CHURCH OF THE LIGHT(OSAKA) : พาเที่ยวโบสถ์แห่งแสง ของTADAO ANDO
babyyale
14 ก.พ. 63
44
11
สวัสดีค่ะ babyyale มาแล้วค่า วันนี้จะมาแนะนำสถานที่นึง ที่เราชอบมากๆและอยากจะไปให้ได้มานานแล้ว ด้วยความที่เราชอบสถาปนิกที่สร้างผลงานนี้ขึ้นมา เราถือเป็นแฟนผลงานของคุณทาดาโอะ อันโด(TADAO ANDO) แล้วโบสถ์แห่งแสง (Church of the Light) ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซของเค้าเลยทริปญี่ปุ่นล่าสุดเป็นทริปโซโล่ครั้งแรกของเรา ที่เราตั้งใจและวางแผนข้ามปีเลยเพื่อมาที่นี่ให้ได้ เลยอยากมาแชร์ให้ทุกคนกันค่ะ!!
มุมไอคอนิคถ้าเสิร์ชในเนตก็เจอเลย แต่รูปนี้เราถ่ายเอง!!!
ขอเล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับข้อมูลของโบสถ์ก่อนน้า ที่ตั้ง : อิบารากิ,โอซาก้า สร้างเมื่อ : คศ.1989 สถาปนิก : ทาดาโอะ อันโด โบสถ์สไตล์มินิมอลที่สร้างภายใต้งบที่จำกัด ในปี 1989 อายุกว่าสามสิบปี ที่กลายเป็นสถานที่ที่คนทั่วโลกต่างแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม การเจาะช่องคอนกรีตเป็นรูปไม้กางเขนกับดีไซน์กล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เรียบง่าย ดึงดูดผู้คนให้มาเห็นด้วยตาตัวเอง หนึ่งในนั้นคือเราด้วยแหละ เราออกตัวก่อนน้าว่าไม่ได้เรียนสถาปัตย์มาหรือทำงานด้านนี้ แต่เราชอบงานของคุณทาดาโอะ เพราะความเรียบง่ายและความรู้สึกถึงการมีชีวิตในผลงานของเค้า ที่ทำให้เรารู้สึกได้ทั้งแสง น้ำ ลม ดิน(คอนกรีต) ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งในผลงานของเค้าเสมอ วัสดุหลักที่เค้าใช้ในงานส่วนใหญ่เป็นคอนกรีต รูปทรงเลขาคณิต งานของเค้าทำให้เรารู้สึกและชอบก่อนที่จะรู้ว่าเค้าเป็นคนออกแบบด้วยซ้ำ(เราเคยถ่ายรูป ร่องน้ำที่ไหลผ่านตรงโอโมโตะซานโด ฮิลล์เพราะชอบดีไซน์มากแล้วมารู้ทีหลังว่าเค้าออกแบบ หูยหลังจากนั้นตามผลงานเค้ารัวๆเลย555+
อันนี้คือแปลนของตัวโบสถ์
ก่อนเราจะไปต้องวางแผน วางแพลนดีๆนะ เพราะโบสถ์เค้าให้เข้าแค่วันอาทิตย์(อาจเป็นวันเสาร์บางที) ดังนั้นเค้าเปิดให้เข้าชมเดือนนึง 3-5 วัน และต้องทำการกรอกแบบฟอร์มในการจองล่วงหน้า เค้ามีให้จองล่วงหน้า 3 เดือน(ซึ่งจะเต็มเร็วมากจะจองล่วงหน้า 1 เดือนนี่ไม่ทันนะ เต็มหมดแล้ว) แปะลิ้งค์รายละเอียดไปเชควันและจอง : https://ibaraki-kasugaoka-church.jp/e-forvisitors.html *** ช่วงนี้ปิดการจองเพราะไวรัสโคโรน่าค่ะ การเดินทาง : เนื่องจากเมืองอิบารากิไม่ไกลจากโอซาก้า ขึ้นรถไฟสายที่ไปเกียวโต(๋JR Kyoto Line)จอดสถานีอิบารากิหมด Osaka Station >>>>>Ibaraki Station ถึงสถานีแล้วเดินข้ามสะพานมาที่ป้ายรถบัส Kintetsu Bus สาย 1 หรือ 2 ลงที่ป้าย Kasugaokakouen (Kasugao Park) ลงบัสแล้วเดินเลี้ยวซ้ายมาตามถนน เจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย เดินอีกนิดก็เจอเลย
อันนี้ขอเล่าความรู้สึกและความคาดหวังของเรากับโบสถ์ก่อนนะ ก่อนไป - จากที่เห็นรูปกางเขนที่มีแสงส่องผ่านช่องว่างมา ผ่านตาจากรูปในเน็ตกับ pinterest มาในหัวนี่แบบรู้สึกว่าเป็นโบสถ์ที่โมเดิร์นมากๆ ด้วยที่เป็นโบสถ์ประจำชุมชน ความเป็นมินิมอลนี่จะเข้ากันมั้ย ไปตั้งแปลกๆอยู่กลางชุมชนรึเปล่า และอีกอย่างนึงคืออยากเห็นว่าอะไรอยู่ข้างหลังกล้องที่มีแต่รูปมุมไอคอนิคเยอะๆเนี่ย ข้างหลังมีอะไรหรอ? (และระหว่างนั้นจะนึกถึงว่าตัวเองอยู่ในโบสถ์ มีเพลงประกอบอยู่ในหัวตลอด แบบดนตรีวงใหญ่อย่างอีพิคเล้ย อันนี้ดูหนังมากไป555+) หลังไป - แบบเข้าใจเลยว่าทำไมเป็นมาสเตอร์พีซที่คนทั่วโลกหลั่งไหลมาชมโบสถ์ชุมชนเล็กๆ ในเมืองอิบารากินี้ อย่างแรกเลยเนี่ยตัวโบสถ์ไม่ได้โดดเด้งออกมาจากสภาพแวดล้อมหรือชุมชนเลย ตั้งอยู่อย่างกลมกลืนและถ่อมตัวด้วยซ้ำ (อย่างที่ตัวโบสถ์ชุมชนจะเป็นได้ คือเค้าก็ตั้งอยู่เพื่อการนี้อ่ะ) เราไปหลังจากเค้ากิจกรรมกันนะ ก็จะมีสตาฟของโบสถ์กับผู้เยี่ยมชมเท่านั้น (เวลาที่ให้เข้าชม 13.30-16.00น.)
หลังจากไปที่ได้ไปโบสถ์แห่งแสงในที่สุด คนที่มาชมส่วนใหญ่จะเป็นสถาปนิกกัน มีทั้งต่างชาติและคนญี่ปุ่น ไปถึงคนมีเยอะประมาณนึงนะ วนเวียนมาเรื่อยๆ (แต่จำกัดเท่าที่จองมาเท่านั้น) แต่ไม่วุ่นวายไม่เสียงดังและเราก็ได้รู้อีกอย่างว่าหลังรูปถ่ายช่องแสงรูปไม้กางเขนนี้ ข้างหลังก็มีคนเป็นสิบกำลังถ่ายมุมเดียวกันกับเรา ฮา ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกมากและดีใจที่ตัวเองตัดสินใจมา การไปเที่ยวคนเดียวนี่บางทีต้องตื่นตัว กังวล แต่บางทีก็สงบดีเที่ยวตามใจตัวเอง อยากไปไหนไป อยากหยุดแวะที่ไหนก็แวะ อยู่กับตัวเอง คราวหลังจะพยายามไม่แพลนเยอะๆล่ะเดินทางเลย!!!
มีคนอยู่นะ ตอนแรกคิดว่าจะมานั่งหว่องนิ่งๆ สักพักแต่ไม่เป็นไรดีกว่า 555+
แถมอีกนิดถ้ามีแพลนไปเกียวโต ไม่ต้องแพลนมากถ้าอยากไปก็แวะได้คือ Garden of Fine Art KYOTO เป็นผลงานของคุณทาดาโอะเหมือนกัน เราไปตอนเค้ามีตลาดป๊อบอัพพอดี เลยเข้าฟรี!!(ค่าเข้า 100 เยน) ขึ้นรถไฟ Karasuma Line Local ลงสถานี Kitayama Station ออกจากสถานีมาอยู่ด้านขวามือถัดมาเลย
จบแล้วค่า ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นะคะ หวังว่าจะชอบกัน วันนี้ไปแล้ว ฺBye bye and Happy Valentine's day LOVE
