[Haul+MiniReview] ลิปเนื้อชายน์ฉ่ำแบบสุขภาพดี และเบสเขียวปรับโทนผิวพร้อมสู้แดดจาก Jung Saem Mool

สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าทุกคนนน วันนี้อาจจะมาไม่ยาวมาก เพราะมาตั้งกระทู้ด้วยเอเนอร์จี้ความเห่อเบาๆ กรุบกริบ จากที่วันก่อนเห็นว่า ลิปตัวใหม่ล่าสุดของ Jung Saem Mool พึ่งวางจำหน่ายในไทยรับเคาท์เตอร์สาขาใหม่ ในฐานะทาสของป้าจองนี่ก็พุ่งตัวไปเลยยย  

และ 2 ตัวนี้คือสิ่งที่เราพกกลับบ้านมาด้วย คือ เบสเขียว Skin setting tone correcting Base 50 PA+++ และ Lip - pression shine ลิปเนื้อชายน์ฉ่ำๆ แบบสุขภาพดีที่พึ่งมาไทยแบบสดๆ ร้อนๆ

Skin setting tone correcting Base 50 PA+++ (1,100.-/40ml)

เบสเขียวปรับสีผิวให้สม่ำเสมอก่อนลงรองพื้นหรือตบคุชชั่น ที่เหมาะสำหรับรอยสิว, รอยแผล หรือรอยแดงที่เกิดจากการเลเซอร์หรือโดนแดดจัด นอกจากจะเป็นเมคอัพเบสแล้ว ยังมีกันแดด SPF 50 PA+++ ในตัว + มีส่วนประกอบจาก Hya + Mineral Complex ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นยาวนาน + Cica 3% ช่อยปลอบปละโลมผิวระคายเคือง/ถูกทำลาย + สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงผิว เหมือนเป็นมอยส์เจอร์เบสให้ในตัว

เนื้อเบสเขาจะเป็นครีมเนื้อบางเบา สีเขียวอ่อน ค่อนข้างชุ่มชื้น แต่ไม่เหนอะหนะ ลองทาแล้วไม่ได้เปลี่ยนสีผิวจนถึงขั้นเพี้ยนจากสีเนื้อกลายเป็นสีเทา ไม่ได้มีผิวแดงจากรอยแดงหรือรอยที่แสบผิวจากที่แดดถูกทำลายก็สามารถช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และมีความโกลว์เล่นแสงนิดๆ จากความชุ่มชื้นที่นางมอบให้ผิว 

-

ใครที่เป็นคนผิวผสม-ผิวมันอยากได้ผิวโกลว์เบาๆ ไม่เยิ้ม แอบคิดว่าสามารถใช้เบสตัวนี้ หรือตัวอื่นๆ รุ่นใกล้เคียงกันแต่เป็นสีอื่น+คุชชั่น Long Wear ได้เลย ผิวสวยธรรมชาติแฝงความโกลว์เบาๆ พอดีมากแบบไม่ต้องใช้มูลครีม หรือโกลว์อิ้งเบสเลย ส่วนรูปสุดท้ายลองใช้กับรองพื้นตัวอื่นที่สีเข้มกว่าผิวเราพอสมควร ก็ได้ผิวที่สวยกว่าใช้รองพื้นเดี่ยวๆ ผิวมีความผ่องมากขึ้น แต่ก็จะแน่นกว่าแบบใช้คู่คุชชั่นของป้าจอง โดยรวมเราว่าเป็นอีกตัวที่น่าสนใจนะคะ ไม่ได้มีรอยแดง/ผิวแดงก็ใช้ได้ แต่ถ้าใครมีรอยแดง/ผิวแดงก็อยากให้ลองตัวนี้ค่ะ

Lip - Pression shine (950.-)

ลิปเนื้อชุ่มชื้น ฉ่ำวาว จาก Jung Saem Mool ที่เขาว่า อัพโทนผิวสว่างใน 3 วินาที ตอนนี้เหมือนจะมีวางจำหน่ายแค่เฉพาะสาขา Terminal 21 รึเปล่าไม่มั่นใจ มีให้เลือก 6 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ Flowery, Ruddy Coral, Her Pink, Sunday Shine, Nude Petal, Go Rosy ส่วนใหญ่เป็นสีโทนแดง-ชมพูสามารถใช้ทาได้ทุกวัน ให้ฟินิชที่เหมาะกับการพกติดกระเป๋าเสริมลุคในช่วงหน้าร้อนนี้มั่กๆ 

เนื้อลิปเป็นเนื้อชายน์เพิ่มความฉ่ำให้ริมฝีปากเบาๆ แบบไม่เยิ้ม ถึงแม้ว่าเราจะใส่แมสก์บ่อยในช่วงนี้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทาลิปแมตต์อย่างเดียวนะคะ 55 ถ้าหลุดก็ทาเพิ่มได้สีเนียนสม่ำเสมอ ทาแน่นๆ ได้ ทาออมเบรย์ดือมากกกก สี Flowery นี่จะออกแนวแดงอมชมพูนิดๆ ช่วยขับผิวให้ผ่องขึ้น+ดูสดใส เด็กลงกว่าเดิม (ปล. เราทาแน่นๆ แล้วยังไม่ค่อยรอดเท่าไหร่เลยค่ะแง ต้องไปหาวิธีก่อน แต่เราทาออมเบรย์แล้วรู้สึกว่านางหลวยมากกกดูได้ที่ภาพถัดไปเลย)

.

ตอนที่เราไปเคาท์เตอร์พี่ BA เขาเล่าเรื่อง Personal Color ฉบับป้าจอง ให้เราฟังด้วย แต่เราพอจำได้แค่คร่าวๆ ง่ะแง คือ ป้าจองเหมือนเขาจะจบคณะอาร์ตมา (น่าจะฟายน์อาร์ต) แต่เป็นคนที่ชอบศาสตร์แห่งการแต่งหน้ามากๆ เขาก็เลยหาวิธีการเลือกสีเมคอัพให้เข้ากับตัวเรา แต่จะต่างจากที่อื่นหน่อยคือที่อื่นเขาจะอิงจากโทนสีผิว แบ่งเป็นฤดูบลาๆ แต่ของป้าจองจะแบ่งเป็น 3 แบบคือ คนเอเชียส่วนใหญ่ตาเข้ม+ผมเข้มจะเป็น Red Brown, Orange Brown ส่วนคนที่ผมและตาสีอ่อนจะเป็น Yellow Brown ถามว่าเกี่ยวข้องกับการเลือกสีเมคอัพยังไง คือเหมือนเขายกตัวอย่างว่า แบบเราเป็นคนตาเข้ม ผมเข้ม แต่มีประกายน้ำตาลหน่อยจะตกอยู่ที่ประมาณ Orange Brown ถ้าใช้ลิปสีส้มอาจจะดูดรอปกว่าใช้สีแดงหรือชมพู แต่ถ้าเราอยากใช้สีส้มก็สามารถทาได้แต่ถ้าปรับองค์รวมอย่าง สีผม + สีคิ้วให้อ่อนลงกว่าเดิมก็จะดีกว่า แต่แบบเสียดายจำได้ไม่หมดอ่า ;w;

ภาพนี้เป็นแสงธรรมชาติเด้อ

 จากที่กล้าๆ กลัวๆ กับสีนี้ว่า จะสีแรงจนรับบทเป็นนางฟาดไปมั้ย พอทาแบบออมเบรย์นัวๆ เบลอๆ นิดๆ สีน่ารักแบบพอดีกับใจมากกก ตอนนี้คือรักไปแน้ววว แต่ก็ยังแอบสงสัยว่า สีประมาณแบบ Nude Petal ที่แอบเล็งๆ ไว้จะเป็นยังไง อดสงสัยไม่ได้ต้องรีบหยอดกระปุกก่อน ฮี่ๆ 

งง พิมพ์ไปพิมพ์มายังเป็นมินิรีวิวอยู่มั้ย 555 ใครสนใจก็ไปลองไปปาดเล่นดูน้า วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาคนน้อยมาก (มากจนแอบตกใจ) ไม่ต้องกลัวแออัดเลย แอบสงสารร้านค้าในห้างเหมือนกัน ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3