รีวิวหลังใช้ 14 วัน sulwhasoo bloomstay

กลับมารีวิวตามสัญญาแล้วค่าาาาา

กับเซ็ตบำรุงผิวจาก Sulwhasoo ที่ลินได้ไปร่วมงานมาในครั้งก่อน ต่อจากกระทู้นี้ค่ะ

เป็นที่ทราบกันดีจากกระทู้ที่ผ่านมา ว่าผลิตภัณฑ์ไลน์ bloomstay เค้าช่วยในเรื่องปกป้องผิวจากมลภาวะ มีสารสกัดหลักๆมากจากดอกพลัมที่เป็นดอกตูมก่อนผลิบาน ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากกกก ที่จะช่วยเป็นเกราะปราการให้กับผิวเราแข็งแรงและพร้อมสู้รบกับอากาศที่แสนแย่ในช่วงนี้

ลินอายุ 28 ปี ผิวแห้ง แพ้ง่าย เป็นสิวง่ายค่ะ หากบำรุงไม่ดีพอ ผิวจะเหี่ยวและโทรมง่ายมากจ้า

ก่อนจะไปดูผล เรามาฟังความรู้สึกหลังใช้จริงของลินที่มีต่อผลิตภัณฑ์แต่ละตัวกันก่อนนะค้าา

      First care serum เป็นพรีเซรั่มที่ใช้ลงก่อนเป็นขั้นตอนแรกค่ะ ตัวนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ผิวรับสารบำรุงจากสกินแคร์ชิ้นต่อไปได้ดียิ่งขึ้น และช่วยปรับสมดุลผิวของเราค่ะ เค้าจะเป็นเซรั่มใส สีเหลืองๆ เนื้อบางเบามากๆค่ะ พอลูบแล้วให้ความรู้สึกเหมือนน้ำๆ สบายผิว ซึมไว และรู้สึกได้ว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นขึ้นทันทีหลังทา กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลายดีค่ะ

    Bloomstay water น้ำตบที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นไปอีกสเต็ป เป็นน้ำใสๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัวนี้ชอบมากค่ะ ตบแล้วผิวชุ่มชื่นขึ้นมากๆ สบายผิวสุดๆเลยค่ะ

     Bloomstay serum  มากันที่นางเอกของวันนี้กันค่ะ ซึ่งตัวนี้เค้าเป็นเซรั่มเนื้อเข้มข้นเลยค่ะ ซึ่งเนื้อเค้าจะเป็นใสๆยืดๆ อารมณ์คล้ายกับว่านหางจระเข้สดประมาณนั้นเลยค่ะ เผื่อใครจินตการตามไม่ออก อิอิ สำหรับลินตัวนี้หลังทาไปเค้าให้ความชุ่มชื่นสูง แต่แอบหนักผิวค่ะ เหมือนเค้าเคลือบผิวเราไว้อีกที อาจจะเป็นส่วนช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ แต่ลินค่อนข้างไม่สบายผิว แต่ก็ไม่ถึงกับรู้สึกแย่ค่ะ กลิ่นหอมละมุนอ่อนๆ ชอบกลิ่นค่ะ ผ่อนคลายมาก

     Bloomstay cream มากันที่ตัวสุดท้ายของขั้นตอนบำรุง ตัวนี้เป็นครีมสีขาวที่เปิดออกมามองด้วยตานั้นข้นมากทีเดียว กลับหัวแบบไอศครีมก็ไม่มีหยดย้อน หรือว่าไหลไปตามแรงโน้มถ่วงโลกเลยจั๊กกะนิด แต่พอควักขึ้นมาเท่านั้นล่ะ อุ๊แม่เจ้า!! นางเนื้อดี เนื้อเบามากเว่อร์ อารมณ์เหมือนเนื้อพุดดิ้งค่ะ แต้มนิดเดียวทาได้ทั่วหน้า ซึมไว หอมมมมม ยกให้เป็นครีมเนื้อดีตัวนึงเลยจ้า

มาดูผลลัพท์ที่ได้กันค่ะ

    ผลการใช้ 14 วันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ ลินได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่ 7 วันค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศแย่มากกกก มากถึงมากที่สุด ถึงขั้นติดอันดับเมืองที่มีค่าฝุ่นมลพิษสูงที่สุดในโลก!! ย้ำ!! ในโลก!! ชนิดที่ว่าเพลงที่ร้องว่า “ แหงนขึ้นไปบนฟ้า เห็นแต่หมอกขาว ไม่รู้ว่าหมอกอะไรทั้งที่ไม่ใช่หน้าหนาว ผ่ามมมม!!”  ลอยเข้ามาในหัวตลอดเวลาเลยค่ะ 5555+ มันช่างเหมาะเจาะเสียจริงกับผลิตภัณฑ์ชุดนี้  ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผิวลินช่วงวันที่ 1-7 นั้นดีขึ้นตามลำดับ แต่วันที่ 14 นั้นมีรอยแผลสิวอยู่หลายจุด ก็เพราะว่าในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น สิวผด สิวอุดตัน ก็พร้อมใจกันขึ้น จนลินสงสัยว่าฉันแพ้ผลิตภัณฑ์ หรืออากาศกันนะ? กลับมาถึงบ้านส่องกระจก อดใจไม่ไหวที่จะกดจะแกะ นั่นแหละค่ะ แผลที่เห็นคือรอยจากการกดสิวของลินเอง แฮร่^^ แต่ถ้าข้ามเรื่องของสิวที่เกิดขึ้น ก็จะเห็นได้ว่าผิวมีความชุ่มชื่น อิ่มน้ำมากขึ้น แต่ผิวแอบคล้ำลงนิดหน่อยค่ะ เพราะตากแดดที่เหมือนซ้อมตกนรกอยู่ตลอดเวลา ฮึบๆกลับมาบ้านต้องกู้ผิวด่วนค่ะ

         สภาพอากาศช่วงที่ลินไป ภาพนี้ถ่ายก่อนวันกลับที่วัดพระธาตุดอยคำ ที่เห็นขาวๆนั่น ใช่ค่ะ! นั่นคือ ฝุ่น!!!!  ถ่ายตอนบ่ายโมง ขนาดเมื่อวานฝนตกไปแล้วนะคะ ยังหนาตาขนาดนี้ มองด้วยตาเปล่าชัดกว่านี้มากค่ะ ถึงจะมีผดขึ้น แต่ฝุ่นขนาดนี้ ช่วยปกป้องไม่ให้ผิวพังไปมากกว่านี้ ก็ขอบคุณมากแล้วจ้าาาา 

    Snowise brightening mask ตัวนี้เป็นมาส์กสครับค่ะ ชอบที่สุดในโลกาาาา เนื้อสครับเป็นน้ำผึ้งที่ผสมด้วยเนื้อโสมขาว ขัดแล้วไม่เจ็บ ไม่บาดผิวเลย นวดๆวนๆ กลิ่นโสม หอมมมมม ฟิน!! แล้วพอกทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก จับหน้าแล้วมันนุ่ม เนียน แลดูสะอาดมากๆค่ะ เลิฟฟฟ

จะเห็นได้ว่าก่อนสครับ หน้าผากลินลอกเป็นขุยขาวๆ เต็มไปหมด พอสครับเสร็จ ขุยๆหายไปเลยค่ะ ผิวกระจ่างใส นุ่มชุ่มชื่น

นี่ก็เป็นผลการทดลองใช้ของลินนะคะ ส่วนเรื่องอุดตันจากผลิตภัณฑ์หรืออากาศนั้น ลินต้องขอใช้ต่ออีกสักพักแล้วจะมาอัพเดทในกระทู้นี้นะคะ^^