How to ลงงานผิวตามพี่ป้อม วินิจ พร้อม WearTest จากแบรนด์ JUNG SAEM MOOL
Zeibab 101 32
ใครอยู่กลุ่มรีวิวเครื่องสำอางแพง by Jeban ก็อาจจะเห็นโพสเราผ่านๆกับ mini review ของแบรนด์ JUNG SAEM MOOL กันแล้วว วันนี้มาทำตามสัญญา เนื่องจากว่าเราได้ไปดู Live ของแบรนด์ ที่พี่ป้อม วินิจมาสอนแต่งหน้า ลงงานผิวให้เนียนกริบ เลยนั่งดูแล้วอยากนำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ค่ะ บอกเลยว่าเป็นแฟนคลับพวกงานผิวของ JUNG SAEM MOOL มาก ๆ อยู่แล้วด้วยค่ะ เราโดนแบรนด์ JSM นี้ตกจากการได้ใช้รองพื้นของเค้า (เคยรีวิวไปแล้วใน Jeban) ทำให้ตัวอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ เลย รู้ตัวอีกทีเต็มบ้านเลยจ้า แต่ถามว่าหยุดซื้อมั้ย ไม่หยุด!! แม้ส้มจะหยุด แต่เราไม่หยุดซื้อค่ะ 555555
เกริ่นกันมาเนิ่นนาน เราไปดูกันเลยดีกว่าาาาา ฟิ้วววววว
จริง ๆ ขั้นตอนแรกที่พี่ป้อมสอนคือเค้าจะใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดก่อน แต่เราไม่มีเลยขอข้ามขั้นตอนนั้นมาถึงขั้นตอนลงสกินแคร์เลยค่ะ ชิ้นนี้คือ JUNGSAEMMOOL Essential Mool Cream Light เป็นเอสเซนต์บำรุงผิว เป็นสูตรใหม่ที่เค้าออกมา สูตร Light จะเน้นให้หน้าฉ่ำน้ำ ดูสุขภาพดี เนื้อเบา แต่ในคลิปที่พี่ป้อมใช้จะเป็นสูตร Brightening นะคะ เป็นสูตรใหม่เหมือนกัน
ขั้นตอนต่อไปลงเมคอัพเบส เราใช้ JUNG SAEM MOOL Skin Setting Tone-up Sun Base SPF50+/PA+++ ทาเพื่อปรับสภาพผิว ตัวนี้ออกเป็นโทนชมพูธรรมชาติค่ะ ลงก่อนแต่งหน้าช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ให้ผิวเนียนด้วย ตัวนี้ความเลิศที่เราชอบคือเค้าผสมกันแดดด้วยจ้า ที่เค้าบอกคือมีทั้งหมด 7 สูตรแล้วจ้าาา เยอะมาก 555555
การลงเมคอัพเบส พี่ป้อมแนะนำให้ลงให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ เพราะเราจะไม่ใช้ความหนาในการปกปิดริ้วรอย อาจทำให้ตกร่องได้ และการใช้ฟองน้ำในการเกลี่ยถือว่าตอบโจทย์ที่สุดเลย เราก็ค่อย ๆ เกลี่ยนให้เนียนทั่วใบหน้า เอาจริงแค่ลงเมคอัพเบสผิวก็ดูสวยฉ่ำแล้วอ่ะ แทบไม่ต้องทารองพื้นเพิ่มเลย สำหรับคนที่ไม่ได้มีรอยที่ใบหน้าเยอะนะคะ ผิวสุขภาพดีเวอร์ จากนั้นให้ใช้นิ้วมือเกลี่ยเบา ๆ อีกครั้งค่ะ ให้เค้าซึม เนียนไปกับผิว
การลงเมคอัพเบสจช่วยเบลอรูขุมขน และทำให้เครื่องสำอางติดทนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่า
ต่อไปเป็นการลงรองพื้น JUNGSAEMMOOL Skin Nuder Foundation รองพื้นลูกรักของเรา ขวดแรกหมดไปสักพัก พอ Wfh ก็ไม่ได้ซื้อเลย เพราะคิดว่าไม่ได้ใช้แน่ ๆ ตอนนี้ออฟฟิตเปิดปกติแล้วก็จัดไปจ้า ซื้อต่อไปรอแล้วนะ 555555 ของเราใช้เป็นสี Medium โทนสำหรับคนผิวเหลืองแบบเราเลย
มีฟัฟแถมมาให้ บอกเลยว่าเป็นพัฟที่ใช้ดีม๊ากกกกกกก จากที่ฟังมาเค้าบอกว่าหน้าพัฟเคลือบด้วยอัญมณี ทำให้เนื้อพัฟมีความละเอียด เวลาแนบไปกับหน้าจะทำให้รองพื้นกลืนไปกับผิวเลย
แปะรีวิวรองพื้นที่เคยทำไว้ให้ค่ะ : https://www.jeban.com/topic/285955
เทคนิคของพี่ป้อมจะใช้การลงรองพื้นก่อนจะลงคอนซีลเลอร์ค่ะ
แนะนำให้กดรองพื้นลงหลังมือ แล้วก็ใช้พัฟที่เค้ามีให้แทปๆรองพื้น แล้วนำมาแทปบนใบหน้าเลยค่ะ อันนี้เทคนิคอีกอย่างนึงที่เราพึ่งรู้เลย ก็คือรองพื้นตัวนี้ ใช้กับพัฟที่ให้มา สามารถลงรองพื้นได้สองแบบ ก็คือ
ลงแบบเน้นปกปิด เราจะใช้การแทป ๆ กด ๆ รองพื้นเบา ๆ ให้ทั่วไปหน้า แบบนี้จะทำให้ปกปิดมากยิ่งขึ้นค่ะ
ลงแบบเน้นเผยผิวธรรมชาติ หลังจากแทป ๆ แล้วให้ปาดเพื่อให้รองพื้นถูกดูดเข้าไปในพัฟจะทำให้เนื้อรองพื้นบางลง ให้งานผิวที่ดูฉ่ำแบบธรรมชาติค่ะ
และในการปกปิดร่องลึก เราไม่ควรเพิ่มชั้นรองพื้นไปที่ผิวส่วนนั้น แต่ให้ใช้วิธีการแทป ๆ แทนค่ะ บอกเลยว่าเราชอบเพราะเค้าให้งานผิวมากจริง ๆ ผิวแบบฉ่ำ อิ่ม เนียนมากกกก
ปาดคอนซีลเลอร์ไปช่วงใต้ตา สันจมูก และร่องแก้ม แล้วใช้พัฟค่อย ๆ แทป ๆ ลงไปบนผิว จากนั้นก็ปาดเหมือนวิธีการลงรองพื้น แล้วก็แทป ๆ เกลี่ยให้ทั่วบริเวณเดิมค่ะ
วิธีนี้จะช่วยในการลงร่องลึกบนใบหน้าให้เนียนที่สุด ทำให้ไม่ตกร่องนั่นเอง แต่ถ้าใครที่มีรอยสิว รอยต่าง ๆ ก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์ปิดได้น้า อย่างเราคือไม่มีรอยสิวเยอะมาก เลยจะเน้นพวกร่องลึกค่ะ นอกจากนี้พัฟตัวนี้ยังสามารถนำมาเบลอรอบ ๆ ริมฝีปาก เวลาอยากจะทาปากแบบออมเบร แบบเกาหลีนั่นเองค่ะ
ขั้นตอนลงงานผิวขั้นตอนสุดท้ายยยยย ใช้ JUNGSAEMMOOL Skin Nuder Pact ตัวนี้พึ่งออกใหม่เช่นกัน บอกเลยว่าเป็นแป้งอะไรที่มันอะเมซิ่งจิงกาเบลสุด ๆ เพราะเค้าเป็นแป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น บางเบา เราสวอชไม่ได้เลย เพราะพอสวอชมาไม่เห็นสี ไม่เห็นความแตกต่าง 55555555 แต่เราจะมาดูกันว่าเค้าใช้ทำอะไรค่ะ แต่ใด ๆ คือชอบแพ็คเกจมากเด้อ
วิธีใช้แป้งตัวนี้คือนำแปรงปัดแป้งที่เค้าให้มาปัด ๆ ปาด ๆ ตั้งแปรงตรงแล้วปาดไปตามแนวเส้นผิวเลยค่ะ แปรงนุ่มมากกกก แป้งเนื้อละเอียดมาก เนื้อแป้งไม่ฟุ้งกระจายจริง แป้งตัวนี้จะเน้นกระจายแสงให้ผิว และควบคุมความมันค่ะ
ตอนแรกเราคิดว่าจะใช้แค่ช่วงทีโซน แต่พอเอามาปัดทั่วหน้าแล้วเป็นตกใจเด้อ เพราะเค้าเบลอรูขุมขน ช่วยให้หน้าเนียนขึ้นเฉยเลย คุมมันได้ดีด้วย แม้จะปัดแล้วดูแมท แต่มันไม่ได้แมทเหมือนพวกแป้งเซ็ตผิวนะคะ ยังคงความฉ่ำวาวของหน้าอยู่ คือดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าลงแป้งเพิ่ม เนื้อเบาจริง ชอบมากกกกกกก
หลังจากลงงานผิวแล้ว ขอตัวไปหน้าต่างก่อน และนี่ก็คือ Before & After ของเรานั่นเอง เอาจริงแทบไม่เหมือนลงงานผิวเลยป้ะ เหมือนตื่นมาแล้วหน้าเนียนสว่างใสแบบนี้เลยอ่ะ 55555555555
อันนี้ต้องบอกก่อนว่าพี่ป้อมยังใช้เทคนิคการลงแป้งชิมเมอร์ซ้ำนะคะ แต่เราไม่มี และคิดว่าขั้นตอนเท่านี้ก็ได้งานผิวที่เราพอใจมาก ๆ แล้วล่ะ (แต่ใจคืออยากได้แป้งชิมเมอร์เพิ่ม หลังจากดูพี่ป้อมป้ายยาแล้ว 555555)
อ๊ะ ๆ ยังไม่จบแค่นี้ เพราะเราจะมาทำ WearTest กันด้วยจ้าาาา เปลี่ยนชุด พร้อมออกไปทำงานแล้ว !! อันนี้แต่งเสร็จประมาณเจ็ดโมงเช้านิด ๆ ค่ะ
สองรูปบนคือหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง นั่งทำงานอยู่ในห้องแอร์ แต่ตอนเดินทางมาคือร้อนมากกก เรามา BTS มีเหงื่อซึม ๆ รูปแรกคือยังไม่ได้ปัดแป้งของ JSM ตัวใหม่เพิ่ม รูปที่สองปัดแล้วจ้า วันนี้เราทำการปัดเติมแป้งไป 1 ครั้งถ้วน !
สองรูปข้างล่างคือหลังเลิกงาน เดินทางกลับบ้านด้วย BTS อีกเช่นเคย และร้อนมากอีกเช่นเคย แง ส่วนตัวว่าคุมมันได้ดีระดับนึงเลยนะคะ จะมีแค่ช่วงทีโซนของเราที่มันเพิ่ม เพราะเราเป็นคนผิวผสมค่ะ ผิวจะมันในช่วงทีโซน ถือว่าชอบ !! ทน !! คนที่ผิวแห้ง หรือผิวผสมแบบเรา ลงขั้นตอนผิวตามนี้คือเลิศสุด ส่วนคนที่ผิวมันเราแนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นคุมมันสำหรับเซ็ตผิว เซ็ตตามอีกชั้นค่ะ เพราะเค้าไม่ได้คุมมันขนาดรองพื้นเมทเด้อ แค่คุมได้ในระดับนึง ในคนที่ผิวแห้ง/ผิวผสมนั่นเอง ตา ปาก แก้มไปหมดแล้ว เหลือเพียงคิ้วและรองพื้นที่ยังอยู่กับเรา5555555
ใส่แมสทั้งวันไม่ถอด เพราะเรากลัวโควิด แฮ่ ! รองพื้นแทบไม่ติดแมสเลยนะจ๊ะ อย่างที่บอกมีหลุดแค่ช่วงทีโซนของเรา แต่ก็หลุดไม่เยอะนะว่าไป เราให้สามผ่านเลย
เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน อันนี้พยายามนั่งดูคลิปของพี่ป้อม แล้วแต่งตาม และนำที่พี่ป้อมสอนมาเรียบเรียงบอกต่อเพื่อน ๆ อีกทีเลยนะเนี่ย ลองเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ได้นะคะ หรือถ้าใครอยากดูคลิปก็เข้าไปดูที่เพจ FB ของ JUNG SAEM MOOL ได้เลยจ้าาาา
วันนี้เราขอตัวไปก่อน เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ บะบุยยยยยย xoxo
