Kanye West ทิ้งBomb! Kimย่องหาหนุ่มจนอยากขอหย่า

59 8

ในขณะที่คุณอาจจะคิดว่า หลังจากมีดราม่าร้อนแรงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน  ครอบครัว Kardashian/ Jenner จะไม่สร้างความช็อคใดๆอีกแล้ว...


แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด!



หลังจากปล่อยระเบิดชุดใหญ่กลางการหาเสียงเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีว่า ไม่ต้องการให้ Kim เก็บลูกคนแรกในท้อง และใช้เวลาสามเดือนแรกเพื่อตัดสินใจว่าจะทำแท้งหรือไม่ และนำเสนอถึงการควบคุมการทำแท้งให้ถูกกฎหมายด้วยoptionช่วยเหลือเด็กในครรภ์หัวละล้านเหรียญ !
อานุภาพของระเบิดลูกนี้ก็ทำให้หลายคนคาดว่า อีกไม่นานพวกเราอาจจะได้ยินข่าวเรื่องการหย่าร้าง เพราะการนำเรื่องส่วนตัวของภรรยามา "ประจาน"ต่อคนทั้งโลกนั้นถือว่าขาดความเคารพให้เกียรติกันอย่างไม่มีทางแก้ตัวไปทางอื่นได้

โดยเฉพาะประเด็นการทำแท้งซึ่งเป็นเรื่องเปราะบางและยังมีคนมากมายที่ต่อต้านนั้นสวนทางกับภาพลักษณ์ของแบรนด์Kar- Jenner พวกเค้าคือครอบครัวทรงอิทธิพลที่นำเสนอความรักในครอบครัวอันเหนียวแน่น สาวๆทุกคนพูดถึงความฝันในการเป็นแม่คน Kim และ Khloe เปิดเผยเรื่องปัญหามีบุตรยากและพยายามฝ่านฟันเพื่อจะตั้งท้องให้ได้ ทั้งๆที่อาจจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อร่างกาย


แต่เมื่อ Kanye ประกาศว่า ภรรยาหายาขับไว้พร้อมแล้ว แต่ตัดสินใจอุ้มท้องต่อไปและช่วยให้ลูกสาวคนโตได้มีชีวิตอยู่ โลก internet ก็อื้ออึงไปด้วยคำถาม...



-  นี่คืออาการแบบ manic episode ใช่หรือไม่ 




ไม่น่าแปลกใจที่สื่อดังและชาวเน็ทเชื่อว่า อาการป่วย ฺBipolar ของ Kanye ได้เข้าสู่ manic episode  ที่อารมณ์จะ swing พลุ่งพล่านผิดปกติ ที่เคยเกิดขึ้นจนเจ้าตัวต้องถูกส่งโรงพยาบาลจิตเวชมาแล้ว   เมื่อเปรียบเทียบอาการจากข้อมูลทางวิชาการจาก https://med.mahidol.ac.th  จะพบพบอาการที่สอดคล้องกันหลายประการ



    1. มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมาก หรือมีความคิดว่าตนยิ่งใหญ่ มีความสามารถ

Kanye ยืนยันเรื่องอัจฉริยภาพและความยิ่งใหญ่ของตัวเองที่ทัดเทียมกับอัจฉริยบุคคลระดับโลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

     2. ความต้องการนอนลดลง (เช่น ได้นอนแค่ 3 ชั่วโมงก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว)

มีรายงานว่าเขาแทบไม่หลับไม่นอน และหมกมุ่นหาอะไรทำไม่หยุด

    3.พูดคุยมากกว่าปกติ หรือต้องการพูดอย่างไม่หยุด 

    4.ความคิดแล่น คิดมากหลายเรื่องพร้อมๆ กัน หรือผู้ป่วยรู้สึกว่าความคิดแล่นเร็ว

    5.วอกแวก (ได้แก่ ถูกดึงความสนใจได้ง่าย แม้สิ่งเร้าภายนอกจะไม่สำคัญหรือไม่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่สนใจอยู่ในขณะนั้น

    6. มีกิจกรรมซึ่งมีจุดหมาย เพิ่มขึ้นมาก (ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การงานหรือการเรียน หรือด้านเพศ) หรือ กระสับกระส่ายมาก


แม้จะสมัครเข้ารับการเลือกตั้ง แต่เมื่อเริ่มพลุ่งพล่านทาง social media ก็ประกาศ ว่าจะปล่อย project งานเพลงออกมาเร็วๆนี้

    7.หมกมุ่นอย่างมากกับกิจกรรมที่ทำให้เพลิดเพลินแต่มีโอกาสสูงที่จะก่อให้เกิดความยุ่งยากติดตามมา (เช่น ใช้จ่ายอย่างไม่ยับยั้ง ไม่ยับยั้งใจเรื่องเพศ หรือลงทุนทำธุรกิจอย่างโง่เขลา)

แม้จะเคยประกาศไว้นานแล้วว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แต่ระบุไว้ว่าจะเข้าร่วมชิงตำแหน่งในปี 2024 แต่จู่ๆเขาก็สมัครในปีนี้โดยที่ไม่มีการเตรียมพร้อม ทั้งๆที่มันเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่ต้องใช้งบประมาณสูงลิ่ว และต้องมีทีมที่ปรึกษามากประสบการณ์และการอุทิศตนให้กับแคมเปญนี้อย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่า แม้ Kim จะเคยเออออและให้เสียงสนับสนุนต่อความฝันทางการเมืองของสามี แต่การตัดสินใจกะทันเข้าร่วมการเลือกตั้งอย่างกะทันหันนั้นกลับไร้ reaction ใดๆ จากครอบครัว Kar-Jenner นอกจาก Kim ที่retweet ข่าวนี้เท่านั้น




- ชาวเน็ทแบ่งฝักฝ่าย ใครควรจะเป็นผู้รับผิดชอบเพื่อช่วยเหลือ Kanye ให้รับการรักษาความเจ็บป่วยทางจิต 



Kim กลายเป็นเป้านิ่งให้ชาวเน็ทโจมตีว่ามัวแต่โอนอ่อนตามใจสามี และนิ่งเฉยไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือให้เขาได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และกลายเป็นว่า คนเป็นพ่ออาจจะมอบตราบาปที่ฝังติดในใจลูกสาวคนโตที่จะต้องเติบโตมาเพื่อพบว่า เคยเป็นที่ไม่ต้องการและเกือบไม่ได้เกิดมาใช้ชีวิต กลุ่มคนที่ไม่ปลาบปลื้มครอบครัวนี้เป็นทุนเดิมยังเยาะเย้ยว่า ป่านนี้ Kris Jenner คงจะประชุมหาพล็อทใส่ใน reality show ไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่ยังมีอีกหลายความเห็นที่ได้โต้แย้งว่า   Kanye ปฏิเสธการใช้ยารักษาอาการ  (  เขาบอกว่าเมื่อใช้ยาแล้วผลข้างเคียงของมันทำให้ไอเดียความสร้างสรรค์ไม่บรรเจิดเหมือนเดิม)   และไม่มีใครสามารถบังคับผู้ที่บรรลุนิติภาวะให้รับการบำบัดรักษาได้  มันจึงไม่ยุติธรรมนักหากจะยัดเยียดว่าพฤติกรรมและคำพูดที่สร้างความอื้อฉาวและทำลายชื่อเสียงของ Kanye เป็นความผิดของ Kim


- หลายคนปักใจ  นี่เป็นแค่วิธีปั้นstory เพื่อสร้างกระแสสไตล์บ้านนี้ 


แม้ประเด็นเรื่องความคิดในการทำแท้งจะกระทบใจผู้คนมากมาย แต่คุณอาจจะต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่า นี่คือการใช้ดราม่าแบบหวังผลโดยการร่วมมือเตี๊ยมกันของบ้านนี้ จากอดีตที่เคยถูกกล่าหาว่า "โป๊ะ" เรื่องการสร้างกระแสด้วยการปลอมดราม่าเพื่อดึงเรตติ้งreality show และวิธี PR ด้วยความฉาวทำให้เกิดความกังขาว่า คำพูดช็อคโลกของKanye จะมีความน่าเชื่อถือเพียงใด



แต่ดราม่าระเบิดทำลายล้างภาพลักษณ์ของบ้าน Kar-Jenner ลูกใหม่ก็อาจจะทำให้คนที่คิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่การสร้างกระแสต้องเปลี่ยนใจหันมาคิดใหม่ เพราะคราวนี้ Kanye ได้บอกเป็นนัยๆว่า ภรรยาที่เขารักมากมายเคยนอกใจไปกับแร็พเพอร์รุ่นน้องจนเขาพยายามทำเรื่องหย่า!




Kanye จัดหนัก     Kim ไปพบ Meek Mill    จริงหรือ ?



เขาโชว์ให้ชาวเน็ทเห็นจะๆว่า Kris พยายามหลบเลี่ยงไม่พูดคุยด้วย และมันยิ่งกระตุกอารมณ์เขาให้พุ่งไปกว่าเดิมจนยื่นคำขาดว่า หากไม่ยอมพูดด้วยก็คงอยากจะทำสงครามกันสินะ



โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน   Kanye แฉภรรยาที่เพิ่งจะบอกว่ารักมากไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนว่า    เธอไปพบ Meek Mill  ที่ห้องในโรงแรม และเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาพยายามขอหย่ากับเธอ และนั่นมันเกิดขึ้นตั้งแต่ Kim เริ่มโครงการช่วยเหลือนักโทษ ซึ่งผ่านมาเกินหว่าหนึ่งปีแล้ว!  

ยังไม่พอ เขายังเปรียบเทียบ Kris Jenner ว่าเป็นเผด็จการโดยตั้งชื่อให้เธอว่า คริส จองอึน!


 และกราดใส่เมียและแม่ยายว่าเป็น "พวกคนขาวที่ยกตัวว่าสูงส่งกว่า race อื่น"   เพราะพวกเธอได้ส่งคำแถลงการณ์ออกสื่อโดยที่เขาไม่ได้เห็นชอบ  


เขาอธิบายเเรื่องชู้สาวของภรรยาว่า Meek Mill เป็นพรรคพวกเดียวกันและให้ความนับถือเขาเป็นอย่างดี แต่ Kim ต่างหากที่ล้ำเส้น
OMG!


เรายังไม่พบภาพที่ Kimและ Meek อยู่ด้วยกัน แต่พวกเค้าเคยพบกันผ่านproject ช่วยเหลือนักโทษจริงๆค่ะ Meek ออกมาชื่นชมราชินี internet ว่า เธอทุ่มเทให้กับงานนี้มากกว่าคนดังที่มีประสบการณ์ต้องโทษในเรือนจำซะอีก ( Meek เคยคิดคุกมาก่อนและกลายมาเป็นแรงผลักดันให้เขาหันมาทำงานช่วยเหลือนักโทษให้คืนกลับสังคมได้)

เขารู้จักกับสาวๆบ้าน Kar-Jenner (ที่นิยมคบหากับแร็พเพอร์  และเคยชื่นชมความ sexy ของ Kourtney ทาง Instagram มาแล้ว


และยังพาดพิงไปถึง Drake  ด้วยการเอ่ยชื่อขึ้นมาให้คนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับข่าวลือเมื่อสองปีก่อนว่า Kim แอบคบชู้กับ Drake  อันเป็นแรงบันดาลใจของเนื้อเพลง In  My Feelings ที่พูดถึงหญิงสาวชื่อ Kiki  ( ชื่อเล่นของ Kim )  และแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะปฏิเสธ     Kanye ก็เคยเปิดใจว่า รู้สึกไม่สบอารมณ์กับเพลงนี้  และตักเตือนแร็พเพอร์รุ่นน้องไปว่า  ถ้าเกิด Drake แต่งงานกับ Rihanna เค้าก็จะไม่แต่งเพลงที่พูดถึงผู้หญิงชื่อ Riri  และอย่าทำเป็นเหมือนว่าไม่รู้ว่าข่าวลือมันมาจากไหน  เพราะตัวเองเป็นคนสุมไฟให้คนอื่นคิดว่าแอบมีอะไรกับภรรยาเค้าแท้ๆ

หากยังจำกันได้ หนึ่งใน meltdown อันลือลั่นของ Kanye คือการแฉ ฺBeyonce กลางคอนเสิร์ตตัวเองว่าเธอใช้อิทธิพลของตัวเองบีบMTV เพื่อคว้ารางวัล V.M.A. และโจมตีเพื่อนซี้อย่าง Jay Z ว่าจ้างนักฆ่ามาคอยตามเอาชีวิตเขา ผลของการกระทำครั้งนั้นคือ บ้าน Carter ตัดความสัมพันธ์กับ Kanye ไปอยู่นานสองนาน Jay Zเพิ่งจะกลับมามองหน้าพูดจากับ Kanye ได้ไม่กี่เดือนมานี้เองค่ะ (และเชื่อว่าคงจะไม่สนิทสนมหมดใจกันเหมือนเดิม)

คำถามต่อมาคือ   จะเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของ KimYe  ในเมื่อเขาไม่ใช่เพียงเพื่อนสนิท แต่เป็นทั้งสามีและเพื่อนของลูกทั้งสี่คน  ไหนจะความสัมพันธ์ระหว่างแม่ยาย - ลูกเขยที่อาจจะแตกแยกเกินเยี่ยวยา  เพราะ Kanye นำประเด็น " ขายลูกกิน"   มายำ Kris ซะจนเละเทะ ราวกับตัวเองเป็น hater ของครอบครัว Kar- Jenner

"ผมอุทิศชีวิตต่อพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อมั่นใจว่าแม่ของ North จะไม่มีวันไปถ่ายภาพเธอตอนโพสถ่ายแบบให้กับ Playboy และนั่นเป็นความประสงค์ของพระองค์ ผมอยู่ที่บ้านในฟาร์มนี่แหละ มาเอาตัวผมไปให้ได้สิ "


"ผมจะทุ่มทั้งชีวิตเพื่อการรันตีว่า แม่ของ North จะไม่มีทางเอา sex tape ของเธอมาขาย"   (  น่าจะเป็นการสะกดผิด จาก tape เป็น rape  ค่ะ  )

"ใครก็รู้ทั้งนั้นว่า หนัง Get Out มาจากเรื่องของผมเอง"



" Kris  อย่ามาทำเป็นล้อเล่นกันนะ มาหาว่า calmye ไม่น่าไว้วางใจที่จะอยู่ใกล้ลูกๆของตัวเองเนี่ยนะ    พวกคุณทั้งหมดพยายามจะจับผมขังไว้"


 เขาแฉว่า  Kim พยายามพาหมอมาควบคุมตัวเขาไว้และเปรียบเทียบตัวเองเหมือนตัวเอกในหนัง Get Out ซึ่งมันก็เป็นตลกร้ายดีๆนี่เอง  เพราะเคยมีคนทำ meme ล้อเลียน Kanye ที่แต่งงานเข้าไปอยู่ท่ามกลางผู้หญิงผิวขาว (ลูกครึ่งผิวขาว)   และนั่นก็ทำให้ Kim ปรี๊ดจัด กราดใส่ว่า คนที่คิดอะไรไแบบนี้ได้นั้นงี่เง่ามาก   แต่ Kanye กลับเปรียบเทียบตัวเองว่าเหมือน Get Out เสียเอง




การตัดสินใจของ Kim เพื่อก้าวเข้ามาปกป้องสามีอีกครั้ง 


"ดังที่หลายคนทราบกันว่า Kanye ป่วยเป็น bipolar ใครก็ตามที่ป่วยเหมือนกันหรือมีคนรักที่ป่วยเป็นโรคนี้จะทราบว่าการทำความเข้าใจกับมันนั้นมีความซับซ้อนและสร้างความเจ็บปวดให้มากเพียงใด"



" ชั้นไม่เคยเปิดเผยออกสื่อมาก่อนว่า โรคนี้ส่งผลกระทบต่อสมาชิกครอบครัวที่บ้านมากแค่ไหน เพราะชั้นต้องการปกป้องลูกๆของเราและปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัวของ Kanye ด้วยค่ะ"


" แต่วันนี้ ชั้นคิดว่าควรจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะมีการสร้างมลทินและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพจิต"

" ใครก็ตามที่มีความเข้าใจในเรื่องโรคทางจิตเวชหรือแม้แต่ฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำจะรู้ดีว่า  ครอบครัวจะไร้อำนาจในการแทรกแซง ยกเว้นแต่ว่าผู้ที่เจ็บป่วยจะยังเป็นเด็กอยู่" 



"คนที่ยังขาดความเข้าใจหรือไม่ได้มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มักจะด่วนตัดสินกันโดยที่ไม่ได้เข้าใจว่า ในแต่ล่ะบุคคลจะต้องยินยอมให้ความร่วมมือเพื่อได้รับการรักษาก่อน ไม่ว่าครอบครัวหรือเพื่อฝูงจะพยายามช่วยมากเพียงใดก็ตาม"


"ชั้นเข้าใจค่ะว่า Kanye ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เพราะเค้าเป็นบุคคลสาธารณะและพฤติกรรมบางอย่างของเค้าก็ทำให้ก่อให้เกิดเสียงตอบรับที่รุนแรงและสะเทือนความรู้สึกของผู้คน"

" เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมค่ะแต่ก็เป็นคนที่มีความซับซ้อนที่ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันในฐานะศิลปินและผู้ชายผิวดำ ต้องพานพบกับประสบการณ์อันเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียแม่ไปและต้องรับมือกับความกดดันและความโดดเดี่ยวที่มีโรค bipolarกระตุ้นให้หนักหนามากไปกว่าเดิม






" คนที่สนิทกับ Kanye จะรู้ว่าเค้าคิดยังไงและเข้าใจว่า ในบางครั้ง คำพูดของเค้าจะไม่สอดคล้องกับเจตนาจริงๆ"

" การใช้ชีวิตไปกับโรค bipolar ไม่ได้ทำให้ความใฝ่ฝันและความคิดอันสร้างสรรค์ของเค้าลดน้อยลงหรือใช้การไม่ได้ ถึงแม้ว่าสำหรับบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นความฝันหรือไอเดียที่ยากจะทำให้สำเร็จ นี่คือส่วนหนึ่งของความอัจฉริยะของเค้าค่ะ และเราก็ได้เห็นเป็นประจักษ์พยาน ความฝันหลายอย่างของเค้าก็ได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว"


"สังคมได้พูดถึงประเด็นสุขภาพจิตในแง่ที่ดี อย่างไรก็ตาม เราควรจะปล่อยให้แต่ล่ะบุคคลได้

"ชั้นขอความกรุณาให้สื่อและสังคมมอบความเห็นใจและเข้าใจในความรู้สึกของพวกเราเพื่อที่พวกเราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้"

" ขอบคุณสำหรับคนที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของ Kanye และความเข้าอกเข้าใจของพวกคุณ ด้วยความรักและความซาบซึ้ง"

และเธอลงชื่อว่า Kim Kardashian West ค่ะ



นี่คือครั้งแรกที่ Kim ยอมรับถึงความเจ็บปวดจากการใช้ชีวิตกับสามีที่เจ็บป่วยทางจิตใจ   เธอเคยปกป้องเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจาก tweet อื้อฉาว และยืนหยัดมั่นคงว่าทั้งรักและชื่นชมในอัจฉริยภาพของสามี  แม้คำพูดของKanye จะนำมาซึ่งความอับอายให้เธอและครอบครัวถึงขั้นที่ชาวเน็ทจำนวนมากยุให้ Kim รีบจบชีวิตแต่งงานที่นำแต่เรื่องปวดหัวสักที   แต่อีกด้านหนึ่ง    คนที่มีประสบการณ์ใช้ชีวิตกับผู้ป่วย bipolar หรือคนที่ป่วยโรคนี้เองได้แสดงความเห็นอกเห็นใจครอบครัว (โดยเฉพาะเด็กๆที่ไร้เดียงสา) ที่ต้องพบกับวิกฤติที่ยากจะรับมือ        

จากการสำรวจโลกออนไลน์  กระแสการตอบรับของชาวเน็ทนั้นเป็นไปในทิศทาง

" จะช่วยให้ Kanye รับการรักษาได้อย่างไร? "

มากกว่าความกกระหายอยากรู้เรื่องข่าวฉาวโฉ่ว่า

" Kimแอบนอกใจกับ Meek Mill หรือ Kanye มีอาการหวาดระแวง ?"


แม้จะมีความเห็นมากมายที่จิกกัดครอบครัว Kar- Jenner อย่างเผ็ดร้อนไม่ต่างจากที่ผ่านมา  แต่ก็มีกำลังใจหลั่งไหลให้พวกเค้าหว่านล้อมให้ Kanye ยอมรับการรักษาให้ได้  เพราะความร้ายกาจของโรคนี้ทำร้ายผู้คนไปแล้วมากมาย


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE