》 มาแชร์ Skincares routine สำหรับ sensitizing skin กันเถอะ! 💜🧡
ffilmmiez
65
15
สวัสดีค่าสาวๆจีบันทุกคนนนนนนนน
เรามาอีกแล้ว แหะ
รอบนี้กลับมาเป็นสายสกินแคร์แหละ
ขอเกริ่นก่อนว่าจริงๆส่วนตัวแล้วเราจะมีสกินแคร์หลายเซ็ตเพื่อเอาไว้ปรับตามสภาพผิวในแต่ละช่วงค่ะ
ซึ่งตามชื่อบล็อกเลย
ช่วงนี้ผิวเราออกจะอ่อนแอนิดหน่อย /จริงๆก็ไม่หน่อย ;—;
เพราะว่าก่อนหน้านี้เราค่อนข้างกังวลเรื่องสิวอุดตันเลยไปใช้สกินแคร์กลุ่ม benzac ร่วมกับ retinoid และ BHA.....
แน่นอนค่ะว่าพัง 555555555 TT หาทำแท้ๆ
คือเจ้าสารทั้งสามตัวในข้างต้นเนี่ย จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างเยอะ ทำให้ถ้าใช้ร่วมกันมากๆ ผิวจะบางลงและไวต่อแสงมากเกินไป ?
แล้วพอผิวบางเนี่ย ไม่ว่าจะใช้สกินแคร์อะไรก็จะแอคทีฟง่ายมากๆจนกลายเป็นระคายเคืองทั้งๆที่ใช้สกินแคร์เดิม
ดังนั้น เราจะมาแชร์สกินแคร์ที่ใช้ช่วงที่ผิวอ่อนแอ sensitive มากๆให้ดูกันว่ามีตัวไหนน่าสนใจบ้าง
มาค่ะ ไปดูกันเลยยยยยย
คือเอาจริงๆในช่วงที่ผิวเราค่อนข้างจะบอบบาง อ่อนแอเนี่ย ความหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่มีน้ำหอมกับแอลกอฮอลเพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองกว่าเดิมถูกไหมคะ
เพราะงั้น สกินแคร์เซ็ตนี้ค่อนข้างที่จะ 100% alcohol + fragrance free เลย ❤
แล้วก็ส่วนตัวยังค่อนข้างที่จะไม่อยากใช้สกินแคร์หลายชิ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการแอคทีฟของสารที่อาจทำให้ระคายเคืองได้ถ้าเกิดปริมาณมากเกินไปด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราจะแนะนำน้องๆเขาตาม step การใช้แล้วกันเนอะ
1st step ❤
Banila co clean it zero cleansing blam
เริ่มต้นด้วยคลีนซิ่งกันก่อนเลยค่ะ
น้องคนนี้เป็นคลีนซิ่งที่จริงๆแล้วเราใช้อยู่ตลอดอยู่แล้วไม่ว่าจะสภาพผิวเป็นแบบไหนนะคะ
เพราะว่าน้องเขาทำความสะอาดผิวได้ดีมากๆ ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ไม่ทำให้ผิวแห้ง แล้วก็ล้างทำความสะอาดออกค่อนข้างง่ายด้วยน้า
ตัวเนื้อจะเป็นบาล์มๆ เมื่อนวดไปบนผิวแล้วก็จะดึงเอาสิ่งสกปรกต่างๆออกมาจากผิว
พอโดนน้ำก็จะกลายเป็นน้ำนม
กระปุกจัดว่าใหญ่เลยนะคะ ค่อนข้างคุ้มเมื่อเทียบกับปริมาณค่ะ แถม packaging สวยด้วย เลิ้บมากกก TvT
*ถามว่าทำไมต้องใช้คลีนซิ่ง คือถึงจะเป็นช่วงพักผิวแต่ยังไงก็ยังคงต้องทาครีมกันแดด(สองข้อนิ้ว!)เป็นประจำทุกวันนะคะ เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองหรือบอบบางลงไปกว่าเดิม เพราะงั้นจึงควรทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่งเพื่อลดการอุดตันของผิวด้วยเนอะ ไม่งั้นอาจจะต้องมาแก้ปัญหาสิวกันอีก
2nd step ?
Cerave foaming cleansing
ต่อจากคลีนซิ่งก็ต้องเป็นคลีนเซอร์เนอะ
น้องเจลล้างหน้าตัวนี้เราก็ใช้เป็นปกติอยู่แล้วแหละ เพราะว่าค่อนข้างจะอ่อนโยน ล้างสะอาดนะ แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งเลย
เราแนะนำว่าให้เปิดน้ำไหลผ่านผิวเราเยอะๆแทนการใช้มือสัมผัสผิวหน้านะคะ เพื่อลดการระคายเคืองด้วยอีกทางนึง (เทคนิคที่เราบอกข้างบนที่แอบเห็นมาจาก เร็น วง Nu’est กับ โบมี วง A-pink ที่มีผิวที่สวยมากๆเขามาแชร์ค่ะ ><)
พอดูจากส่วนผสมเนี่ย ก็จะเห็นว่าไม่ได้มีตัวแอลกอฮอลหนักๆอย่างพวก alcohol denate นะ แล้วก็ไม่มีพวกน้ำหอมเลยด้วย
สบายใจได้ว่า ผิวบอบบางใช้แล้วผิวไม่แสบ ไม่แดงแน่นอนค่ะ
แล้วก็มีพวก ceramide ต่างๆที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวแข็งแรงด้วย ถือว่าดีเลยนะคะ คือใช้แล้วไม่ต้องกลัวผิวแห้งเลย
พอล้างหน้าเสร็จเราก็จะใช้ทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าซับน้ำออกเบาๆ คือเอาให้แค่ไม่หยดตอนเดินออกจากห้องน้ำมาทาครีมต่อก็พอน้า ไม่ต้องเอาให้แห้งสนิท
3rd step ?
Revision skincare soothing facial rinse
น้องคนนี้จะเป็นโทนเนอร์ที่แบบ especially for calming and soothing เลยค่ะ
ตัวเนื้อโทนเนอร์เราว่าอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นน้ำและเซรั่ม คือไม่ได้เหลว แต่ก็ไม่ได้หนืดขนาดนั้น มีบอดี้เบาๆ ใฟ้ความชุ่มชื้นได้โอเคมากๆเลยค่ะ
คือถึงจะได้ชื่อว่าเป็นโทนเนอร์แต่เราใช้เป็นน้ำตบนะคะ เพราะว่าลดการระคายเคืองจากการใช้สำลีเช็ดไปบนผิวหน้าอีกนั่นแหละ ;—; ความผิวบาง ผิว sensitive มากๆอะเนอะ แง
4th step?
La roche-posay effaclar duo+
น้องคนนี้จะเป็นครีมออกสีขาวๆ ส่วนตัวว่ามีกลิ่นออกเหมือนยาๆซัมติง?
ใช้แล้วไม่ได้รู้สึกว่าตัวครีมซึมหายไปหมดนะ จะเหลือเคลือบๆไว้บนผิวนิดนึง แต่คือไม่ได้ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะอะไรนะคะ ฟีลเหมือนพวก moisturizers ทั่วๆไปเลย ไม่ได้รู้สึกแห้งๆเหมือนกับตอนใช้ AHA/BHA
ซึ่งจริงๆน้องคนนี้เขาจะเน้นไปในทางทำให้ผิวสมดุลแข็งแรงค่ะ เพราะงั้นก็จะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวซ้ำๆน้อยลง ><
แล้วถ้าพูดถึงส่วนผสมที่น่าสนใจนะ เราเห็นตัว Niacinamide ก่อนเลย น้องสารนี้เรียกได้ว่าครอบจักรวาล 5555555 คือช่วยทั้งเรื่องเสริมชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้น เป็น antioxidants แถมช่วยลดการอักเสบของผิวอีก มีตัว LHA ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของผิว แต่คือจะเบากว่าพวก AHA / BHA ค่ะ ระคายเคืองน้อยกว่า ส่วนน้อง Piroctone Olamine นี่ก็น่าสนใจนะคะ เพราะน้องเขาจะจะช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวน้อยลง แล้วก็เจ้าน้อง Procerad ที่ช่วยลดพวกรอยดำ รอยแดงก็มีมาเหมือนกันค่ะ
อะ คราวนี้มาดูผลลัพธ์หลังการใช้กันบ้างค่ะ
คือเราเริ่มใช้สกินแคร์เซ็ตนี้ครบเซ็ตมาได้ประมาณ 10 วันค่ะ
ต้องยอมรับว่าตัวโทนเนอร์กับครีมเนี่ย เพิ่งมาทีหลังตอนที่รู้สึกว่าสกินแคร์ที่มีคืออ่อนโยนไม่พอแล้ว ;—; ให้หลังจากที่แสบหน้าหนักๆมาประมาณ 3-4 วัน
เพราะงั้นภาพที่จะเอามาลงทั้งก่อนและหลังใช้เราจะนับว่าเป็นวันที่ 1 กับวันที่ 10 ที่ใช้ครบทั้งเซ็ตนะคะ
คือถ้ามองด้วยตาเปล่าเนี่ย อาจจะไม่ค่อยชัดนะคะ เพราะวันที่ผิวแดงมากๆคือวันที่สั่งน้องสองคนสุดท้ายมาใช้แล้วคือเอาหน้าสู้แสงถ่ายรูปไม่ไหวเลยค่ะ ต้องพักทุกการถ่ายรีวิวไปเลย แง
ความรู้สึกหลังจากการใช้สกินแคร์เซ็ตนี้สำหรับเราเป็นเวลา 10 วันนะคะ ที่ชัดคือผิวแข็งแรงขึ้นมากๆจากเดิม ออกแดดได้โดยไม่แสบผิวแล้ว ลองจับๆดูก็คือรู้เลยว่าผิวไม่ร้อน แถมชุ่มชื้นขึ้นมากๆด้วยค่ะ
ส่วนพวกสิวเนี่ย...ความโชคร้ายคือช่วงนี้ใกล้ประจำเดือนจะมาค่ะ จะมีสิวอักเสบขึ้นอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าขึ้นน้อยกว่าปกติมากๆ
อ้อ เรื่องรอยสิวกับพวกผิวที่ลอกๆเป็นขุยจากตรงแผลที่เรามือบอนแกะสิว(...)ก็ดูโอเคขึ้น ส่วนที่สีเข้มๆก็ดูจางลงอยู่เหมือนกันค่ะ
โอเคคคค จบแล้วสำหรับบล็อกนี้ ใครอ่านแล้วอยากมีอะไรมาแบ่งปันกันเพิ่มเติมก็คอมเม้นท์มาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะคะ ><
ถ้าชอบรบกวนฝากกดหัวใจให้ด้วยน้า หรือจะเข้ามาพูดคุยในทวิตเตอร์ @_Fmzst ก็ได้นะคะ
สุดท้ายนี้ รักษาสุขภาพ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือกันหลังจากจับสิ่งของสาธารณะกันด้วยนะคะ
บะบายค่า ❤