✨คืนผิวใส ไร้จุดด่างดำ ลดความเข้มฝ้า กระ ที่อยากให้ลอง กับClinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter สูตรใหม่!

     ในสภาวะปัจจุบันที่นอกจากเราต้องเจอปัญหาเรื่องฝุ่นแล้ว ?ปัจจัยของแสงแดดก็เป็นสิ่งเร้าให้ผิวหน้าเราเกิด กระ ฝ้า และผิวหมองคล้ำตามมาได้ ดังนั้นหลายคนก็มักจะต้องหาตัวช่วยกู้ผิวซึ่งแบรนด์ที่หลายๆคนนึกถึงก็จะมีตัวนี้อยู่ในลิสท์ด้วยนั่นก็คือ แบรนด์ Clinique 

ถ้าพูดถึงแบรนด์ Clinique ในกลุ่ม Even Better?ก็เห็นจะมีมายาวนานมาก กลุ่มนี้จะเน้นเรื่องของผิวความกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ตัวเอกของเราก็คือ Clinique Even Better Dark Spot ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วยเป็น Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter  เปลี่ยนชื่อยังไม่พอออกแบบผลิตภัณฑ์อีกใหม่ด้วย ตัวนี้มีการพัฒนาจากสูตรเดิมให้มีประสิทธิภาพและดีขึ้นกว่าเดิม โดยเพิ่มความเข้มข้นถึง 2 เท่า แถมยังเป็นสูตรที่ถูกพัฒนาให้ดีที่สุดในรอบ 10 ปี ของCliniqueอีกด้วย 

•Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter  

(30ml. / 2,850.- ~ 50ml. / 4,100.-)

:เซรั่มเข้มข้นสูตรใหม่ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจากตัวเก่า ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่ดูแลจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอเท่านั้น เพราะสูตรใหม่นี้ก็มี Interrupter เป็นการเพิ่มส่วนผสมที่สามารถรับมือและช่วยยับยั้งการเกิดของจุดด่างดำและความหมองคล้ำที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย (เป็นการปกป้องล่วงหน้า) สูตรใหม่ยังมีไวท์เทนนิ่งเข้มข้นกว่าสูตรเดิมด้วย ปรับปรุงอัดแน่นมาดีขนาดนี้ 

มาดูกันครับว่าเค้าใส่อะไรมาบ้าง
สูตรใหม่จะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ CL-302 Equalizer Technology โดยมี 2 ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่

1.CL-302 Complex
-เทคโนโลยีที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ให้รอยสิวแลดูจางลง และปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใส พร้อมเสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอขึ้น ด้วยสูตรที่เข้มข้นขึ้นจากสูตรเดิม โดยมี UP302 เพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นส่วนผสมตัวนี้เป็นส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น โดยมี กลูโคซามีน (Glucosamine) ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก, แอสคอร์บิล กลูโคไซด์(Ascorbyl Glucoside) ลดเลือนการเกิดจุดด่างดำ, สารสกัดยีสต์ (Yeast Extract) ทำให้จุดด่างดำจางลง และกรดซาลิซีลิค (Salicylic Acid)ทำหน้าที่ผลัดผิวชั้นนอก ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอ

2.Interrupter Complex
-ช่วยยับยั้งจุดด่างดำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ให้ผิวแลดูสุขภาพดี ด้วยส่วนผสมทางพฤกษศาสตร์ อย่าง Gyokuro Extract สารสกัดชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีพิถีพิถัน สารสกัดรากมัลเบอร์รี่ (Mulberry Root Extract), สารสกัดจากรำข้าว(Rice Bran Extract), ไดโพแทสเซียม ไกลซิริเซท (Dipotassium Glycyrrhizate) รวมถึงยังมีสารสกัดจากผลมะกอก บาร์เลย์ และจมูกข้าวสาลี ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวอีกด้วย

     เนื้อเซรั่มมีสีขาวขุ่นๆ เซรั่มพอทาลงผิว ลื่นเกลี่ยง่ายกว่ารุ่นแรกนิดนึง ลูบไปสักพักจะเริ่มซึมลงผิวทิ้งความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าได้ดีเลย

ถึงแม้จะไม่มีน้ำหอมแต่มันก็มีกลิ่นเฉพาะของมัน ผมดมแล้วชอบรุ่นใหม่คือกลิ่นมันนุ่มละมุนกว่ากลิ่นไม่แรงเท่ารุ่นเก่า

ในส่วนของตัวบรรจุภัณฑ์นั้น เอาจริงๆสะดุดตากับบรรจุภัณฑ์มากนะ สวยเด่นดูหรูหราขึ้นเพราะออกแบบใหม่หมดเลย แม้กระทั่งหัวปั๊มจากเดิมมี2หัว ก็กลายเป็นหัวปั๊มเดี่ยว ถ้าใครที่เคยใช้รุ่นเก่ามาก็จะรู้ว่ากดไม่ค่อยสะดวก แต่ตัวใหม่นี้แก้มาหมดแล้วใช้งานสะดวกกดง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แถมขวดเหลือบรุ้งๆสวยด้วยนะ ?

ส่วนตัวเก่า

•Clinique Even Better Clinical Dark Spot Corrector & Optimizer *สูตรเก่า

(50ml. / 3,900.-)

-ขวดนี้กดเซรั่มออกมาจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนสีขาวจะช่วยลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และส่วนสีเขียวจะเป็นตัวที่ช่วยปลอบประโลม ป้องกันอาการแพ้

สรุป:

ปกติรุ่นเดิมสำหรับผมก็ใช้ดีอยู่แล้วนะ และซื้อตุนไว้หลายขวด แต่พอเป็นรุ่นใหม่ที่ทำดีตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ไปจนถึงการปรับสูตร ใส่สิ่งใหม่ๆลงไปทำให้ผมแฮปปี้มากๆกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ปกติเวลามีสิวก็จะทิ้งรอยดำไว้ ตัวนี้ช่วยลดรอยดำจากสิวอักเสบได้ดี ส่วนกระ,ฝ้า ก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้วแต่ทาตัวนี้เพื่อป้องกันการเกิดในอนาคตได้ รวมถึงชอบความชุ่มชื้นหลังทาเพราะเป็นเนื้อเซรั่ม และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าจะเข้าถึงหลายๆคนได้ไม่ยากเช่นกันครับ?