สวัสดีค่ะทุกคน ถึงเวลาที่เราจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่เราได้มาจากงาน Jeban x Institut Esthederm ได้นานมากแล้วแต่เพิ่งจะมีโอกาสได้มารีวิว ด้วยความที่การรีวิวสกินแคร์ของเราต้องมีการใช้อย่างน้อย 1 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ ทุกอย่างเลยใช้เวลา ยอมรับว่าเพิ่งได้แกะมาลองใช้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ค่ะ แต่ก็ตั้งใจที่จะมารีวิวบอกต่อและป้ายยาเพื่อนๆ 

ถ้าพูดกันถึงแบรนด์นี้คนน่าจะยังไม่รู้จักเท่าไหร่ คนน่าจะรู้จักอีกแบรนด์ในเครือเดียวกันซึ่งก็คือ Bioderma ซึ่งเป็นแบรนด์มาจากประเทศฝรั่งเศส แบรนด์นี้จะเน้นเรื่องการเติมน้ำให้ผิวและการดูแลเรื่องริ้วรอยต่างๆ ของคนที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น ถามว่าอายุน้อยกว่า 30 ใช้ได้มั้ย ก็ใช้ได้ค่ะ การดูแลก่อนที่จะเกิดย่อมดีกว่ามีแล้วมารักษาทีหลัง

มาดูกันค่ะว่าสิ่งที่เราได้มามีอะไรบ้าง

1. Institut Esthederm L’Osmoclean Gentle Deep Pore Cleanser 75 ml.

2. Institut Esthederm  L’Osmoclean Lightening Buffing Mask 75 ml.

3. Institut Esthederm Cellular Water Mist 100 ml.

4. Institut Esthederm Cellular Water Melting Moisturising Cream 50 ml.

5. Institut Esthederm Intensive Hyaluronic Cream 50 ml.

Institut Esthederm L’Osmoclean Gentle Deep Pore Cleanser

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน แต่สามารถทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนผิวอย่างหมดจดลึกถึงรูขุมขน ช่วยดูแลสมดุลของแบคทีเรียบนผิวหน้า พร้อมทั้งช่วยบำรุงผิวไปในตัวเพราะมีสาร Anti-Oxidant และช่วยเติมพลังงานให้ผิว

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมเข้มข้นสีขาว มีความคล้ายเนื้อมูส หอมมาก กลิ่นแอบคล้ายมะลิ เราเลยชอบมาก

วิธีใช้ : แต้มลง 2 จุดทีหน้าผาก , แก้ม ,จมูก ,คางและคอ (บนผิวหน้าที่แห้งและสะอาด) นวดเป็นวงกลมกระจายให้ทั่วใบหน้าและลำคอ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ความรู้สึกหลังใช้ : เราชอบตัวนี้มากนะ เรารู้สึกว่าการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าก็สะอาดในระดับหนึ่ง แต่พอได้ใช้ตัวนี้ด้วย รู้สึกว่าล้างหน้าได้สะอาดมากๆเลย ใช้แล้วไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึง และช่วยลดความมันบนใบหน้าด้วย หน้าเรามันน้อยลง 

ราคา 1,200 บาท (75 ml.)

Institut Esthederm   L’Osmoclean Lightening Buffing Mask

GRAIN-FREE Exfoliator มาสก์สูตรพิเศษที่จะกลายเป็นสครับไร้เม็ดบีด ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสโดยการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยนและบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีสารAnti-Oxidant และยังช่วยดูแลสมดุลของแบคทีเรียบนผิว

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ตัวนี้เราดูว่าเป็นเนื้อครีมสีครีม เนื้อครีมมีความหนืด มีกลิ่นอ่อนๆ

วิธีใช้ : แตะผลิตภัณฑ์ที่ด้านในของหน้าแล้วลากออก แล้วเริ่มจากที่คางขึ้นไปจนถึงหน้าผากแล้วลงมาที่ลำคอ ทิ้งไว้ 1-2 นาที ผลิตภัณฑ์จะแห้งให้ใช้มือที่แห้งลูบออกทั่วหน้าและคอ ส่วนที่เหลือก็ใช้น้ำล้างออกจนสะอาด ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกว่าใช้แล้วหน้านุ่มดี แต่ด้วยความที่เราเป็นคนหน้าแดงง่ายมาก พอใช้อันนี้เสร็จหน้าเราแดงชัดเจนมาก ไม่ได้แพ้ไม่ได้รู้สึกระคายเคืองอะไร แต่เกิดจากการลูบหน้าเอาผลิตภัณฑ์ตอนที่แห้งออก   คือถ้าตัดเรื่องหน้าแดงไปเราก็ชอบมาก เราใช้สลับกับตัวแรก ไม่ใช้วันเดียวกัน และเราใช้แค่อาทิตย์ละครั้ง 

ราคา 1,200 บาท (75 ml.)

พื้นฐานของการดูแลผิวให้ความอ่อนเยาว์อยู่กับเราต่อไปนั้น คือ การรักษาความชุ่มชื้นและดูแลเซลล์ผิวให้ทำงานได้ตามปกติ ผลิตภัณฑ์เอสเธอเดิร์มมีสิทธิบัตรเซลลูลาร์ วอเตอร์ เป็นสิทธิบัตรพื้นฐาน ทำให้น้ำในผลิตภัณฑ์เอสเธอเดิร์มมีความคล้ายคลึงกับน้ำตามธรรมชาติในผิวจึงช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ผิวที่อ่อนล้า รวมถึงมีสารแอนตี้ออกซิเเดนซ์ ช่วยต่อต้านความโรยราของผิวอีกด้วย 

Institut Esthederm Cellular Water Mist

เป็นมิสต์ที่มีความคล้ายกับน้ำในสภาพแวดล้อมของผิว สามารถเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และมีสาร Anti-Oxidant ที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์   หลักๆก็คือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเพื่อให้ริ้วรอยต่างๆดูลดเลือนลง

วิธีใช้ : สามารถสเปรย์หลังล้างหน้าเสร็จก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่น แต่ควรหลังจากโทนเนอร์นะคะ ใช้เป็นSetting Spray หรือสเปรย์ระหว่างวันเพื่อให้รู้สึกสดชื่นก็ได้ ถ้าถามตัวเราใช้แค่ 2 วิธีคือเสปรย์ก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นและสเปรย์ระหว่างวัน

ความรู้สึกหลังใช้ : สเปรย์แรงกำลังดีและกระจายตัวได้ดีมาก บางวันที่เราขี้เกียจลงสกินแคร์ตัวอื่นเพราะอากาศร้อนมากตอนกลางวัน เราก็จะใช้เสปรย์ตัวนี้อย่างเดียว สามารถสเปรย์บ่อยได้ตามที่ต้องการด้วย เรื่องการเติมความชุ่มชื่นนี่ดีในระดับนึงเลย ส่วนเรื่องของริ้วรอยเราคิดว่ายังต้องใช้ร่วมกับตัวอื่นด้วย

ราคา 1,150 บาท (100 ml.)

Institut Esthederm Cellular Water Melting Moisturising Cream

เนื้อครีมเซลลูลาร์วอเตอร์ ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและให้พลังงานแก่ผิวเพื่อให้ผิวดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมี Skin Notox Technology ที่สามารถเป็นเหมือนม่านบางๆเคลือบผิวช่วยปกป้องผิวจากมละภาวะและสิ่งเร้าต่างๆที่ทำร้ายผิวเราทำให้เกิดริ้วรอยต่างบนใบหน้า และมีสารAnti – Oxidant ที่ช่วยเรื่องการทำงานของเซลล์ผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อยวัยอันควร

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีมบางเบา มีสีขาว

วิธีใช้ : ทาที่หน้าและลำคอทั้ง เช้าและก่อนนอน เราใช้เยอะเพราะแอบมีความมันหน่อย

ความรู้สึกหลังใช้ : เราชอบตรงที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้เต็มที่มาก ทานอนตอนกลางคืนตื่นมาผิวดูอิ่มน้ำมากจริงๆ ริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าดูดีขึ้นมาก แต่ชอบทาแค่ก่อนนอน เพราะตอนนี้อากาศร้อนมาก ทางตอนกลางวันแล้วหน้าเหนอะมากเลย เราไม่ชอบ คือเราไม่ใช่สายสกินแคร์อ่ะ เราไม่ชอบความรู้สึกเหนอะหนะบนหน้า เป็นคนที่บำรุงเท่าที่จำเป็นจริงๆ 

ราคา 2,200 บาท (50ml.)

Institut Esthederm Intensive Hyaluronic Cream

ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมหลักคือไฮยาลูรอนความเข้มข้นสูงหลากหลายขนาด ช่วยสร้างม่านน้ำบนผิว เพื่อผิวที่ดูอิ่มน้ำเรียบเนียนและเปล่งประกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขาดน้ำ

Hyaluronic Acid โมเลกุลขนาดใหญ่ ช่วยกักเก็บและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
                          โมเลกุลขนาดกลาง ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
                          โมเลกุลขนาดเล็ก แบบ encapsulated ที่สามารถช่วยเติมความชื้นให้กับผิวได้ลึกถึงผิวชั้นใน 

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมเข้มข้นสีครีม

ความรู้สึกหลังใช้ : เราได้ลองตัวนี้มาตั้งแต่งาน JebanxNAOS เมื่อตอนต้นปี ได้เป็นหลอดขนาดทดลอง 2 ml. เราชอบมากตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว มนุษย์ผิวแห้งรุนแรงอย่างเราที่มีปัญหาผิวขาดน้ำง่ายมาก เจอสิ่งนี้คือชอบมาก ถ้ารู้สึกว่าวันไหนหน้าแห้งมากๆเราก็จะลงทั่วหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้นแบบเร่งด่วน แต่ถ้ามีปัญหาหน้าแห้งเป็นจุดๆไม่ได้รุนแรงอะไรเราก็เลือกทาเฉพาะส่วนนั้นมากกว่า

ราคา 2,500 บาท (50ml.)

Overall Review :

เราชอบผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้มาก คือเราไปอยู่ไหนมาไม่รู้จักแบรนด์นี้ เราเคยเห็นผ่านตาที่ฝรั่งเศสนะ แต่ด้วยความที่ไม่ได้รู้จักเลยไม่เคยซื้อมาลอง ได้ลองผลิตภัณฑ์กี่อันก็ชอบทุกอันเลย ถ้าถาม Must Have Items ของเราเราชอบตัว Cellular Water Mist และ Intensive Hyaluronic Cream มาก คงต้องเป็นตัวที่มีติดบ้านโต๊ะเครื่องแป้งตลอดแล้วววว

สามารถหาซื้อได้ที่ eveandboy หรือจะเข้าไปดูที่เวปไซต์ของแบรนด์ก็ได้ค่ะ

สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณจีบันและInstitut Esthederm มากนะคะ ที่มีงานดีๆและผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้ทดลองใช้ จากคนที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อน กลายเป็นเป็นIn love กับแบรนด์นี้มากๆ

BYE XOXO