่อจะง่ายขึ้นมากๆ
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ แล้วกันนะคะ สมมติว่าเราถ่ายภาพกับแสงแดดตอนเย็น ภาพที่ได้จะมีความส้มๆ ซึ่งถ้าเราใช้เวลาถ่ายนานจนเริ่มหัวค่ำ แสงแดดหมดต้องพึ่งพาแสงจากหลอดไฟ โทนสีของภาพที่ได้จะแตกต่างกันมาก ต้อง correct สีกันเหนื่อยเลยล่ะ แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ เรามีตัวช่วย ไปดูในข้อต่อไปกันเลย
เมื่อเราได้ Source ภาพที่ต้องการแล้ว การใช้ App จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นไปอีก หลักๆ ก็จะใช้เพื่อช่วย correct สี ปรับความสว่าง ปรับอุณหภูมิ ปรับความคมเข้มของภาพ App ที่ชอบใช้ก็คือ
VSCO
คือมี Function พื้นฐานในการแต่งรูปที่ครบ จบ แถมมี filter ให้เลือกใช้มากมาย ส่วนตัวก็จะชอบใช้โหมด manual เพื่อ edit เอง ตาม mood & tone ของภาพในแต่ละกระทู้ค่ะ
Pixelmator Photo
คือรายละเอียดเหมือน Photoshop แต่เข้าใจง่ายดี ช่วงนั้นมีให้โหลด version Pro ใน iPad ฟรี เลยลองโหลดมาใช้ ทำงานง่ายดีเหมือนกัน
เป็นตัวช่วยในการปรับอุณหภูมิของภาพที่ดีเยี่ยม บางครั้งเราถ่ายภาพมาในสภาพแสงที่ไม่ดี หรือสภาพแสงที่ต่างกันมากๆ ภาพอาจมีความอมเขียว อมฟ้า อมส้มจนเกินไป เจ้าตัว White Balance สามารถช่วยปรับอุณหภูมิของภาพให้เป็นไปตามความจริงได้ เพื่อให้ภาพสีของการ swatch หรือรีวิวต่างๆ เป็นไปตามสีจริงมากที่สุด
5) Finishing Up !
ถ้าใครยังไม่พอใจ อยากจะสร้าง Layout เก๋ๆ เพื่อให้กระทู้ดูโดดเด่น ก็สามารถเพิ่มเติมกันได้เลย ถ้ามีเวลาว่างๆ เราก็ชอบทำ เพราะช่วยให้กระทู้เรามี unity ดูไปในทิศทางเดียวกันดีค่ะ เช่นการใส่กรอบสีๆ การวาดภาพประกอบ หรือการเขียน text เล็กๆ น้อยๆ ลงบนรูปภาพ App ที่ชอบใช้เลยก็คือ
Procreate
เป็น App ทำงานสาย illustrator ที่ทำงานได้ครอบจักรวาล
ให้อิสระในการสร้างสรรค์งานมากๆ เลย
April
ช่วยจัดวาง layout แบบ basic สามารถแต่งรูปได้
ทำขอบ ตกแต่งด้วย sticker ใส่ text แต่ก็มีข้อจำกัดนิดหน่อย
เรื่อง element ในการตกแต่งค่ะ เช่น มีสีให้เลือกน้อย
แต่เวลาเร่งรีบ ตัวนี้ก็ช่วยชีวิตไว้ได้มากเลย
Nichi
อันนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนชอบตกแต่ง layout
เพราะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ ครอบจักรวาล
แต่ถ้าเราไม่จ่ายรายเดือน ก็จะมีข้อจำกัด
เช่นไม่สามารถปรับขนาดภาพได้ตามต้องการ
ทำได้ตาม preset เท่านั้น แต่พวก sticker
และของตกแต่งถือว่าดีทีเดียว น่ารักมากๆ
Canva
เพิ่งลองใช้ได้ไม่นานค่ะ แต่เป็น App ที่เลิสอยู่
เพราะมี layout และ preset ให้เลือกเยอะมากๆ
อิสระพอๆ กับ Nichi เลย แต่ถ้าไม่ได้ใช้แบบ Pro
เท่าที่ลองใช้ภาพที่เรา export ความละเอียดจะไม่สูงมากค่ะ
มาถึงตรงนี้ อาจจะมีขั้นตอนเยอะไปหน่อยนะ 55555555 แต่ขอคอนเฟิร์มว่าแต่ละขั้นตอนไม่ยากเลยค่า ลองเล่น ลองทำบ่อยๆ รับรองจะสนุกกับการถ่ายรูปและการทำกระทู้แน่นอน
เชื่อว่าทุกคนจะต้องเจอสไตล์ที่ตัวเองชอบ
ส่วนตัวเราก็ชอบเปลี่ยนสไตล์ไปมา ตามความสนใจในแต่ละช่วงเวลา
ว่าอยากทดลองอะไร อยากเล่นอะไร
แต่หลักๆ ที่ชอบทำก็คือ คุมโทนรูปหรือ layout ในแต่ละกระทู้
ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
ทางเราก็สะสมประสบการณ์ต่างๆ มาเรื่อยๆ
มีเวิร์คบ้าง ไม่เวิร์คบ้าง 555555 เลยอยากเอามาแลกเปลี่ยนกันดูค่า
อ่ะว่าแล้วก็ไปทำกระทู้กันค่าาาาาา