รวบตึงน้ำตบกระชับรุขุมขน อ่อนโยน ลดริ้วรอย
Thipparat Rungpuegjaroen 49 14น้ำตบที่ฝนจะแชร์ในกระทู้นี้ เป็นน้ำตบที่ฝนใช้แล้วรู้สึกชอบตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนที่เลิฟในการใช้น้ำตบมาก หลักๆคือง่ายและรวดเร็ว
แต่อีกปัจจัยหนึ่งคือคิดว่าการลงน้ำตบคือขั้นตอนแรกของการใช้สกินแคร์
เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไป แต่ถ้าเราทิ้งไว้จนซึมเข้าผิวแล้วตบซ้ำๆ ครั้งที่ 2-3
ก็จะเป็นการบำรุงแบบเต็มสูบ บางทีขั้นตอนของมอยเจอไรซ์เซอร์ต่อไปก็อาจไม่จำเป็นเลย
สูตรที่ฝนเคยได้ยินมามีการใช้น้ำตบถึง 8ครั้ง นี่คือเคล็ดลับผิวสวยสุขภาพดีของชาวญี่ปุ่นเลยค่ะ? ?
ถ้าพูดถึงน้ำตบคงไม่มีใครไม่รู้จักฮาดะลาโบะ แบรนด์สกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่น มีหลายสูตรให้เลือกใช้
แต่ตัวที่ฝนจะพูดถึงเป็นขวดและฝาสีขาว เน้นเรื่องความชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก ทำให้ผิวหน้านุ่มและเปล่งปลั่ง
ตัวนี้ได้มาตอนไปญี่ปุ่นนะคะ ขวดจะเป็นลาย Snoopy Limited Edition ค่ะ ?
จุดเด่น มาพร้อมเทคโนโลยี HPP&Mเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงจากไฮยาลูโรนิค แอซิด ถึง 4 ชนิด
ที่มีขนาดโมเลกุลต่างกัน ทำให้แทรกซึมเข้าเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื่นได้ล้ำลึกถึงทุกชั้นผิว
ช่วยปรับสมดุลให้พร้อมรับการบำรุงด้วยเอสเซนต์และมอยเจอร์ไรเซอร์ ไม่ระคายเคืองผิว
เพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสี
ผลลัพธ์ ตอบโจทย์คนหน้าแห้งได้ดีมากค่ะ ให้ความชุ่มชื้น หน้าอิ่มน้ำ กระชับรูขุมขน กระจ่างใส
จุดด้อย มีความเหนอะหนะเล็กน้อย ซึมเข้าใบหน้าช้า เรื่องริ้วรอยยังไม่เห็นชัดเจน
2. SK-II Facial treatment Essence
ตำนานของน้ำตบคงไม่มีใครไม่รู้จักน้ำตบป้าเจี๊ยบ หรือพิเทร่าอย่างแน่นอน เนื้อเอสเซ้นจะเป็นน้ำ
มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวนี้ฝนไม่ค่อยได้ใช้เป็นประจำมาก เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง
ทำให้ต้องคิดหนักก่อนซื้อทุกครั้งจ้า ?
จุดเด่น มี GENOPTICS AURA RESIST COMPLEX นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่คิดค้นขึ้น
เพื่อให้ผิวเปล่งประกายไร้จุดด่างดำ มีส่วนผสมของสารสกัดจาก Prunus และ พิเทร่า
ที่มีประสิทธิภาพของ SK-II นอกจากนี้ยังมี D-Melano P3C™ ช่วยจัดการกับปัญหาจุดด่างดำ
และ Inositol ช่วยเสริมการทำงานของไลโซโซมเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว
ผลลัพธ์ เห็นชัดในเรื่องของความชุ่มชื้น รูขุมขนที่ดูกระชับ และผิวดูเปล่งปลั่ง
จุดด้อย โดยส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นที่ค่อนข้างแรง ซึมช้า ใช้เวลาประมาณ 2 นาทีในการซึมเข้าผิวสนิท
ราคา 2,250บ. 75ml. (เฉลี่ย 30บ./ml.)
3. Caudalie Vinoperfect Concentrated Brightening Essence
น้ำตบแบรนด์ดังสัญชาติฝรั่งเศส ถือกำเนิดขึ้นจากไร่องุ่นในปี 1993 ณ เมืองบอร์โด
ตอนแรกไม่รู้จักแบรนด์นี้เลย แต่พอเริ่มเห็นบิวตี้บล็อกเกอร์รีวิวเยอะ เลยตัดสินใจหาข้อมูลและซื้อมาลอง
จะบอกว่าช่วงที่ฝนหาซื้อนางกำลังขาดตลาดอยู่ ยิ่งทำให้อยากได้ อยากลอง
ใช้เวลานานโขกว่าจะได้นางมา ?
จุดเด่น ใช้เมล็ดองุ่นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นวัตถุดิบหลัก ส่วนผสมทุกอย่างล้วนมาจากธรรมชาติ
ปราศจากสารกันเสีย ไม่มีสารเคมี ไม่ทดลองกับสัตว์ และมีส่วนผสมของ Viniferine
ลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแผลเป็นจากสิว
พร้อมปรับสภาพผิวให้เนียนเรียบและขาวกระจ่างใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสีผิวให้ขาว
ผลลัพธ์ ส่วนตัวยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนมาก แต่รู้สึกว่าซึมไว กลิ่นธรรมชาติแอบแรงนิดๆ
สัมผัสใกล้เคียงกับน้ำตบเห็ด
จุดด้อย ยังไม่เห็นผลเรื่องจุดด่างดำ และความขาวของผิวตามที่แบรนด์เคลมไว้มากเท่าไหร่
อาจต้องใช้และรอดูผลระยะยาว
ราคา 1,540บ. 150ml. (เฉลี่ย 10.26บ./ml.)
4. KI SE KI-Hokkaido Daylily Essence
ตัวนี้ฝนไปเจอในพันทิพมา เขาบอกว่าเป็นน้ำตบกู้ชีพ ส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ
ไม่มีสารอันตราย ไม่มีพาราเบน แอลกอฮอล์หรือสเตอรอย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน
ตัวนี้ฝนซื้อมาจาก FB เพจหลักของแบรนด์นะคะ นางจะมีเฉพาะชุดทดลองที่วางขาย
แค่ใน Eveandboy เท่านั้นค่ะ ถ้าเป็นไซส์ใหญ่ต้องสั่งกับเพจโดยตรงจ้า ☺
จุดเด่น ใช้นวัตกรรมการผลิต นาโน อิโมชัน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น
ทำให้มีลักษณะเป็นน้ำตบสีน้ำนม ไม่ทิ้งความมันบนผิว และช่วยในการผลัดเซลผิว
ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ผลลัพธ์ หน้าดูใสขึ้น รอยแดงจากสิวดูจางลง รูขมขนกระชับอย่างเห็นได้ชัด
จุดด้อย เรื่องริ้วรอยยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ อาจต้องใช้ไปสักระยะ
ราคา 1,050บ. 100ml. (เฉลี่ย 14.5บ./ml.)
5. Biotherm Life Plankton Essence
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของแบรนด์นี้มานานมาก ก่อนหน้านี้ใช้สูตร classic รู้สึกผิวเอิบอิ่ม ดูเปล่งปลั่ง
แต่ตอนนี้นางได้เปิดตัวออกสูตรใหม่ Life Plankton Essence เลยยิ่งดูน่าสนใจขึ้นมาอีก
ใช้แรกๆรู้สึกได้ว่าเนื้อเบากว่ารุ่นแรกนิดหน่อย เลยชอบรุ่นแรกมากกว่า ?
จุดเด่น เป็นเอสเซนส์ที่อุดมด้วยไปด้วย Life Plankton แพลงตอนสกัดบริสุทธิ์จากน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ
ถึง 5% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมา มีความสามารถในการรักษาการอักเสบของผิวหนัง
ลดอาการระคายเคืองของผิวหนัง สร้างสมดุลของผิวหนัง และทำให้ปราการผิวหนังแข็งแรงขึ้น
ผลลัพธ์ หน้าแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าใสขึ้น ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่ แต่ใช้ไปสักระยะเริ่มชิน
เพราะเคยใช้เอสเซ็นส์ของ SK-II เลยไม่รู้สึกว่ากลิ่นของตัวนี้แรง
จุดด้อย มีความเหนอะนิดหน่อย ช่วงที่ลงบนใบหน้าแรกๆ จะรู้สึกมันเยิ้มๆ
ราคา 1,600บ. 75ml. (เฉลี่ย 21.33บ./ml.)
6. Origins Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Treatment Lotion
สายธรรมชาติต้องห้ามพลาด ชื่อเล่นของนางคือน้ำตบเห็ด โด่งดังมากและเป็นตัวที่ขายดีที่สุดของแบรนด์
ตัวนี้ได้รวบรวมเอาส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านต่างๆมารวมกัน
บิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำเพราะตัวนี้ช่วยเรื่องบรรเทาความอ่อนล้าของผิวด้วย
ยิ่งอายุขึ้นเลขสามแล้ว ยิ่งต้องบำรุงหนักๆค่ะ ?
จุดเด่น มีส่วนผสมของ Sea Buckthorn ที่ถือว่าเป็นผลไม้ทรงพลังแห่งตระกูลเบอร์รี่
มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากและมีวิตามินซีที่สูงกว่าผลไม้ทั่วไปมากถึง 15 เท่า
จึงเป็นตัวช่วยทำให้ผิวสดใส กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์ลง
ผลลัพธ์ หน้าหนุ่มขึ้นหลังใช้ครั้งแรก สิวผดจางลง หน้าชุ่มชื้น กลิ่นออกแนวสมุนไพรอ่อนๆ
จุดด้อย ยังไม่เห็นผลเรื่องรูขุมขนมากเท่าไหร่ หลังใช้ผิวจะมีความหนืดเล็กน้อย
ราคา 1,800บ. 200ml. (เฉลี่ย 9บ./ml.)
ทั้งหมดนี้คือน้ำตบที่ฝนใช้แล้วชอบ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆเป็นความเหมาะสมของแต่ละคนนะคะ บางคนอาจใช้แล้วเห็นผลดี หรือไม่ดี
ยังไงก็ลองปรับใช้หาสกินแคร์ที่เข้ากับผิวเราจะดีที่สุดค่ะ
แล้วก็อย่าลืมบำรุงผิวทั้งเช้าและก่อนนอนเป็นประจำ เพื่อผิวจะได้ดูสุขภาพดี
ไม่ดูแก่ก่อนวัยนะคะ ❤