Banila Co Clean It Zero Cleansing Balm
Junjaowkha review
46
14
เพราะการล้างหน้าสำคัญที่สุด ? แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ ... การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราที่สุดนั่นเองค่ะทุกคน
ในปี 2019 เป็นปีที่เราได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และพุ่งจุดสนใจไปยังสิ่งที่สามารถทำความสะอาดเมคอัพได้อย่างสะอาดหมดจดโดยไม่ง้อสำลี เพื่อลดการระคายเคืองและลดโอกาสเกิดริ้วรอยให้มากที่ซู๊ดดดดดด เพราะริ้วรอยเดิมๆ มันเยอะอยู่แล้วไงล่ะ แง้ !!!! และในที่สุดเราก็เจอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์แบบสุดๆ ไปเลย นั่นก็คือ Banila Co Clean It Zero Cleansing Balm
ไปทำความรู้จักกับคุณคนนี้กันเลยคร้า
Go go !!! ?
Banila Co Clean It Zero Cleansing Balm
เรียกได้ว่าเป็น all-in-one cleanser ได้เลยค่ะ
เพราะน้องเค้าเป็นคลีนซิ่งบาล์มเนื้อเชอร์เบท ที่สามารถล้างเมคอัพติดทนนาน เมคอัพกันน้ำได้อย่างหมดจดในขั้นตอนเดียว ด้วย 3 ZERO ได้แก่
ZERO Run-down เนื้อผลิตภัณฑ์ไม่ไหลหรือละลาย
ZERO Residue ล้างคราบเมคอัพหมดจด
ZERO Dryness ผิวไม่แห้งหรือระคายเคืองเมื่อล้างออก
ดังนั้นจึงทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ พร้อมกับดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ขจัดเซลล์ผิวเก่า และช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกถึง 4 สูตร ตามความเหมาะสมของสภาพผิว หืมมมม ดีงามมมมมม ... มาทำความรู้จักแต่ละสูตรกันเลยคร้า
คำเคลมจากแบรนด์ ?
Original
สูตรต้นตำรับ
เหมาะกับทุกสภาพผิว
อะเซโรล่า เชอร์รี่ : อุดมไปด้วยวิตามินซีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพได้อย่างอ่อนโยน และช่วยให้ผิวกระจ่างใส
น้ำแร่ร้อนธรรมชาติ : ปลอบประโลมผิวให้ชุ่มชื้นและผ่อนคลาย
? มีกลิ่นอะเซโรล่า เชอร์รี่ อ่อนๆ
Nourishing
บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
เหมาะสำหรับผิวแห้งหรือกังวลเรื่องริ้วรอย
สารสกัดจากผลของโสม : ช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ช่วยบำรุงให้ผิวกระชับ ลดเรือนริ้วรอย
นมผึ้ง : ช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ลดอาการอักเสบ ช่วยเสริมปราการผิวทำให้ผิวแข็งแรง
⚱️ มีกลิ่นของผลโสมอ่อนๆ
Purifying
ปลอบประโลมผิวจากอาการระคายเคือง
เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
สมุนไพร 7 ชนิด
เช่น สารสกัดจากชาเขียวและดอกคาโมมายล์ ปลอบประโลมและทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
? ไม่มีกลิ่น
Revitalizing
ผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส พร้อมควบคุมความมัน
เหมาะสำหรับผิวมัน
เมล็ดและเปลือกขององุ่น : ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี ไร้ริ้วรอย ดูอ่อนกว่าวัย
? มีกลิ่นเมล็ดองุ่นอ่อนๆ ให้ความหอมสดชื่นผ่อนคลาย
สูตรที่เราจะทดลองใช้ให้ดูในวันนี้ คือ Purifying กระปุกสีม่วง ซึ่งเป็นขนาดจริงนะคะ
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับฝาพลาสติกเพื่อนำไปปิดกระปุกคลีนซิ่งบาล์มและที่ตักค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์แน่นและมีสีขาวละมุนเชียว
ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ?
เป็นเนื้อบาล์มสีขาว เมื่อตักขึ้นมาจะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายไอศกรีมเชอร์เบทเลยค่ะ ไม่มีกลิ่นนะคะ เนื้อนุ่ม ละมุนผิวดีเชียว
วิธีใช้ ?
Step 1 นวดเนื้อบาล์มให้ทั่วผิวหน้า รอบดวงตา และริมฝีปากอย่างเบามือ ความอุ่นของผิวจะทำให้เนื้อบาล์มละลายและดูดซับเมคอัพรวมถึงสิ่งสกปรกออกมาค่ะ .. เนื้อบาล์มเค้าเกลี่ยง่ายมากเลยทุกคน
Step 2 ในขั้นตอนนี้บางคนอาจจะล้างน้ำสะอาดเป็นอันจบเลยนะคะ แต่เราจะใช้น้ำแตะๆ และนวดต่ออีกสักพัก ... เห็นมั้ยคะว่าเค้าเปลี่ยนจากเนื้อบาล์มเป็นน้ำนมนะ และให้ความรู้สึกคล้ายๆ ว่าตัวเองเป็นขวานฟ้าหน้าดำ 5555 เมคอัพกันน้ำสุดๆ ก็ยังต้องยอม !!!!
Step 3 ล้างน้ำสะอาดก็เป็นอันจบครบถ้วนกระบวนความ
ผลลัพธ์ ?
ขอพูดแบบรวมๆ ทั้ง 4 สูตรเลยนะคะ เพราะมีความคล้ายกันมาก ต่างกันเล็กน้อยที่กลิ่นและความเด่นของแต่ละสูตร เนื้อบาล์มเกลี่ยง่ายไม่รู้สึกหนักผิวเพราะเค้ามีลักษณะเป็นเชอร์เบท สามารถนวดวนได้โดยไม่ต้องลงน้ำหนักบนผิวหน้าแรงๆ เลยค่ะ <ยกเว้นว่าไปโกรธใครมา ฮ่าๆๆๆ> สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแม้เมคอัพกันน้ำ จะติดทนแค่ไหนก็ต้องยอมน้อง Banila Co เค้าล่ะ ล้างออกด้วยน้ำเปล่าได้ง่ายมากเพราะเนื้อเค้าเมื่อโดนน้ำแล้วจะกลายเป็นน้ำนม หลังล้างหน้ารู้สึกได้เลยว่าผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันเพิ่มขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบคือในขณะที่ใช้นิ้วนวดวนบนใบหน้าจะรู้สึกว่าพวกสิวอุดตันที่แห้งแล้วมันหลุดออกมาด้วย ... ฟินมากเว่อร์
ข้อแตกต่างหลังล้างหน้าของแต่ละสูตร
เราไม่ได้รู้สึกว่าผลลัพธ์มันแต่ต่างกันมากนักมีต่างกันบ้างในเรื่องของกลิ่นและความรู้สึกหลังล้างหน้าเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะคะ เราจะขอพูดในมุมของเราและสภาพผิวแบบเราให้ฟังกันค่ะ เรารู้สึกว่าสูตร Nourishing เค้าให้ความชุ่มชื่นและรู้สึกว่าผิวนุ่มมากกว่าทุกสูตรเลย เพราะมีส่วนผสมที่โดดเด่นคือผลโสมและนมผึ้ง ส่วนสูตร Revitalizing เราชอบกลิ่นสดชื่นของเค้ามากแต่ว่าขอจบที่การใช้เพียงครั้งเดียวพอเพราะไม่แน่ใจว่าแพ้หรือเปล่านะคะ พอรู้สึกว่าผิวหน้าระคายเคืองแบบยุบยิบๆ ก็ขอไม่เสี่ยงดีกว่า เลยให้แม่ไป 5555 ปรากฏว่าแม่เราไม่แพ้และชอบมากกกกกกก
ข้อแนะนำเพิ่มเติม ?
สำหรับรอบดวงตาอาจจะต้องใช้เวลานวดๆ วนๆ นานกว่าจุดอื่นๆ หน่อยนะคะเพราะพวกเรามีขนตาที่เป็นอุปสรรค ยิ่งมีขนตาน้อยๆ เนี่ยมาสคาร่าต้องจัดเต็ม !!! หากนวดวนไม่ละเอียอดละออก็จะหลงเหลือเศษมาสคาร่าเล็กๆๆๆๆ เอาไว้ทำให้เราต้องเช็ดซ้ำอีกทีค่ะ
เข้าตาแล้วทำให้ตามัวได้น๊า ถ้าเข้าไปเยอะก็จะรู้สึกแสบตาได้เหมือนกัน แต่ตาไม่แดงนะคะเพราะเค้าอ่อนโยนในระดับนึงเลย
มันก็มีบ้างในบางอารมณ์ที่ขี้เกียจควักหรือใช้ที่ตัก ทำให้ทิ้งช่วงการใช้น้องเค้าไปบ้าง (ข้อนี้อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ 5555) ยังไงก็อยากจะแนะนำให้ใช้ที่ตักแทนการควักนะคะเพื่อลดสิ่งสกปรกที่จะปนเปื้อนเนื้อบาล์มค่ะ
ควรเช็ดมือให้แห้งก่อนใช้ ก่อนควัก ก่อนตัก เพราะอย่าลืมว่าเมื่อเค้าเจอน้ำแล้วจะเปลี่ยนจากเนื้อบาล์มเป็นน้ำนมน๊า ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของการทำความสะอาดลดลงนั่นเองค่ะ
หากรู้สึกว่าผิวระคายเคือง หรือสงสัยว่าแพ้ควรหยุดใช้นะคะ
เพื่อความชัวร์เราจะ Double cleansing เสมอนะคะ นั่นก็คือการใช้คลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้า ล้างซ้ำอีก 1 ครั้งค่ะ
ติ๊กต่อกๆๆๆๆ ⏰ ที่ใช้อยู่ในตอนนี้ก็ใกล้จะหมดล้าวววววววววว สูตรต่อไปที่เราคิดไว้ในใจในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นสูตร Nourishing ค่ะเพราะด้วยสภาพอากาศที่เย็นมากขึ้น ความชื้นลดลง และที่สำคัญคือความเหี่ยวของผิวไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นในทุกๆวัน (ยิ่งพูดยิ่งช้ำ 5555) ก็ต้องเน้นความชุ่มชื่นให้ผิวกันซะหน่อย แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ ??? คิดเอาไว้หรือยังว่าจะลองสูตรไหนดี ?
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม
แล้วพบกันใหม่นะคะ
บ๊ายบาย