!! สายมูถูกใจสิ่งนี้ !!

ใครที่เคยไปขอพรที่นี้ ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า "ศักดิ์สิทธิ์จริง"

ขอแล้วสมหวังดังใจ ... ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องลองมาขอดูสักครั้งค่ะ

สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดและความเป็นมา

วันนี้ จะมาเล่าให้ฟังกันค่าา ไปชมกันเลย

“เทียนฐาน” เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่สร้างขึ้นสำหรับกบัตริย์จีนเสด็จไปสักการะบูชาฟ้าดินโดยเฉพาะ สถาปัตยกรรมของตำหนักและลานขอพรใช้รูปทรงกลมเป็นต้นแบบเนื่องจากความเชื่อของชาวจีนในสมัยโบราณที่ว่าสวรรค์กลม

จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของประเทศจีน ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการก่อสร้างเทียนฐานโดยตรง คือ “ก๊กซือ” ในภาษาจีน คำว่า ”ก๊ก” หมายถึง “ประเทศ” และคำว่า “ซือ” หมายถึง “อาจารย์”

“ก๊กซือ” เป็นขุนนางใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดเแผนบริหารประเทศชาติทั้งหมดซึ่งฮ่องเต้ต้องปฏิบัติตามทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องศึกสงคราม ในกรณีที่ “ก๊กซือ” ไม่สามารถทำให้ฮ่องเต้ปฏิบัติตามไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด “ก๊กซือ” ผู้นั้นจะถูกปลดทันที

เทียนฐานแห่งแรกได้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ซึ่งปกครองจีนระหว่างระหว่างปี ค.ศ. 1368-1644) มีการบูรณะซ่อมแซมเพื่อรักษาสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าไว้ และปัจจุบันจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงปักกิ่ง

"เทียนฐานแห่งที่สองของโลก" ตั้งอยู่ที่ มูลนิธิสุสานฮูลิน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

ได้เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 2011 โดย ท่านอาจารย์ เกรียงไกร บุญธกานนท์

ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิสุสานฮูลิน

จากการสำรวจพื้นที่โดยละเอียด ปรากฏว่าว่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฮูลินมีชัยภูมิที่ถูกต้องตามหลักตำราโบราณทุกประการ ท่านอาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ ได้ทุ่มเทเวลาหลายปีในการตระเตรียมงานสร้างเทียนฐานเมืองไทยให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชิ้นเอกที่ทุกคนสามารถเดินทางไปกราบไหว้สักการะบูชาได้สะดวก เป็นเทียนฐานแห่งที่สองของโลกซึ่งเอื้อประโยชน์แก่การกราบไหว้ขอพรฟ้า

โดยที่ "เทียนฐานเมืองไทย" ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาภายในอาณาเขตกว่า 4000 ไร่

ของมูลนิธิสุสานฮูลิน เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่มีองค์ประกอบของชัยภูมิสำคัญครบครัน

องค์ประกอบของชัยภูมิที่สำคัญของเทียนฐาน

1. จะต้องมีภูเขา 2 ลูก ชนติดกันเป็นหยินหยาง ตำแหน่งที่ปลายเขาทั้ง 2 มาชนกันเรียกว่าตำแหน่ง “สะดือดิน” ส่วนที่ปลายเขาทั้ง 2 ก่อนมาชนกันเรียกว่า “สายสะดือ”
   -   สะดือดิน คือ ตำแหน่งที่สักการะบูชาฟ้าดิน
   -   หัวใจฟ้า คือ ตำแหน่งลานขอพร
   -   เทียนฐาน คือ ที่ประทับฮ่องเต้
   
   

2. บริเวณนั้นต้องมีภูเขาล้อมรอบเสมือนกำแพงเมือง
   
   

3. ตำแหน่ง 315° ของ “หัวใจฟ้า” คือ ตำแหน่ง “ประตูสวรรค์” และเบื้องหน้าของตำแหน่งนี้จะต้องมี “ประตูภูเขา” คือ มีภูเขา 2 ลูกที่ห่างกันออกมาเป็นช่องเขา

นอกจากต้องมีชัยภูมิครบถ้วนแล้ว การที่จะทำให้สถานที่นี้เกิดความศักดิ์สิทธิ์จำเป็นต้องมีพิธีกรรมที่สำคัญที่สุด 3 พิธี ดังนี้

พิธีเริ่มต้นกระทบดินครั้งแรก

1.   พิธีดึงพลังดินขึ้นท้องฟ้า

2.   พิธีดึงพลังท้องฟ้าลงสู่ดิน

3.   พิธีเปิดประตูสวรรค์

จาก 3 พิธีกรรมที่ระบุข้างต้น พิธีกรรมที่สำคัญมากๆ คือ 2 และ 3

** หากพิธีกรรมทั้งสองนี้ไม่สำเร็จจะต้องรออีก 12 ปี จึงสามารถประกอบพิธีกรรมใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง **

หัวใจฟ้า ซึ่งอยู่ ณ จุดกึ่งกลางของลานขอพรฟ้า ได้มีการจัดสร้างตามพิธีกรรมที่ถูกต้องและสมบูรณ์ โดยใช้ฤกษ์เฉพาะในการประกอบพิธีกรรมหัวใจฟ้า และปฏิบัติตามพิธีกรรมทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน ยังผลให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติดังที่ระบุไว้ในตำราฮวงจุ้ยขณะประกอบพิธีกรรมอย่างน่าอัศจรรย์ และได้สร้างความปิติยินดีเหนือคำบรรยายให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมพิธีกรรมในครั้งนี้

จึงกล่าวได้ว่า “เทียนฐานเมืองไทย”

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรแก่การสักการะบูชา

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

และความสุขความเจริญของครอบครัวโดยแท้

พออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว อยากจะลองไปไหว้ขอพรฟ้าสักครั้งในชีวิต แนะนำให้เตรียมตัวก่อนไปไหว้ ดังนี้ค่ะ

1. สามารถไปขอพรได้ทุกวัน หรือจะเช็ควันฤกษ์ดีจากแฟนเพจเฟสบุ๊ค HULIN

2. วางแผนการเดินทางให้ไปถึงมูลนิธิฮูลินก่อน 11.00 น. เนื่องจากเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการขอพร คือ 11.00-13.00 น.

3. เข้าไปที่มูลนิธิฮูลิน จ.สระบุรี เพื่อรับเอกสารอธิบายการขอพรกันก่อน จะได้รู้ว่าควรขอพรที่ภูมิอะไร สำหรับพรข้อนั้นๆ แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่มูลนิธิได้เลย เจ้าหน้าที่จะอธิบายวิธีการให้ฟังค่ะ

4. ก่อนไปขอพร 3 วัน ให้ทานเจ แต่ถ้าไม่สะดวกจะเป็นมังสวิรัติก็ได้

5. เตรียมเครื่องแต่งกายสีสุภาพ และถุงเท้า เนื่องจากพื้นช่วงกลางวันร้อนมาก การใส่ถุงเท้าจะช่วยให้เดินสะดวกขึ้นค่ะ

6. เตรียมพรที่ต้องการขอไว้ 1 ข้อ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Line ID : @HulinThai   (มี @ ข้างหน้า)
Facebook Fanpage : HULIN
Instagram : HulinThai888

Youtube : Hulin Thai
Website : www.hulinthai.com
☎️ 02-266-5846 , 02-234-9358
[จันทร์ - เสาร์ เวลา 07.00 - 15.00 น. ]