ผิวขาวอมชมพูได้ด้วย Clinique iD Tone-up Gel

65 17
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!

สวัสดีค่ะชาวจีบันทุกคน

วันนี้เราจะมารีวิว Clinique iD ตัวใหม่ที่เราได้มาจากการที่ไปร่วมกิจกรรม JebanxClinique ซึ่งมีชื่อเต็มว่า

Clinique iD Dramatically Different™ Moisturizing Tone-up Gel

หลังจากที่พยายามทดลองใช้อยู่หลายครั้งหลายครา จนค้นพบวิธีการใช้ที่เหมาะสมกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้เราได้มีการแนะนำตัวผลิตภัณฑ์

Clinique iD Dramatically Different™ Moisturizing Tone-up Gel 

กันไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้ สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่ Clinique iD Tone-up Gel ผิวเปล่งประกายพร้อมได้รับการบำรุง กันเลยนะคะ

ภายในเซตประกอบด้วย

Moisturizer Tone-up Gel 115ml ราคา 1,400 บาท และ Active Cartridge Concentrate 10ml ราคา 500 บาท

วิธีใช้ ขั้นตอนที่ 1

ให้จับคู่  Dramatically Different™ Moisturizing Tone-up Ge ตัวนี้เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท ไม่มีพาราเบน ไม่มีพาทาเลต ไม่มีน้ำหอม เนื้อโทนอัพสีชมพูสดใสที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และให้ความชุ่มชื้นได้ดีแก่ผิว 

วิธีใช้ ขั้นตอนที่ 2

ใส่หลอดบรรจุภัณฑ์สารสำคัญเข้มข้น (Active Cartridge Concentrate) หรือบูสเตอร์ลงในบรรจุภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ที่เราเลือก เพื่อสร้างสรรค์ Clinique iD ใน แบบของตัวเองได้เลยค่ะ 
เราเลือกบูสเตอร์สีขาว (Uneven Skin Tone) สำหรับสีผิวดูไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ สว่างกระจ่างใส ไร้จุดด่างดำ มาใช้คู่กับ Dramatically Different™ Moisturizing Tone-up Geค่ะ

เวลาที่กดออกมาใช้จะมีสัดส่วนของตัวเบส 90% ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น และบูสเตอร์ 10% ช่วยเสริมการบำรุงที่ตอบโจทย์ปัญหาของผิวแต่ละคน

คุณสมบัติ

Tone-up ตัวนี้จะช่วยเพิ่มพลังความแข็งแรง และเสริมสร้างปราการให้ผิว สามารถเลือกใช้คู่กับบูสเตอร์เพื่อเสริมการบำรุงอย่างมีประสิทธิภาพ สูตรใหม่เนื้อครีมสีชมพูใน Clinique iD Tone-up Gel นี้ จะยกระดับการบำรุงไปอีกขั้น มอบความเปล่งประกายให้ใบหน้าด้วยเทคโนโลยี Transforming Tint Release ที่อยู่ในพิกเม้นต์แคปซูล ซึ่งจะเปลี่ยนจากตัวที่เป็นเม็ด แตกออกเวลาที่อยู่บนหน้าเรา ช่วยกระจายแสงให้ใบหน้าแลดูไบรท์ขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป ช่วยให้ผิวเปล่งประกายทันทีที่ใช้ โดยไม่ทำให้หน้าลอย

เทคโนโลยี Transforming Tint Release ที่อยู่ในพิกเม้นต์แคปซูล ซึ่งจะเปลี่ยนจากตัวที่เป็นเม็ด แตกออกเวลาที่อยู่บนหน้าเรา ช่วยกระจายแสงให้ใบหน้าแลดูไบรท์ขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป ช่วยให้ผิวเปล่งประกายทันทีที่ใช้ โดยไม่ทำให้หน้าลอย

ลองทา Tone-up ที่ท้องแขนเปรียบเทียบให้ดู จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนในเรื่องของการปรับโทนผิวให้สว่างมากขึ้น เหมือนที่เค้าบอกว่าเปิดไฟให้ผิว แบบนั้นเลยค่ะ 


***แสงตอนที่ถ่ายอาจมีส่วนทำให้สีของแขนทั้งสองข้างแตกต่างกันชัดเจน

ปัญหาที่พบในช่วงแรก

อย่างที่บอกไปตอนต้นนะคะว่าเราพยายามทดลองใช้หลายครั้งมากๆ เพราะทุกครั้งที่ใช้ Tone-up หลังจากที่ลงเซรั่ม หน้าเราเป็นคราบทุกครั้ง ยิ่งพอลงครีมกันแดดหรือรองพื้น ยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ ทำเราจิตตกและไม่อยากใช้อีกเลย

โดยปรกติทุกวัน เราเป็นคนที่ทาสกินแคร์ในช่วงกลางวันประมาณ 4 ตัว เราก็ปรับลดการทาสกินแคร์ลงมาจนเหลือ 3 ตัว ก็ยังเป็นคราบ ปรับลดลงอีกให้เหลือ 2 ตัวก็ยังไม่ได้ผล จนสุดท้ายเราใช้แค่น้ำตบตัวเดียวแล้วตามด้วย Tone-up นั่นแหละค่ะ ถึงจะเห็นผล

ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะตัวเองหน้ามัน จึงทำให้ทาออกมาแล้วเป็นคราบ แต่จริงๆ แล้วน่าจะเป็นเพราะเนื้อเซรั่มอาจจะหนักไป จึงทำให้ทา Tone-up แล้วแยกชั้นออกมา

**ปัญหาดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น คนอื่นอาจจะไม่เป็นก็ได้นะคะ
หลังจากที่ค้นพบวิธีใช้ Tone-up ที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย คิดว่าจะไม่ได้ทำรีวิวซะแล้ววว คราวนี้มาดูความแตกต่างตอนลงที่ผิวหน้ากันบ้างนะคะ

ก่อนทาจะเห็นรูขุมขนชัดเจนเวอร์ รอยแผลเป็นก็มา ร่องรอยที่บ่งบอกอายุก็มา ทุกอย่างชัดเจนหมด ^_^ แต่พอทา Tone-up Gel ลงไปเท่านั้นแหละค่ะ ทุกอย่างมันดูเบลอไปหมด รูขุมขนดูเล็กลง เห็นรอยแผลเป็นน้อยลง ริ้วรอยก็ดูจะเบลอๆ ไปด้วย นี่ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปมาเปรียบเทียบ ก็ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรมากมายนะคะ เพราะมันเห็นเรื่องหน้าขาวขึ้นชัดเจนมากกว่า
มาซูมดูใกล้ๆ กันบ้าง จะได้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่า Tone-up Gel ตัวนี้ก็ช่วยปกปิดความบกพร่องของผิวหน้าได้โอเคเหมือนกันนะ ผิวดูผ่อง ดูสว่างขึ้น อาจจะไม่เท่ากับรองพื้น แต่ถ้าใครที่ชอบความเบาสบาย แต่งหน้าใสๆ ก็แค่ทากันแดด แล้วลงแป้งบางๆ ก็ได้ผิวแบบธรรมชาติ ที่ไม่เน้นการปกปิด แต่หน้าจะดูผ่องเหมือนสาวสุขภาพดีได้เหมือนกันนะ
ทีนี้เราลองมาดูความแตกต่างหลังจากที่เราใช้ Tone-up Gel คู่กับรองพื้นดูบ้างนะคะ มันดีมากกกก เพราะนอกจากจะไม่เป็นคราบแล้ว มันยังช่วยให้ผิวหลังจากที่ลงรองพื้นดูดีมากขึ้นไปอี๊กกก เชื่อแล้วว่าเค้าทำได้จริงๆ ผิวสวยด้วย ได้รับการบำรุงไปด้วย ใครยังไม่ได้ลอง อยากให้ไปลองนะคะ อาจจะเปลี่ยนใจเหมือนเราก็ได้น๊าาา

วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ

แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ

??


Charlotte Rak

Charlotte Rak

สวัสดีค่ะ ชื่อ รัก นะคะ ปีนี้อายุ 41 ปีแล้วค่ะ สภาพผิวมัน มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ ริ้วรอยร่องลึก และรอยดำจากสิวบ้างเป็นบางช่วง

เราเป็นคนสนใจดูแลผิวหน้าอยู่ตลอดเวลา และชอบทดลองผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่เรื่อยๆ สภาพผิวตอนนี้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถึงแม้อายุจะมากขึ้น อยากแชร์และแลกเปลี่ยนเรื่องสกินแคร์กับทุกคนนะคะ

สิ่งที่คิดไว้ว่าวันนึงจะทำให้ได้ คือ การเป็นแรงบันดาลใจของผู้หญิงวัย 40 ให้หันมาใส่ใจดูแลผิวหน้า ไม่อยากให้ละเลยการดูแลตัวเอง แม้ว่าจะอายุมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม

Line: charlotterak
TikTok: @charlotterak

FULL PROFILE