อู๋จิ่นเหยียน  (Wu Jinyan  )

- เริ่มควบคุมอาหารมาตั้งแต่อายุสิบขวบ   น้ำหนักตัวที่มากที่สุดในชีวิตคือ 48 . 5 กิโลกรัม

คุณอาจจะเคยได้ยินเหตุผลต่างๆจากคนดังเมื่อถูกตั้งคำถามเรื่องรูปร่างที่ผอมบาง ทั้งผอมจากการทุ่มเททำงานหนัก ผอมเพราะระบบเผาผลาญดี ผอมเพราะว่าเป็นคนโครงกระดูกเล็ก แต่นางเอกซีรีส Story of Yanxi Palace ที่โด่งดังถล่มทลายคนนี้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอต้องพยายามเต็มที่เพื่อจะคงรูปร่างผอมไว้ให้ได้

แฟนๆซีรีส์จีนหลายคนอาจจะไม่รู้สึกว่าบรรดานางเอกดังดูผอมชัดเจนนัก   สาเหตุสำคัญคือ costume จากยุคโบราณหรือแม้กระทั่งซีรีส์แนวเทพเซียนแฟนตาซีก็นำเสนอชุดที่อำพรรางรูปร่าง ถ้าไม่ใช่ชุดคลุมที่ดูหลวมๆ ก็อาจจะเป็นชุดทีมีความกรุยกราย ไม่เปิดเผยให้เห็นสัดส่วนเหมือนชุดในยุคโมเดิร์น   แต่เมื่อนักแสดงเหล่านั้นอยู่นอกกองถ่าย  พวกเค้าดูผอมสุดๆ   

เธอได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ TV เรื่องการควบคุมอาหารตั้งแค่เด็กจนทำให้ผู้ชมในห้องส่งฮือฮา นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเธอเคยฝึกบัลเลต์อย่างจริงจังก่อนที่จะเบนสายมาเป็นนักแสดง คุณน่าจะเคยได้ยินเรื่องความกดดันของนักบัลเลต์ที่ต้องควบคุมอาหารให้รูปร่างผอมบางอยู่เสมอ (เลื่องชื่อลือชาว่าเป็นวงการที่อยู่คู่กับโรคปฏิเสธอาหาร) แต่เมื่อเปลี่ยนเส้นทางสู่วงการแสดง เธอก็ยังรักษาความผอมไว้อย่างเหนียวแน่น แม้กระทั่งบทใน Story of Yanxi Palace ก็ยังลดให้ผอมไปยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้แสดงบทบาทนางกำนัลสู้ชีวิตในวังให้สมจริง ด้วยวิธีไดเดทที่เรียกว่า 6-3-1 นั่นคือการแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆถึงสิบมื้อ เธฮจะกินอาหารเช้าแบ่งย่อยเป็น 6 ครั้ง กลางวัน 3 ครั้ง ปิดท้ายเย็นอีกครั้ง ไม่กินคาร์บตอนกลางคืน และกินแต่ข้าวไม่ขัดสีเท่านั้น ทำให้น้ำหนักลงไปที่ 44 กิโลกรัม (น้อยกว่าน้ำหนักปกติของเธอ1 กิโลกรัม) เมื่อนำมาเทียบกับส่วนสูง 165 เซนติเมตรของเธอแล้ว ก็อาจจะทำให้หลายคนคิดว่าเธอน่าจะติดอันดับต้นๆของสาวผอมแห่งวงการบันเทิงจีน


แต่ที่จริงแล้วยังมีเซเลบสาวอีกหลายคนที่ผอมบางไม่ต่างจากอู๋จิ่นเหยียน

เจิ่ง ส่วง (Zheng Shuang)

​
ตอนเป็นนางเอกวัยรุ่นก็ผอมอยู่แล้ว   ยิ่งดังมากเท่าไรก็ดูผอมลงไปทุกที

นางเอกสาวหน้าหวานได้ชี้แจงเรื่องความผอมของตัวเองว่า เป็นคนขี้วิตกกังวล และเมื่อมีเรื่องกลุ้มใจขึ้นมาเมื่อไรก็จะกินข้าวไม่ลง    เรื่องความผอมนี้ทำให้Netizen จีนถกเถียงกันพอสมควร  เพราะหลายคนเชืือว่า ตอนที่เธอเปิดตัวเป็นดาราวัยรุ่นเมื่อสิบปีก่อนก็ผอมมากอยู่แล้ว  แต่กลับผอมลงไปอีกจนน่าใจหาย   แต่ก็มีคนปลาบปลื้มกับการอัพระดับควางามและชื่นชมความมีวินัยของเธอที่ดูแลตัวเองให้สวยล้ำหน้าค่านิยม  

หยางมี่ (Yang Mi)

นางเอกตัวแม่ที่ถูกยกให้เป็นต้นแบบของความผอมบางในอุดมคติ

ดังที่เราได้อธิบายไปแล้วว่า   นางเอกจีนทุกคนจะต้องสวมใส่ costume จีนโบราณมาแล้วทั้งนั้น  ความ"เยอะ"ของดีไซน์และเนื้อผ้าได้อำพรางรูปร่างที่แท้จริงไว้  หรืออีกแง่หนึ่ง  ชุดที่ยาวกรุยกรายเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้หญิงที่ไม่ได้ผอมบางดูตัวใหญ่เมื่อออกจอ  ความผอมบางจึงเป็น goal ที่นางเอกจีนต้องไขว่คว้ามาให้ได้

ภาพทางรายการ TV ที่หยางมี่ดูดเส้นบะหมี่  1 เส้นถ้วนแล้ววางชามกลับคืนทำให้ชาวเน็ทโจษจันไปทางเดียวกันว่า ไม่น่าล่ะเธอจึงรักษาความผอมบางไว้อย่างยาวนาน  แม้จะมีรายงานว่าเจ้าตัวผอมตามธรรมชาติอยู่แล้ว  แต่ก็เป็นทราบกันทั่วไปว่า นางเอกตัวแม่คนนี้ควบคุมการกินอาหารและออกกำลังอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

แฟนๆนิยายจีนโบราณน่าคงคุ้นเคยกับ "น้ำแกง" เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมื้อใด  เราจะได้พบคำบรรยายว่านี่คืออาหารหลักของชนชั้นสูง    ดูเหมือนพงกเค้าจะชื่นชอบการกินน้ำแกงมากกว่าหมูเห็ดเป็ดไก่ซะอีก   และนั่นก็เป็นเทคนิคการดูแลสุขภาพของหยางมี่ผู้ที่คงน้ำหนักไว้ที่ 45 กิโลกรัม  แม้จะเป็นช่วง lockdown ที่หลายคนต่างน้ำหนักตัวพุ่งพรวดกันก็ตาม

หลิวอี้เฟย  (Liu Yi Fei)

ถูกถล่มเละเพราะผอมไม่ถึงมาตรฐานความงามชาวจีน

เทื่อพูดถึงนางเอกระดับซุปตาร์ที่ก้าวไปสร้างชื่อเสียงที่ Hollywood อย่างหลิวอี้เฟย  แฟนๆคงคิดถึงสาวสวยใสที่ดูปราดเปรียวรูปร่างผอมเพรียวตามอุดมคติของชาวเอเชียตะวันออก   แต่เมื่อน้ำหนักขึ้นมาจนสังเกตได้  เธอก็หลีกเลี่ยง fat shaming ไปไม่พ้น

เมื่อเธอได้ออกงานเคียงข้างกับหยางมี่และแองเจล่าเบบี้  เพื่อนนางเอก A List ที่ขึ้นชื่อลืาเรื่องความผอม   หลิวอี้เฟยก็ถูกจัดหนักว่า  ไปโกอินเตอร์เสียเปล่า  แต่ไม่ดูแลตัวเองจนร่างบวมและดูแย่เมื่ออยู่ข้างสาวผอม!

ช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ หลิวอี้เฟยก็ต้อพบวงจรน้ำหนักที่ขึ้นๆลงๆเหมือนกับผู้หญิงมากมายทั่วโลก    แต่ชาวเน็ทจีนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่า นี่เป็นรุปลักษณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้   บางคนกึงกับตั้งคำถามว่าเพราะอะไรเธอจึงไม่ลดน้ำหนักให้กลับไปผอมบางเหมือนเดิมสักที!

แม้จะมีแฟนๆที่ชื่นชมว่า  รูปร่างที่ดูอวบอิ่มขึ้นมาจากช่วงวัยสาวใสนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสวยของหลิวอี้เฟย  แต่เมื่อเธอยืนอยู่ท่ามกลางเพื่อนดาราที่ผอมบางกันแทบทุกคนก็ทำให้มีคนจับเรื่องนี้มาตอกย้ำว่า เธอเป็นนางเอกที่อ้วนที่สุดในกลุ่ม

แม้เรื่องรูปร่างของหลิวอี้เฟยจะกลายเป็น topic ร้อนแรง เธอก็ไม่ได้โต้ตอบคำวิจารณ์ เพียงแต้โพสท์ภาพรูปร่างจากการออกกำลังกายและขอให้ทุกคนรักตัวเอง รักษาสุขภาพที่ไดีเอาไว้

Angelababy   

คุณแม่ผู้ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องเอว 21 นิ้ว

เธอคือเซเลบที่สร้างความสนใจได้ทุกความเคลื่อนไหว และยังถูกจัดเป็นสาวงามอันดับต้นๆในวงการ   แน่นอนว่าเธอยังรักษารุปร่างให้ผอมบางได้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะโลดแล่นในวงการมาตั้งแต่อายุ 14

หลังจากให้กำเนิดลูกชายเมื่อสามปีก่อน ชาวเน็ทสังเกตว่า เบบี้ดูผอมลงไปจากก่อนที่จะตั้งท้องซะอีก  มีรายงานว่า น้ำหนักตัวของเธอใกล้เคียงกับหยางมี่ที่ 45 ก.ก.

หลังจากพิสูจน์ความผอมวัดรอบเอวได้เพียง 21 นิ้วนิดๆ  เธอก็แนะนำว่า จะผอมให้ได้แบบนี้ วินัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  ต้องเคร่งครัดทำให้เป็นนิสัยไม่หลุด  หลังจากกินอาหารเย็น เธอจะไม่นั่งเฉยๆ แต่จะลุกทำนู่นนี่ต่ออย่างน้อยครึ่งชั่วโมง  และจะไม่นอนจนกว่าจะรออาหารย่อยอย่างน้อยห้าชั่วโมง  

เอวบางเป็นกระดาษ A 4 แบบนี้  ร่างกายส่วนอื่นๆก็ดูบอบบางตามไปด้วย  ในบางครั้งที่เธอออกงานในชุดที่เผยผิวด้านบนของอก  กระดูกก็โชว์ตัวออกมาชัดเจนจนมีคนแสดงความกังวลว่าเธอกินน้อยเกินไปจนอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่

เบบี้เป็นสาวที่ไหปลาร้าโผล่ชัดมาแต่ไหนแต่ไร  แต่เมื่อเธอผอมลงไปอีก  ซี่โครงก็ปรากฏชัดขึ้นมากขึ้น

ตี๋ลี่เร่อปา  (Dilreba Dilmurat )

สาวงามที่มีชื่อเล่นติดตัวอย่างยาวนานว่า "ตี๋อ้วน" และเคยถูกต้นสังกัดเตือนให้ระวังไม่ให้น้ำหนักขึ้นไปมากกว่าเดิม

แม้หลายคนจะบอกว่าชื่อเล่นว่า "อ้วน" เป็นเครื่องหมายแสดงความรักจากแฟนๆ ที่ตั้งฉายาให้จากลุคช่วงแจ้งเกิดในวงการที่มีแก้มอิ่มน่าจับ  แต่มันก็ยังน่างงงวยว่า  สาวที่มีรูปหน้าไข่และคางเรียวเป็นธรรมชาติอย่างเร่อปาจะถูกมองเป็นหน้าอ้วนอิ่มไปได้   ไหนยังจะเป็นรูปร่างที่ผอมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร     จากภาพตอนยังเป็นวัยทีนก่อนเข้าวงการก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เธอเป็นสาวเอวบางร่างน้อยที่มีรัศมีเซเลบเปล่งประกายอยู่ก่อนแล้ว  ไม่ได้ makeover จนเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนตอนโด่งดังแต่อย่างใด

ค่านิยมความงามที่ยากจะเป็นไปได้จาก social media ทำให้มีคนพยายามจับผิดหาข้อบกพร่องของคนดัง (  ทั้งๆที่มันอาจจะไม่ใช่ความบกพร่องแต่อย่างใด   ความสนุกสะใจที่ได้หยามหยันหญิงสาวที่ถูกเปรียบเทียบว่าสมบูรณ์แบบนั้นได้สร้างความกดดันให้กับเธอไม่น้อยเลย   ตอนที่น้ำหนักขึ้นจนเสื้อผ้าเริ่มคับ   เธอก็เปรยด้วยความหนักใจและถูกต้นสังกัดเตือนว่าอย่าปล่อยให้ตัวใหญ่ขึ้นไปกว่านี้

หรือจะเป็นในกรณีที่เร่อปาไปชม fashion show ที่ Paris fashion week    ทั้งๆที่เห็นกันชัดเจนว่า ขาของเธอเล็กมากแค่ไหนด้วยมุมกล้องและรูปทรงของเสื้อผ้าในลุคด้านล่างนี้ทำให้ตี่ลี่เร่อปาถูาวเน็ทจีนจิกกัดว่า "อ้วน" "ตัน" "เตี้ย" 

คุณอาจจะหาความปราณีจากสังคมออนไลน์ได้บ้าง  แต่คำพูดหยามหยันนั้นเรียกความสนใจได้ฮือฮากว่า  ในขณะที่ผู้คนมากมายคิดว่าเธอสวยราวกับนางฟ้า  แต่ถ้าคุณยังขาดคุณลักษณะในอุดมคติอย่าง ผิวขาวเหมือนหิมะ - เอวมด - ขาตะเกียบ    ชาวเน็ทก็พร้อมจะพ่นคำว่าร้ายใส่ว่า คุณไม่งามคู่ควรกับสถานะคนดังที่จะคว้าใจคนนับพันล้านได้

ตัวเลขสำคัญสุดๆ!

ว่ากันว่า  สาวจีนผู้นิยมความผอมจะเกลียดกลัวเลข 5 กันมาก  แม้แต่นางเอกที่ตัวสูงเกือบ 170 อย่างจาง ซินอวี่  เมื่อน้ำหนักขึ้นในช่วงกักตัวไปที่ 55.4 ก.ก. ก็ถึงกับบ่นว่าตัวเองอ้วนอืดไม่สมกับเป็นนางเอก  

จ้าวลี่อิ่ง

คลั่งไคล้ไปถึงระดับที่เอาตาชั่งไปวางให้เซเลบชั่งโชว์ที่งานพรมแดง!

ใช่ค่ะ จ้าวลี่อิ่งหนัก 44.6 ก.ก. ในปี 2014  และหลังจากนั้นเธอก็ยังผอมลงมาอีก

เห็นผอมบางขนาดนี้ จ้าวหลี่อิ่งเคยติด trending ของsocial media จีนจากภาพตอนกำลังฟิตรูปร่างที่ gym เธอเคยหยุดพักงานเพราะปัญหาสุขภาพมาก่อน เมื่อโชว์ให้โลกได้เห็นว่าเธอมีกล้ามเนื้อก็ทำให้ชาวเน็ทจีนต้องทึ่งกันถ้วนหน้า

เห็นรูปร่างของนางเอก A List แต่ล่ะคนก็อธิบายได้ชัดเจนว่า เหตุใดหลิวอี้เฟยจึงถูกจิกกัดว่าเป็นนางเอกอ้วน 

social media คือศูนย์กลางกระจายค่านิยมผอม

A4 challenge ที่จีนมีผู้เข้าไปชมเกินร้อยล้าน และมีคนร่วมคอนเมมนท์เป็นแสน  มันไม่ได้เกิดขึ้นในโลกออนไลน์เท่านั้น  ยังมีการจัดกิจกรรมสาวเอว A4 กันจริงๆซะด้วย

นอกจากจะเป็นพื้นที่ให้ผู้คนมาแสดงความเห็นเรื่องรูปร่างหน้าตาของคนอื่นตามชอบใจแล้ว  หล่ยต่อหลายครั้ง คุณจะพบเทรนด์โชว์ความผอมที่มาจากประเทศจีน  อ   ไขว้มือไปด้านหลังเพื่อพยายามใช้นิ้วแตะสะดือ

วัดขาด้วย iPhone และยการพันธนบัตรให้รอบข้อมือเพื่อโชว์ความบอบบาง 

เมื่อเห็นใครออกไอเดียเพื่อส่งต่อเป็น challenge เพื่อพิสูจน์ความผอม สาวๆชาวจีนหล่ยคนก็ดูพร้อมจะรับคำท้าทันที   เชื่อว่ามันได้เป้นอิทธิพลให้คนรุ่นใหม่ยึดติดกับเรื่องรูปร่างที่ผอมบางว่าจะเป็นใบเบิกทางสู่สิ่งดีงามหลายอย่าง โดยอาจจะมองข้ามเรื่องสุขภาพไป

ความอ้วนเป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายอย่าง ผู้คนส่วนมากย่อมปรารถนารูปร่างที่สวยงามดึงดูดใจและสุขภาพแข็งแรงที่ทำให้มีอายุยืนยาวปราศจากโรคภัย แต่ก็ไม่ควรหมกมุ่นจนเกิดความตึงเครียดหรือทรมานตัวเองด้วยการอดอาหารหรือใช้ยาลดน้ำหนัก การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกายให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญพลังงานถือเป็นหลักการที่ชัดเจนสำหรับการลดน้ำหนัก ผู้ที่มีรูปร่างดีอยู่แล้วก็ยังแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า ควรใส่ใจดูแลตัวเองด้วยวิธีนี้จึงจะยั่งยืน แม้จะมีวิธีไดเอทต่างๆ อยู่มากมาย แต่การเดินทางสายกลางเพื่อรับมือกับปัญหาน้ำหนักเกินให้ผลที่ยั่งยืนกว่า ที่สำคัญ เราควรพึงเตือนใจไว้ว่า คนเราร้อยพ่อพันแม่ body type ก็ย่อมหลากหลายต่างกันไป ไม่ว่าใครก็อยากจะผอมเพรียว แต่ความผอมบางตาม beauty standard อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เติมเต็มความปรารถนาของทุกคนไปได้ ดูแลตัวเองและรักตัวเองไปบนเส้นทางแห่งความพอดีกันนะคะ



The End