คนดังที่เผชิญข้อกล่าวหาว่าล้ำเส้นเพศหญิง

60 9

พฤติกรรมใดของคนดังที่ถูกบรรยายว่า "ไม่เหมาะไม่ควร"   "ล้ำเส้น"  และ "ไม่ให้เกียรติ" เพศตรงข้าม    เส้นแบ่งระหว่างท่าทางที่เป็นมิตรและการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกลำบากใจจะเป็นเช่นไร   ลองมาถกกันที่นี่สิคะ 


ฉายา creepy Joe ของ Biden


ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของ Joe Biden ทำให้ผู้คนมากมายแสดงความยินดีปรีดา แม้กระทั่งชาวต่างประเทศก็ยังร่วมยินดีกับว่าที่ผู้นำคนใหม่แห่งประเทศมหาอำนาจคนนี้     แต่มีพฤติกรรมหนึ่งที่ทำให้เขาถูกวิพากษ์หนักและยังสร้างความคลางแคลงใจถึงความเหมาะสมในการวางตัวต่อเพศตรงข้าม     ในขณะที่อดีตผู้นำจาก Democrats อย่าง Obama ได้รับเสียงชื่นชมถึงภาพลักษณ์สุภาพบุรุษ   แต่ Biden กลับถูกตั้งฉายาว่า  Creepy Joe ... 


ในสังคมตะวันตก มักจะใช้คำว่า creepy uncle (หรือ pervy ) ล้อเลียนสมาชิกครอบครัวที่ทำให้หลายคนรู้สึกสยองเมื่อถึงวันรวมญาติ บุคคลที่ใช้ความอาวุโสกว่ามาฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวเด็กสาวโดยที่ไม่ได้รับความยินยอม บ้างก็เล่น joke ลามกแสลงหูทำให้อีกฝ่ายต้องอึดอัด และมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของพฤติกรรมที่หนักหนาสาหัสกว่า มีการยืนยันว่าเหยื่อส่วนใหญ่จะต้องทุกข์ทนกับพฤติกรรมของคนในครอบครัวตามที่เราได้เห็นข่าวที่ชวนเศร้าใจมานักต่อนัก  

ภาพของ Biden ที่กำลังหอมผม  - ลูบ - จูบแก้มเพศตรงข้ามตั้งแต่วัยเด็กหญิงไปจนถึงสาวสูงวัยทำให้เขาตกเป็นเป้าการเพ่งเล็ง โดยเฉพาะหลังจากที่มีความเคลื่อนไหว Me Too เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ   แม้จะมีเสียงปกป้องว่า   ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นสิบๆครั้งแสดงถึงอุปนิสัยที่ใช้การสัมผัสร่างกายเพื่อแสดงความเป็นมิตร หรือเอ็นดู  แต่สีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายที่ดูอึดอัด ฝืนใจ และเบี่ยงตัวหนีก็ทำให้เขาถูกโจมตีหนัก  โดยเฉพาะฝ่ายสนับสนุน Trump  ที่ประนามว่า  นี่คือความผิดทางเพศที่ยอมรับไม่ได้
 หลังจากที่ Trump สร้างความฉาวโฉ่จากวลี  grab them by the pussy  และถูกผู้หญิงหลายสิบคนตั้งข้อกล่าวหาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศ  ก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกสิ้นหวังกับประธานาธิบดีคนนี้ และวาดหวังว่าจะร่วมใจกันเลือกผู้นำคนใหม่ที่ห่างไกลจากพฤติกรรมย่ำแย่เหล่านี้  

นิสัยที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า touchy - feely ของ Biden ถูกขยายให้เป็นข้อถกเถียงระดับชาติ เมื่อผู้หญิงที่ทำงานในแวดวงการเมืองสี่คนได้ออกมาเปิดใจในเวลาใกล้เคียงกันว่า   รู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อ Biden จับไหล่ และจูบศีรษะจากทางด้านหลัง     แม้จะอธิบายว่า  มันไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงออกทางเพศ  ไม่ผิดกฎหมาย  แต่ก็ล้ำเส้นความเหมาะสมจนทำให้พวกเธอต้องลำบากใจ 
หลังจากที่ผู้หญิงได้แสดงตัวตนชัดเจนเพื่อโจมตีนิสัน "ถึงเนื้อถึงตัว"    Biden ก้ได้ออกมาชี้แจงว่า  เขาได้ใช้การสัมผัสเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุน ให้กำลังใจ และปลอบโยนผู้คนมาตลอดหลายปี และไม่เคยคิดเลยว่าเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม  แต่หากว่าทำให้ใครคิดไปเช่นั้น ก็จะรับฟังอย่างตั้งใจ และยืนยันว่าไม่เคยตั้งใจล่วงล้ำใคร





John Travolta กับการจู่โจมจูบนางเอกดัง


 reaction ของชาวเน็ทที่มีต่อภาพการจุมพิตทักทายของพระเอกชื่อดังบนพรมแดงนั้นเข้าขั้นโหดหินเลยทีเดียว    หลายคนเห็นตรงกันว่า   เขาไม่ควรจู่โจมจูบแก้มเธอโโยไม่ให้ตั้งเนื้อตั้งตัว อาจจะเว้นระยะการทักทายตามปกติ ภาพที่ออกมาจะได้ดูไม่กระอักกระอ่วนเช่นนี้   แน่นอนว่าทั้งฉายา creepy และ meme ล้อเลียนก็ตามมาเพียบ

แม้นางเอกสาวงามจะออกมาปกป้อง John Travolta ว่า     ภาพที่ออกมาทางสื่อนั้นอาจจะทำให้ผู้คนเข้าใจผิด   เพราะได้จับวินาทีที่ดูอึดอัดใจ  แต่ที่จริงแล้ว เธอยินดีที่ได้พบพระเอกหนุ่มใหญ่ (เพราะไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว)    และเขาไม่ใช้ผู้ชายที่ creepy แต่อย่างใด


ข้อกล่าวหาไม่ได้จบลงที่พรมแดง Oscar เท่านั้น     เมื่อได้ประกาศชื่อของ Idina Menzel บนเวที่  เขาก็ชื่นชมเธอด้วยการเชยคางอย่างรักใครเอ็นดู  และนั่นก็กลายเป็นหนึ่ง moment ที่ทำให้ผู้ชมงุนงงไปเป็นแถว  แม้ฝ่ายหญิงจะยิ้มแย้ม แต่ท่าทางการหัวเราะแบบตื่นๆทำให้หลายคนโจมตีว่า นี่เป้นอีกครั้งที่เขาทำพฤติกรรมล้ำเส้นผู้หญิง   ( Washington Post ตั้งคำถามว่า John Travolta กลายเป็น creepy uncle ตั้งแต่เมื่อไร)

ตัวแทนของ John Travolta ออกมาโต้ข่าวว่า  ภาพที่ได้เห็นบนเวทีนั้นผ่านการซักซ้อมมาแล้วล่วงหน้า   ไม่ใช่ moment ชวนอึดอัดแต่อย่างใด


Morgan Freeman

 ตำนานHollywoodที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมแบบเฒ่าหัวงู

กลายเป็นเรื่องช็อควงการ Hollywood เมื่อมีหญิงสาวแปดคนที่เคยทำงานเป็นผู้ช่วยในกองถ่ายและและตำแหน่งลูกจ้างอื่นๆได้กล่าวหาว่า พระเอกอาวุโสที่ได้รับความนับถือคนนี้เคยทำให้พวกเธอรู้สึกถูกคุกคามจากพฤติกรรมไม่เหมาะสม


- วิจารณ์เรื่องรูปร่างและเสื้อผ้าของพวกเธอที่ส่อไปในทางล่อแหลม เช่น ใส่ชุดชั้นในรึเปล่า จนเป็นที่รู้กันว่า หากจะต้องพบกับ Morgan Freeman พวกเธอจะต้องแต่งกายให้มิดชิดปกปิดช่วงอกและบั้นท้ายและไม่รัดรูป

- แม้แต่นักข่าวที่มาสัมภาษณ์ก็ต้องเจอแซวเรื่องร่างกาย เช่นจังหวะที่ลุกขึ้นแล้วต้องจัดกระโปรงให้เรียบร้อย เขาก็หยอกว่า อย่าเพิ่งดึงลงสิ หรือสาวที่กำลังตั้งครรภ์ก็รู้สึกสตั๊นเมื่อ Freeman บอกว่า อยากจะอยู่ในท้องของเธอจัง และชื่นชมว่าเธอดู "กำลังได้ที่"แล้ว

- สต๊าฟบริษัท production ร่วมเป็นพยานว่า Freeman คือสาเหตุที่ทำให้บรรยากาศที่ทำงานเป็นพิษ อดีตผู้จัดการบริษัทต้องเจอสายตาของพระเอกดังที่จ้องมองไปที่หน้าอกของเธออย่างจาบจ้วง

- พนักงานชายคนหนึ่งบรรยายว่า Freeman มีพฤติกรรมแบบ creepy uncle เขาเคยเจอเหตุการณ์ที่ Freeman กำลังนวดไหล่ให้เด็กฝึกงาน และเธอก็รู้สึกอับอายจนหน้าแดงและพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัส

- ไม่มีใครกล้ารายงานพฤติกรรมนี้เพราะกลัวจะถูกไล่ออก
มันยากที่ Freeman จะหลบเลี่ยงข้อกล่าวหานี้ไปได้  เพราะแม้แต่นักข่าวสาวจากช่องบันเทิงชื่อดังก็ต้องพบกับสถานการณ์ชวนอึดอัด เมื่อพระเอกวัยปู่ได้วิจารณ์เรื่องเดรสสั้นและการนั่งไขว่ห้างของเธอด้วยโทนที่ "หื่น" อย่างไม่ปิดบัง  สิ่งทีเธอทำได้ก็มีแต่หัวเราะอย่างฝืนๆเพื่อเปลี่ยนหัวข้อ   เธอได้เปิดใจต่อประสบการณ์นี้ในภายหลังว่า


"รู้สึกผิดหวังมากจริงๆเมื่อบุคคลที่ถูกยกให้เป็นคุณปู่แห่งชาติได้แสดงพฤติกรรมที่ย่ำแย่ เขามั่นหน้ามากพอที่จะทำแบบนี้ต่อหน้ากล้อง เขาจ้องมองและวิจารณ์ร่างกายของฉันก่อนที่จะมองตากันซะอีก"

ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ Freeman ทำให้นักข่าวต้องรู้สึกถูกดูหมิ่น เขาเคยถามอีกฝ่ายว่าแต่งงานแล้วหรือยัง หากยังไม่แต่งงาน หรือว่าเธอกำลังมีอะไรกับชายอายุมากกว่าไปทั่วอยู่ ไม่พอ ยังชื่นชมเรือนร่างของเธอด้วยคำพูด และจ้องมองด้านหลังตอนที่เธอเดินออกไป




CNN สื่อแรกที่เปิดโปงเรื่องนี้ได้รับคำขู่ฟ้องร้องจากฝ่ายกฎหมายของ Freeman แต่ในที่สุด เขาก็ออกมาขอโทษต่อพฤติกรรมที่ผ่านมา และยืนยันว่า เขาเพียงชื่นชมผู้อื่นด้วยอารมณ์ขัน ไม่ได้ใกล้เคียงกับการล่วงละเมิดทางเพศ หากจะดูทำเกินไปกว่าเจตนาที่บริสุทธิ์ใจ ก็ขออภัยต่อทุกคนที่รู้สึกแย่ แต่ก็ขอยืนยันว่า เขาไม่ได้เป็นผู้ก่อสิ่งแวดล้อมแย่ๆในที่ทำงานและไม่เคยล่วงละเมิดผู้หญิง ข้อกล่าวหาเหล่านี้จึงไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด





Aziz Ansari
ตลกหนุ่มที่ต้องพักงานยาวเพราะถูกกล่าวหาว่าบีบให้ผู้หญิงมี sexด้วยในเดทแรก




เขาเป็นนักแสดงตลกที่กำลังรุ่งโรจน์จากโชว์ที่ประสบความสำเร็จจาก Netflix ทั้งซีรีส์และแสดงเดี่ยวไมโครโฟน แต่อาชีพของเขาต้องชะงักไปพักใหญ่ด้วยข้อกล่าวว่าล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆในเดทแรก เธอให้สัมภาษณ์กับ bebe.net ถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่าเป็นฝันร้ายของชีวิตไว้อย่างละเอียด

เรื่องราวย่อๆมีดังนี้ค่ะ
(แม้จะย่อแล้วแต่ก็ยังยาว)

- Ansari พบช่างภาพสาวใน Emmys party และรู้สึกถูกตาต้องใจกันจนให้เบอร์โทรกับเขาไป เธอรู้สึกตื่นเต้นยินดีที่ได้นัดออกเดทกับคนดัง และไปเจอกันที่อพาร์ทเมนท์ของเขาและไปกินอาหารค่ำกันต่อ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

- เขาเชิญชวนให้เธอขึ้นไปที่อพาร์ทเมนท์ เมื่อเธอยืนยอมตามไป เพียงแค่ไม่นาน เขาก็เริ่มจูบเธอและสัมผัสหน้าอกของเธอ เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป หลังจากที่เขาพยายามจะถอดเสื้อผ้าตัวเองและเสื้อผ้าเธอ เธอจึงบอกออกไปว่าให้ใจเย็นๆ และขอเวลาก่อน แต่เขาเริ่มจูบเธอต่อและใช้ปากกับเธอ เขาขอให้เธอใช้ปากให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอตกลงทำ แต่มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาสิบนาที และยังไม่ได้มี sex กันเต็มรูปแบบ

- เธอบรรยายความพยายามในการเล้าโลมของ Ansari ที่ทิ่มสองนิ้วเข้าไปในช่องปากของเธอ และพยายามใช้นิ้วสอดใส่ที่ตรงนั้นของเธอ และพยายามดึงมือของเธอไปสัมผัสของลับ แต่เธอได้แสดงว่าไม่เต็มใจด้วยการชักมือกลับอยู่หลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้เธอออกห่าง แม้เธอจะพยายามส่งสัญญาณและใช้คำพูดว่าไม่ต้องการไปต่อ

- เขาพร่ำถามว่าจะมีอะไรกันตรงไหน ในใจของเธอนั้นไม่ต้องการจะทำอะไรต่อ แต่ก็ตอบไปว่า รอจนเดทครั้งต่อไปก็แล้วกัน เขาจึงพยายามเทไวน์ให้เธอดื่มเพิ่ม เธอจึงขอตัวเข้าห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่อยากจะรู้สึกเหมือนกำลังถูกฝืนใจให้ทำอะไร เพราะไม่อยากจะเกลียดคุณ เขาดูรับฟังมากขึ้นและโน้มน้าวให้เธอนั่งโซฟาเพื่อ "ชิล" ด้วยกัน เธอหวังว่าเขาจะปลอบประโลมให้เธอเบาใจด้วยการลูบหลังหรือเล่นผมเธอเบาๆ แต่เขากลับโชว์เจ้าโลกและส่งสัญญาณให้เธอใช้ปากให้อีกครั้ง


- หลังจากที่พาย้ายเธอไปห้องอื่นในอพาร์ทเมนท์และพยายามมี sex กับเธอ ในที่สุดเธอก็บอกไปตรงๆว่า ไม่พร้อมที่จะทำเรื่องนี้ และไม่คิดว่าจะทำ เขายอมถอยและชวนเธอไปดู TV แล้วก็พยายามทำแบบเดิม นิ้วของเขาทิ่มเข้าไปที่คอเธออีก เขาจูบโดยที่ไม่เต็มใจ จนเธอต้องยืนยันว่าจะโทรเรียกรถ สุดท้ายเขาจึงขอเป็นฝ่ายเรียกรถให้เอง เธอร้องไห้ตลอดทางกลับบ้านเพราะรู้สึกถูกล่วงเกิน

- เธอเปรียบเทียบการกระทำของตลกหนุ่มว่าเหมือนกับเด็กหนุ่มสุดหื่นวัย 18 ที่ทั้งหยาบกระด้างและเอาแต่ใจ เธอให้เหตุผลที่ไม่รีบหนีกลับทั้งๆรู้สึกฝืนใจ เพราะกำลังช็อคอยู่ สิ่งที่เธอคาดหวังไว้ห่างไกลกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมา

- เขาส่งข้อความมาทักทาย และเธอตัดสินใจระบายความรู้สึกออกไปว่ารู้สึกแย่มากแค่ไหน และอยากจะให้เขาสำนึกถึงการกระทำเพื่อต่อไปจะได้ไม่ทำให้ผู้หญิงคนอื่นต้องร้องไห้ระหว่างนั่งรถกลับบ้านอีก เขาขอโทษขอโพยกลับมา และบอกว่าเป็นความผิดของเขาเองที่อ่านสัญญาณจากเธอผิดไป

- เธอไม่ติดต่อกับเขาอีกจนกระทั่งได้เห็นเขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ ทำให้เธอรู้สึกขนลุกที่เขาติดเข็มกลัด Time's Up ร่วมงาน เธอเชื่อว่า ฝ่ายชายได้ฉวยโอกาส ไม่ยอมรับฟังและเมินเฉยต่อความต้องการของเธอ จึงตัดสินใจติดต่อสื่อเพื่อบอกเล่าเรื่องราว จนกลายเป็นข่าวฉาว

- Ansari ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นี้ แต่ก็ยืนยันว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย





การถูกแฉครั้งนี้ทำให้ Ansari เก็บตัวเงียบจากสังคมไปเป็นปี และมันก็ได้สร้างข้อถกเถียงในสังคมว่า เขาได้ล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบของ date rape และะสาสมที่ได้รับบทลงโทษ หรือว่าฝ่ายหญิงผิดหวังที่ถูกรุกหนักจนเลยตามเลยอย่างฝืนใจในเดทแรก แต่นั่นไม่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ และถึงตอนนี้ก็ยังมีการตั้งคำถามว่า พฤติกรรมของ Ansari มีความร้ายแรงจนควรจะถูกแบนจากวงการหรือไม่

นักแสดงตลกสาวชื่อดัง Amy Schumer ได้ให้ความเห็นว่า สิ่งที่ Ansari ทำลงไปนั้นไม่สามารถยอมรับได้ แต่ก็ไม่ใช่อาชญากรรม แม้จะไม่อาจดำเนินคดีในเรื่องนี้ แต่ก็ทำร้ายจิตใจผู้หญิง เธอจึงแนะนำว่า ผู้หญิงควรจะปฏิเสธด้วยคำว่าไม่อยากชัดเจนเมื่อรู้สึกไม่สบายใจและถูกฝืนใจ

ปีที่แล้ว Ansari  กลับมาแสดงเดี่ยวไม่โครโฟนอีกครั้ง และเขาก็ได้เปิดใจต่อหน้าผู้ชมว่า  ทั้งหวาดกลัว อับอาย รู้สึกผิดที่อีกฝ่ายรู้สึกย่ำแย่  เมื่อเวลาผ่านพ้นมาเป็นปี เขาจึงหวังว่าจะก้าวต่อไปและพยายามจะเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น




ทุกวันนี้ ผู้คนได้หันมาจริงจังกับเรื่องการยินยอม ( consent) มากขึ้น เด็กๆได้รับการปลูกฝังให้หวงแหนร่างกายไม่ให้ใครมาแตะต้อง หากเป็นที่ทำงาน HR จะต้องมีมาตรการจัดการกับผู้ที่ใช้คำพูดที่ส่อไปในเพศและถูกเนื้อต้องตัวเพื่อนร่วมงานอย่างไม่เหมาะสม    แม้กระทั่งคู่เดทที่มีความพึงใจกัน หากมีคำยืนยันว่า No ก็ต้องหยุดแตะต้องร่างกายอีกฝ่าย

เรื่องราว "การล้ำเส้น" ของคนดังเป็นสิ่งที่พวกเราได้ยินมาแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นเพศใด แทบทุกคนจะผ่านประสบการณ์หรือพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางร่างกาย คำพูดและท่าทางที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ พวกเรายังได้ยินคำอธิบายประเภท "แค่ขำๆ" " บริสุทธิ์ใจ" " คิดน้อยไปหน่อย"อยู่บ่อยคร้ัง การกระทำเหล่านี้อาจจะสร้างรอยแผลใจให้กับใครบางคนไปอีกเนิ่นนาน ส่วนผู้ที่ล้ำเส้นคนอื่นเอง หากเป็นคนดัง ก็ต้องเผชิญกับความกดดันจากสังคม แม้แต่ว่าที่ประธานาธิบดีก็ไม่เว้น

ปัญหาชวนหนักใจก็คือ ถ้าชีวิตจริง คุณต้องเจอกับการล้ำเส้นโดยไม่มีสื่อตามเปิดโปงล่ะ (โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่า) เราจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อย่างไรจึงจะไม่เดือดร้อน...


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE