EP1 ไปเวียดนาม  โดยไม่ต้องนั่งเครื่องบิน one day trip in hue เว้
เริ่มจากตอนนั้นที่ไปค่าตั๋วเครื่องบินแพงมาก ✈ แต่เรามีเวลาว่างกันแค่ช่วงนั้นก็เลยจัดการนั่งรถทัวร์ไปหลังเสร็จงาน ค้นหาข้อมูลกันอยู่นานจนมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า ยังไงก็รอด ข้อมูลแน่นมือขนาดนี้ ที่เหลือก็แล้วแต่บุญแต่กรรม55555
นั่งรถทัวร์ รอบ4ทุ่ม : กรุงเทพไป มุกดาหาร ( แนะนำว่าให้จองก่อน เฌอเป็กไปตอนช่วงเทศกาลคนเยอะมากกกก ) ไปลงสุดทางเลย


Vlog เที่ยวเว้ hue 1 วัน ใครไม่เว้ แต่หว่าเว้น้าาาา ( เวียดนาม )

Day1

ตอนนั้นช่วงเทศกาล รถมาถึงช้ากว่ากำหนด ปกติต้องมาถึงมุกดาหาร 7 โมงกว่าๆ ตอนอยู่บนรถคิดแล้ว เอาไงว๊าาาา รถมาไม่ทัน จะทันรถที่เข้าไปเว้ไหม เฮ้อออออ แค่เริ่มก็สนุกและ

พอรถมาถึงมุกดาหารตอน 9 โมง เลยทำการจองตั๋วจากตรงท่ารถมุกดาหาร ไปที่ สะหวันเขต

จากนั้นก็ขึ้นคันเดิมนั้นแหละ แล้วก็นั่งรถต่อ ไปลงที่สะหวันนะเขตเลย พอถึงก็เดินทางเข้าไปซื้อตั๋ว เข้าเมืองเว้ได้เลย

แต่ แต่ แต่!!! ถ้าทุกอย่างมันราบเรียบก็ไม่สนุกอ่ะจิ

เราไม่ทัน VIP รอบ 9 โมงจ้า ก็ต้องรอรอบ 3 ทุ่มเลย เลยจองตั๋วไปลงปากทางลาว ทางที่จะเข้าเวียดนามรอบ 10 โมงแทน

เราก็มีตั๋วเข้าลาวเรียบร้อยย

ท้อเลย ใช้เวลาบนรถ 10 ชั่วโมง เพราะตกรถนั้นแหละ ใครเที่ยวช่วงเทศกาลต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อย บทเรียนราคาแพงงงงงง

ไปถึงปากทางเวียดนามตอนเกือบ 1ทุ่ม หายนะอีกรอบ!! ตกรถจากปากทางเวียดนามเข้าไปเว้

คือมันจะมีรถจากปากทางเวียดนามเข้าไปเว้ แต่ต้องมาก่อน 6 โมงเย็นนะ

ถึงชีวิตจะท้อแท้แค่ไหน รูปสวย ๆ ก็ต้องห้ามพลาด

ยามดึกมืดๆ ไฟสลัว ๆ ก็สวยดีนะ

เราก็เข้ามาเมืองเวียดนามเรียบร้อย แต่พี่ที่ตรวจคนเข้าเมืองบอกว่า หาที่พักโรงแรมแถวนี้เลยตอนเช้าค่อยไป เราก็แบบถอนหายใจและ เฮ้อออออ !!!

ในโชคร้ายมันต้องมีโชคดีบ้างแหละ

ระหว่างทางที่เดินไปหาโรงแรม ก็ถามพี่ที่ตรวจรถเข้าเมืองอีกรอบ พี่ค่ะ!! แถวไหนมีโรงแรมพักบ้าง หนูจะไปเว้ เค้าก็ถามว่าแท็กซี่ก็มีนะ แต่!! แพงกว่าค่าเครื่องบินอีก เฮ้อออออ สรุปยังไงก็ไม่ไป

มีพี่ชายหนุ่มขับรถผ่านมาพอดี จะเข้าเว้ เย้!!!!!!

พี่ตรวจคนเข้าเมืองก็ให้เราติดรถไปกับพี่เค้าเลย แค่เราเลี้ยงข้าวพี่เค้าก็พอ เราก็ตอบ ตกลงค่ะพี่!!!!

ถึงในที่สุดก็ถึง เว้ แล้วววววว

ก็เป็นไปตามแพลนที่วางไว้

พี่เค้าใจดีมาก ขับมาส่งถึงที่พักโรงแรมเลย

ต้องขอบคุณกันยกใหญ่

บอกเลยว่า ไกลมากกกกกก ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ได้

พี่เค้าใจดีมาก ขับมาส่งถึงที่พักโรงแรมเลย มาถึงประมาณ 4 ทุ่ม เกือบ 5 ทุ่มและ

ระหว่างทางพี่เค้าก็แวะพาซื้อซิมมือถือ และก็ที่ไหนน่าเที่ยว น่ารักสุดๆ

สุดท้ายไม่ได้ถ่ายรูปพี่เค้า และระหว่างทางไว้ เกรงใจพี่เค้า แต่มันคือโมเม้นดีๆ ที่ทั้งวันเจอแต่เรื่องแย่ๆ 555555555

ทุกอย่างก็เลยเป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่จะเที่ยว

เราก็แลกเบอร์กันไว้ ถ้าพี่เค้ามาไทยเราจะพาเที่ยว^^

เราพักกันที่โรงแรม Phong nha Hotel ค่าใช้จ่ายต่อคืนประมาณ 700 บาท

อยู่นี่รวยยยยย จับเงินเป็นแสนเป็นล้านเลย

เพื่อนสายจดค่าใช้จ่ายทุกอย่างงงงง ละเอียดยิบ

กลางคืนก็ทำได้แค่หาร้านข้างๆ นั่งกิน เดินเล่นชิคๆ drink drank drunk ถ่ายรูป และก็กลับโรงแรมนอนเข้านอน

ชื่อร้านจำไม่ได้จริงๆ แต่อยู่ข้างโรงแรมเลย cafe เล็กๆ น่ารักๆ

ที่บอกว่าเบียร์ถูกนั้นอ่ะเรื่องจริง  สำหรับเฌอเป๊กซ์ก็ป๋องมันก็เล็กตามราคา 5555555555 หรือคิดไปเอง

ขอแชะภาพเหงาะๆ คนเหงาๆ คนงงๆบ้างในวันแรกที่แตะเวียดนาม 

กินเบียร์เสร็จ มาถึงเวียดนาม ก็ต้องกินอาหาร Local หน่อย  

Day2

ตื่นเช้ามาแนะนำให้ไปเช่าจักรยานที่โรงแรม ปั่นไปเรื่อยๆ ที่ตั้งใจคือจะปั่นไปทานอาหารเช้าที่หลักเที่ยว ร้านนี่คือดีมาก ในpantip คนขายน่ารักสุด ๆ

ระหว่างทางไปกินอาหารเช้าที่หลักเทียน บรรยาศก็จะชิลล์ๆ น่ารักๆ แบบนี้เลย ชอบมาก

ระหว่างทางก็จอดแวะ ชิม ช้อป ใช้ไปเรื่อย 555555555 ตามนโยบาย

วันที่มาคือโชคดีมาก อากาศเป็นใจให้ไปเที่ยวสุดๆ ( หรือเปล่า ) อากาศเย็นสบาย ชิลล์ๆ

เพราะฝนได้ตกไปแล้วรอบนึง หลังฝนตกคือเหมาะกับการเที่ยวปั่นจักรยานชิลล์ๆ มาก ปั่นไปเรื่อยๆ คือไม่เหนื่อยเลย

ระหว่างทางมีอะไรให้เราดูเยอะแยะมากมาย ร้านของกิน อาหารต่างๆ เพียบ

แต่ที่พีคสุดๆ คือ ร้านคาเฟ่เยอะมากๆ มีคนนั่งกันเยอะเลย แต่เสียดายที่ไม่ได้เข้าเพราะต้องรีบทำเวลา

มาถึงแล้วววววว  ร้านอาหารหลักเทียน  ที่สุดของที่สุด เอาไป10/10

มานี่กินผักเก่งมาก ร้านอาหารต้องมีผักมาคู่ตลอด

รู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาทันที  หลังจากอยู่กรุงเทพกินแต่เค้ก ขนม 5555