ริมเลเฮ้าส์… ไม่มีเขาก็มาได้นะ :’)
Tanutchaporn Priintt 42 11สวัสดีค่าาาาาา วันนี้เหมียวเหมียวจะพาไปทำความรู้จักกับ ร้าน“ Rimray house bangsaen ” ? เป็นร้านคาเฟ่ที่เหล่า นักเรียน นิสิต และนักท่องเที่ยวบอกว่าเป็นร้านลับกันเลยล่ะค่ะ มีทั้งเครื่องดื่มและอาหาร แถมยังมีบรรยากาศร้านที่ดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย รับรองได้ว่าใครมาแล้วจะต้องติดใจแน่ๆ ค่ะ (❁´◡`❁)
ร้าน Rimray house bangsaen มีจุดกำเนิดขึ้นจากเจ้าของร้านไม่อยากทำงานประจำ และอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เริ่มจากการขายขนมจีนแกงเขียวหวานมีร้านอยู่ในตัวเมืองชลและคิดอยากต่อยอดเป็นร้านคาเฟ่ ทำเลที่สนใจ คือ บางแสน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีนิสิตนักเรียนอยู่ระแวกนี้เยอะ เครื่องดื่ม อาหาร ก็แปลกใหม่ มีความน่าสนใจ ราคาเป็นกันเองเรียกได้ว่าทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย
Rimray house bangsaen ตั้งอยู่ในซอยจรินท์เลยประตูสาธิตพิบูลบำเพ็ญ ด้านขวามือมีร้านตัดผมอยู่ด้านหน้าซอยหรืออีกทางเข้าหนึ่ง สามารถเข้าทางหาดวอนนภา สังเกตง่ายๆหน้าซอยจะมีร้าน ซ้ง หมูกระทะ มีที่จอดรถรองรับลูกค้าทั้งรถใหญ่และรถเล็กกันเลยทีเดียวค่าาาา ???
บทสัมภาษณ์ ”พี่เกด” เจ้าของร้านริมเลเฮ้าส์บางแสน
ข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจ เริ่มจาก ต้นทุน รายได้ รายจ่าย
ต้นทุน : เช่าร้าน ค่าตกแต่งร้าน วัตถุดิบและเครื่องครัว เครื่องทำกาแฟ
รวมแล้วประมาณ เกือบๆสองแสนบาทค่ะ
รายได้ในแต่ละเดือน : ประมาณ 40,000 บาท
รายจ่ายต่อวัน (ไม่รวมค่าจ้างพนักงาน) : ประมาณ 9,000 - 10,000 บาท
????หน้าที่ภายในองค์กร
บาริสต้า ☕ หน้าที่ : ชงกาแฟรับเมนูและแคชเชียร์ , ทำความสะอาดห้องกาแฟ
แม่ครัว ? หน้าที่ : เช็คสต็อค เตรียมวัตถุดิบก่อนเปิดร้าน ทำอาหาร ทำความสะอาดครัว
ผู้ช่วยแม่ครัว หน้าที่ : เตรียมวัตถุดิบให้แม่ครัวทำ ตักข้าวและน้ำซุป ล้างจาน ทำความสะอาดครัว
เด็กเสริฟ ? หน้าที่ : ทำความสะอาดหน้าร้าน เช็ดโต๊ะ เก็บจาน ต้อนรับลูกค้า เสริฟ
เข้าสู่ช่วง Q&A
Meowmeow : ทำเลการตั้งร้านสำคัญอย่างไรคะ?
พี่เกด : ก่อนอื่นเลยนะคะเราต้องดูว่าเราจะให้ร้านของเราไปในแนวทางไหน เพื่อเป็นการตั้งเป้าหมายในการหาทำเลร้านให้เข้ากับร้านในจินตนาการของเรา อย่างเช่นร้านเราโดยส่วนตัวชอบความร่มรื่นและต้นไม้น้ำตก และอยากให้บรรยากาศเหมือนได้ทานอาหารอยู่บ้านแบบชิวๆ เราจึงมาเจอบ้านที่อยู่ในซอยมีต้นไม้ใหญ่และมีพื้นที่ในการรองรับลูกค้าได้พอประมาณ และเราเลือกบางแสนเพราะมีกลุ่มเป้าหมายหลากหลายช่วงอายุ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทำให้เข้าถึงได้ง่ายค่ะ
Meowmeow : หากเปิดคาเฟ่ควรมีความรู้และศึกษาด้านอะไรบ้าง?
พี่เกด : อย่างแรกคือเราต้องสำรวจความพร้อมของตัวเองก่อนว่าพร้อมที่จะทำธุรกิจนี้มากพอหรือยังและเรามีความรู้ที่เกี่ยวกับธุรกิจเรามากพอหรือยัง เช่น การวางแผนว่าเราจะขายให้ใคร จะมียอดขายเท่าไหร่ที่จะเพียงพอต่อต้นทุนและเหลือกำไรที่เราต้องการ หรือจะเป็นความรู้เรื่องเมนูอาหาร เครื่องดื่ม แบบไหนที่จะดึงดูดลูกค้า การตลาดก็สำคัญเช่นเดียวกันการคิดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า พนักงานควรจะมีกี่คนที่จะเหมาะสมกับการทำงานในร้านให้เป็นระบบและรวมไปถึงการตั้งงบประมาณต้นทุนวัตถุดิบในร้านในแต่ละวันต้องคำนึงถึงจำนวนของลูกค้า เช่น วันธรรมดาลูกค้าอาจจะไม่เยอะเราก็จะลดต้นทุนลง ส่วนในวันหยุด หรือ เสาร์อาทิตย์ก็จะเพิ่มต้นทุนหรือวัตถุดิบขึ้นมา และที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือเรื่องกฎหมายเช่นการจ้างพนักงงานต้องมีสวัสดิการอย่างไรบ้าง การเสียภาษีที่ดิน และอื่นๆ
Meowmeow : ทำไมถึงถูกจัดอยู่ในร้านลับบางแสน?
พี่เกด : เมื่อก่อนเราไม่ได้คิดว่าจะมีลูกค้าเยอะเท่าทุกวันนี้อยากเปิดร้านแบบไม่มีลูกจ้าง รับลูกค้าได้เท่าที่เราไหว และด้วยความที่เราชอบให้ร้านเป็นแบบสงบ ชิวๆ เหมือนได้ทานอาหารอยู่ที่บ้าน และเราเจอบ้านหลังนี้ที่อยู่ในซอยเข้าออกได้ไม่ยากนักจึงเลือกตั้งร้านที่นี่ แต่ด้วยทางร้านไม่ได้ติดป้ายหน้าซอยทางเข้าร้านและช่วงนี้มีกระแสการรีวิวร้านอาหารเกิดขึ้น ทำให้มีคนสนใจร้านเรามากขึ้นเกินความคาดหมาย จึงทำให้เราถูกเรียกว่าร้านลับ ที่เราไม่ได้ติดป้ายเพราะกฎหมายของเทศบาลที่จะเก็บภาษีป้ายเราเลยคิดว่ายังไม่ติดป้ายเนื่องจากปัญหาต่างๆด้วยค่ะ
Meowmeow : มีการทำการตลาดอย่างไรบ้างคะ ในยุคที่มีคาเฟ่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดขนาดนี้?
พี่เกด : การตลาดก็จะเกี่ยวกับการคิดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า และ ความคิดสร้างสรรค์ในการคิดเมนูอาหาร เครื่องดื่ม แบบไหนที่จะดึงดูดลูกค้า เช่น การหาเมล็ดกาแฟจากที่ไหนที่จะเหมาะกับทางร้าน เมนูอาหารที่แปลกใหม่และเป็นจุดเด่นให้กับทางร้าน และ อย่างเช่นทางร้านจะจัดเมนูใหม่หนึ่งในทุกๆสัปดาห์ที่แตกต่างกันไป เพื่อสร้างความน่าสนใจและทำให้เมนูอาหารไม่น่าเบื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าได้อีกทางหนึ่งเช่นกันค่ะ
Meowmeow : มีคติประจำใจในการทำงานบ้างไหมคะ ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย?
พี่เกด : จะเป็นการให้กำลังใจของเราในแต่ละวันมากกว่าค่ะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวันไหนจะได้กำไรเยอะหรือน้อย และต้องเจอปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง ก็จะเป็นการให้กำลังว่าถ้าวันนี้ได้น้อยก็ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ก็สู้ใหม่ หรือถ้าได้มากก็อย่าลืมพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เพื่อลดความบกพร่องและได้เรียนรู้ปัญหาจะได้นำไปปรับปรุงและต่อยอดต่อไป
จบไปแล้วกับบทสัมภาษณ์จากพี่เกดเจ้าของร้านริมเลเฮ้าส์บางแสน เป็นอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ ไขข้อสงสัยได้บ้างไหมคะ หรือสร้างกำลังใจและไอเดียในการทำธุรกิจคาเฟ่ในอนาคตของเพื่อนๆได้มากน้อยแค่ไหนน้าาาา อย่าลืมมาแชร์กันนะคะ เหมียวเหมียวอยากรู้ > <
อะอะอะอ่าววว อย่าเพิ่งปิดหนีกันไปไหนนน!!
เรามาเที่ยวและดูบรรยากาศในร้านริมเลเฮ้าส์กันต่อดีกว่าว่าน่าสนใจแค่ไหนอิอิ ^^
ทางร้านมีเมนูที่น่าสนใจมากมาย ในด้านของเมนูอาหารเราขอแนะนำ ข้าวยำปลาข้าวสาร เป็นข้าวยำที่มีกลิ่นหอมของปลาข้าวสาร และรสชาติ เปรี้ยว เผ็ด ถือว่าครบรสมากๆค่ะคุณผู้ชม และยังมี หมี่อิ๊ว เป็นหมี่เหลืองคลุกซีอิ๊วและกระเทียมเจียวหอมๆ มีความกรอบของกากหมูเจียว ทานพร้อมกับคอหมูย่าง เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะคุณผู้ชม และอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ข้าวแมว ?? ( แต่คนกินนะจ๊ะ ฮ่าๆ ) เป็นข้าวหอมมะลิคลุกปลาทู เสิร์ฟพร้อมพริกสด เป็นเมนูง่ายๆที่ทุกคนต้องเคยทานในวัยเด็ก และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขนมจีนแกงเขียวหวาน ที่เป็นเมนูจุดเริ่มต้นของร้าน ริมเลเฮ้าส์
แล้วที่ขาดไปไม่ได้เลยยย คือ เครื่องดื่ม ที่ดูแล้วอาจจะเหมือนร้านคาเฟ่ทั่วไป แต่มีเมนูที่น่าสนใจและเราอยากจะแนะนำ คือ อัญเตย เป็นน้ำอัญชันผสมน้ำใบเตยมีกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ อีกเมนูที่คล้ายๆกันสำหรับคนที่ชอบรสชาติเปรี้ยว คือ อัญนาว เป็นการผสมผสานระหว่าง น้ำอัญชันกับมะนาว ดื่มไปแล้วสดชื่นมาก เหมาะกับอากาศประเทศเรามากเลยค่ะ และยังมีเมนูเครื่องดื่มอีกมากมาย เช่น สตอเบอรี่อัญชัน นมสดอัญชัน โกโก้ชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มเย็น หรือสมูทตี้ก็ดีทั้งนั้นเลยค่ะ ????