Share มากไปไหม ? เมื่อเซเลบเปิดเผยจนเป็นดราม่า

Ashley Graham

เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้เบบี๋กลางshop
​

คุณแม่คนดังแห่ง social media มักจะดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ทเสมอ ภาพของหญิงสาวที่ดู glamorous อยู่เสมอได้กลายร่างมาเป็นคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกหัวหมุนไม่ต่างจากคนธรรมดานั้นทำให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึง และร่วมแชร์ประสบการณ์ที่ต้องรับมือกับเจ้าตัวเล็กด้วยความเฮฮา


แต่สำหรับหลายคนที่ได้เห็น Ashley Graham แชร์ภาพนามีเปลี่ยนผ้าอ้อมบนพื้นร้าน Staples (แบบมีผ้ารอง) หลายคนก็ออกปากตรงกันว่า "ได้เหรอ ?!"

สิ่งปฏิกูลจากการขับถ่ายคือหนึ่งในภาพไม่พึงปรารถนาจะพบในสังคมออนไลน์  แม้จะไม่ได้มาให้เห็นแบบรูป รส กลิ่น เสียงเต็มๆ    แต่ผ้าอ้อมที่ใช้แล้วที่วางบนพื้นที่ส่วนรวมนอกบ้านไม่อาจสร้างเสียงชื่นชมในเส้นทางความเป็นคุณแม่คนดัง   แต่ปลุกเร้าให้ชาวเน็ททวงถามถึง "มารยาททางสังคม"  กับเจ้าตัวแทน

(คุณเคยไปกินร้านสุกี้แล้วมีครอบครัวข้างๆที่มีฉากกั้นเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกรึเปล่าคะ   เราเคยมาแล้ว  กลิ่นปัสสาวะปนแป้งเด็กที่โชยออกมาทำให้โต๊ะของเราตัดสินใจหยุดกินทั้งๆที่ยังไม่ได้อิ่มเต็มที่แล้วเรียกเก็บเงินทันที)

ชาวเน็ทหลายคนพยายามทำความเข้าใจ  คุณแม่มือใหม่อาจจะมีความขลุกขลักในการเลี้ยงลูกน้อย  แต่ก็มีเสียงยืนยันออกมาว่า  พวกเค้าไม่มีทางเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก ทั้งๆที่มีคนเดินไปมากลางร้านรวง ( หรือจะไม่มีคนก็ตามแต่) ทางเลือกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคือการร้องขอใช้ห้องน้ำกับพนักงาน หรือหากห้องน้ำไม่มีพื้นที่เปลี่ยนผ้าอ้อม  ก็อาจจะเปลี่ยนในรถ หรือถ้าแย่ที่สุดที่ไม่มีทั้งห้องน้ำและรถ  ก็คงต้องเลือกสถานที่ที่ห่างไกลคนที่อาจเดินมาพบภาพและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์  แต่ไม่มีทางที่จะนำมาโชว์และบรรยายภาพด้วยน้ำเสียงที่ภูมิใจในสังคมออนไลน์เหมือนกับ Ashley    รวมไปถึงประเด็น privacy ของลูกน้อยที่จะต้องเติบโตขึ้นมาเพื่อพบภาพนี้บน internet โดยไม่ได้ร้องขอ

เพราะเธอมีชื่อเสียงโด่งดัง จะขยับตัวทำอะไรก็สร้างประเด็นออกสื่อได้ทั้งนั้น  เมื่อกลายเป็นแม่คน  lifestyle ที่ได้นำเสนอก็ได้เปลี่ยนแปลงไป และยิ่งสร้างความฮือฮาได้มากกว่าตอนยังที่ไม่มีลูกซะอีก   อย่างตอนที่เธอถ่ายคลิปตอนกำลังปั๊มนมในรถ UBER ที่มียอด like เกือบ  7 ล้าน  ในขณะที่ post อื่นๆของเธอจะมียอด like ในหลักแสนเท่านั้น

เรื่องการเปิดเผยภาพการให้นมหรือปั๊มนมเป็น topic ที่สร้างข้อโต้แย้งมาตลอด  และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครยอมลงให้ใคร

- ฝ่ายที่เชื่อมั่นว่า การให้นมลูกคือสิ่งที่งดงามที่แสดงความผูกพันของแม่ลูก เป็นช่วงเวลาแสนพิเศษและไม่ควรจัดเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม เพราะนี่คือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา คนที่จิกกัดว่าการเปลือยหน้าอกให้นมเป็นเรื่องไม่เหมาะสมเป็นพวกมีความคิดอกุศล เพราะมันคือภาพที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก การ post ภาพแบบนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้แม่ๆหันมาเลี้ยงลูกน้อยด้วยนมตัวเองอีกน้อย


- ฝ่ายที่ยืนยันว่า  นี่คือ moment อันเป็นส่วนตัว  มีแม่มากมายที่ให้นมลูกโดยไม่ต้องลงภาพที่ social media  และหน้าอกผู้หญิงก็ยังถือเป็นของสงวนที่ไม่ควรเปิดเผยพร่ำเพรื่อ  การให้นมเมื่อลูกหิวโหยนั้นแตกต่างกับการประกาศให้ชาวเน็ทได้รับรู้   หลายคนตั้งฉายาให้กับกลุ่มแม่ที่ปลาบปลื้มการโชว์ภาพให้นมว่าเป็นพวกคลั่งนมแม่

Lena Dunham  

ขึ้นขาหยั่งตรวจภายใน

นักแสดงนำจาก Girls มักสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนิสัยเปิดเผยแบบหมดเปลือกอยู่หลายครั้ง และเจ้าตัวก็ยอมรับว่า  ตัวเองเป็นประเภท oversharing จริงๆ     แต่ชางเน็ทก็ไม่คาดว่า จะ overshare ไปถึงหน้าขาหยั่ง!

เธอเคยให้ความเห็นเรื่องการ "เปิดเผยมากเกินไป" ว่า มีการแบ่งแยกมาเกี่ยวข้อง เพราะเวลาผู้ชายเปิดเผยประสบการณ์ให้โลกรับรู้ก็จะได้รับคำชมว่ามีความกล้าหาญที่จะแบ่งปัน แต่พอผู้หญิงทำแบบเดียวกัน กลับถูกจิกกัดว่าเยอะเกินไป too much information !

แต่นั่นก็นำไปสู่คำถามที่ว่า  หากเธออยากจะกระตุ้นให้ผู้หญิงเลิกเขินอายในการตรวจภายในจริง ๆ  ภาพการรอสูตินรีแพทย์ที่ขาหยั่งอาจจะไม่ใช่ไอเดียที่บรรเจิดนัก

Nudity คือสิ่งหนึ่งที่ Lena ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาติดต่อกันหลายปี  เพราะเธอเลือกใช้ภาพเปลือยในการแสดงออกทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การเมืองก็นำเรื่องความเปลือยมาคู่กันอยู่หลายครั้ง     อย่างในกรณีที่เธอเปิดเผยอาการเจ็บป่วยจนจำเป็นต้องผ่าตัดจำรังไข่ด้านซ้ายออกไป  และทำให้ผู้คนจำนวนมากแสดงความเห็นใจเธอที่ต้องฝ่าฟันกับความเจ็บป่วยและต้องตัดใจจากความใฝ่ฝันที่จะมีลูก  แต่ต่อมา เธอก็ได้ post ภาพเปลือยเพื่อเป็นการฉลองครบรอบเก้าเดือนของการผ่าตัด เพื่อเผยรอยสักที่เขียนไว้ว่า RIP Judy  หรือชื่อที่เธอตั้งให้มดลูกของตัวเองและต้องการอุทิศภาพนี้ให้กับมดลูก Judy ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อร่างกายของเธอ


แม้สื่อดังอย่าง VOGUE และ Cosmopolitan จะเยินยอว่านี่คือการ share ที่แสนจะทรงพลัง และมีชาวเน็ทที่ออกมาขอบคุณเธอที่สร้างกำลังใจและความรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดรังไข่   อย่างไรก็ตาม  ก็ยังมีคนออกมาแขวะเธอว่า ภาพเปลือยนี้ก็ไม่ได้ดูแตกต่างจากความเปลือยที่เธอนำเสนอผ่าน social media มาโดยตลอด   และเธอจะมีเหตุผลแนบมากับความเปลือยเสมอ  ไม่ว่าจะเป็นการพักฟื้นจากโรงพยาบาล  การสนับสนุนเรื่อง body confidence   และทำให้ผู้ชมหลายคนเชื่อว่า วัตถุประสงค์ของเธอในการใช้pattern ความเปลือยนี้คือการเรียกร้องความสนใจจากโลกออนไลน์มากกว่าจะ โฟกัสถึงปัญหาสังคมจริงๆ   

เธอสนับสนุนองค์กร Planned Parenthood   ด้วยภาพเปลือยอก   และอาจจะทำให้บางคนคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อใด เธอก็สามารถแนบภาพเปลือยมาประกอบได้เสมอ

และรวมไปถึงการโชว์ภาพตอนกำลังนั่งส้วม

แค่ดราม่าจากคำพูดของเจ้าตัวก็ถูกรุมโจมตีจนต้องขอโทษมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง    แม้ว่าจะเคยเปิดเผยว่าปลาบปลื้มความเปลือยเปล่ามากแค่ไหน   พอเจอดราม่ามากๆเข้า   Lena ก็ยอมรับว่า ตัวเองเยอะและคงไม่ถูกใจคนอื่นสักเท่าไร และพยายามจะเพลาๆลงไปบ้าง

Amy Schumer



เส้นทางสู่ความเป็นแม่ 

นับตั้งแต่วันที่ Amy Schumer ได้รับข่าวดีว่าตัวเองตั้งท้องตามความปรารถนา  เธอก็ได้ถ่ายทอดเส้นทางสู่ความเป็นแม่ผ่าน social mediaก็ทำให้ชาเน็ทแบ่งความเห็นกันเป็นสองข้าง   ทั้งชื่นชมที่เธอแสดงความ real ของวิถีคุณแม่ ตั้งแต่ตอนรอผลทดสอบการตั้งครรภ์ไป  ความยากลำบากจากอาการแพ้ท้อง  การคลอดที่ไม่ได้สวยงามตามที่เคยได้ยินมา รวมไปถึงชีวิตแม่ลูกอ่อนที่ทำให้ทรุดโทรมไปผิดตา     แต่ก็ยังมีคนที่แสดงความกังขาว่า  การ share ของเธอมันเกินขอบเขตไปรึเปล่า ?

โชคร้ายที่ Amy ต้องทรมานจากอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง  และถึงขนาดที่เธอต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่มีทีท่าว่าอาการแพ้ท้องจะทุเลาลงไป   เธอต้องยกเลิกการแสดงและรู้สึกหดหู่มากกับความเจ็บป่วย เธอจึงปิ๊งไอเดียแบ่งปันประสบการณ์โหดหินของการตั้งท้องเพื่อให้ผู้คนเข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องเบาๆอย่างที่บางคนคิด

วีดีโอที่บันทึกภาพตอนที่เธอกำลังอาเจียนอย่างหนักที่ปรากฏบน Instagram ทำให้ผู้หญิงหลายคนเอ่ยปากชื่นชมไปจนถึงขอบคุณที่เธอเปิดเผยด้านที่หนักหนาสาหัสของการตั้งท้อง   มีคนที่ยอมรับว่ารู้สึกโดดเดี่ยวเศร้าใจเมื่อได้เห็นlifestyle คุณแม่คนงามบน social media ที่ดูจะรับมือการตั้งท้องได้ไม่ยากลำบาก  และเมื่อได้รู้ว่า แม้แต่คุณแม่คนดังก็ยังต้องทรมานกับอาการที่มากับตั้งท้องก็ได้สร้างความรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา      แต่หลายคนอาจจะคาดเดาได้ว่า  ภาพสาวท้องโก่งคออาเจียนก็อาจจะไม่ตรงใจชาวเน็ทบางกลุ่มที่คิดว่ามันดู "มากเกินไป"

Amy เคยใช้ภาพตัวเองที่เปลือนเปล่าคลานเข่าอาเจียนหน้าชักโครกเปรียบเทียบด้วยอารมณ์ขันว่า ในขณะที่ Meghan Markle  กำลังออกทัวร์เยี่ยมเยียนประเทศ Fiji ( ในลุคของคุณแม่ท้องที่สวยพริ้ง)  เธอก็มีสภาพแบบนี้

หรือจะเป็นภาพด้านล่าง ที่เธอเปิดเผยสภาพหลังคลอดที่ต้องลากเสาน้ำเกลือไปเข้าส้วมด้วย   (  เราก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว!)

ที่จริงแล้ว  การ share ภาพเส้นทางความเป็นแม่ของ Amy ได้รับกระแสตอบรับที่ดี และทำให้เธอจุดประกายไอเดียสร้างสารคดี Expecting Amy ที่เป็นการยืนยันค้านหัวชนฝาว่า การตั้งท้องเป็นเรื่องง่ายและสวยงามทุกแง่มุม