วันนี้เนิฟจะพาสาวๆจีบันมาชมสวนพฤกษศาสตร์ Hana-Biyori และต่อกันที่ YOMIURILAND สวนสนุกที่ทุกคนไม่ควรพลาด!!

สำหรับการเดินทาง

   เนิฟจะขึ้นรถไฟสาย KEIO จากชินจูกุแล้วนั่งมาลงที่ Keio Yomiuriland Station จากนั้นก็ออกมารอขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่สวนสนุก Yomiuriland (ราคารถบัสอยู่ที่ 250 เยนต่อเที่ยว) เมื่อเรามาถึงสวนสนุกโยมิอุริแลนด์แล้ว ก็จะเดินต่ออีกนิดหน่อยเพื่อไปยัง Hana-Biyori และแล้วววววว เราก็มาถึงงงงงงง

พอเข้ามาแล้วก็จะพบกับต้นไม้และดอกไม้ที่สวยงามเหมือนกับตัวเองเป็นนางเอกที่กำลังถ่ายซีรี่ญี่ปุ่นยังไงยังงั้น คือมันสวยมากจริงๆธรรมชาติมากๆ นี่ยังแค่จุดแรกเนิฟก็รัวกล้องจนเพลินเลย

+2

และแล้วเราก็ถึงหน้าทางเข้าไม่รอช้าเดินสวยๆเข้าไปเล้ยยยยยย พอเนิฟเดินผ่านประตูเข้ามาแล้วทุกโคนนนนนนน รู้สึกสดชื่นมากๆกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดเหมือนได้เข้ามาอยู่อีกโลกนึงเลย https://drive.google.com/file/d/14t8fEzh8zYuLyJyst09XLAcHI5igsRyU/view?usp=drivesdk
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝากด้วยมีแต่ของน่ารักๆทั้งนั้นเลย พอเนิฟเดินชมกันได้ซักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าโชว์จะเริ่มในอีกไม่กี่นาทีนี้ ใช่ค่ะ!!! มันก็คือโชว์ Digital Art ที่ผสมผสานกับดอกไม้จริงและเทคโนโลยี Projection Mapping (3D Mapping) ที่เป็นไฮไลต์สุดอลังการของที่นี่เลย อยากบอกว่าสวยงามมากจริงๆ

+10

หลังจากดูโชว์จบเนิฟก็เดินต่อไปจนไปเจอกับน้องนากน่ารักมากกกกกก แต่น้องดูแอบเขินกล้องนิดนึง และก็มีตู้ปลาใหญ่ๆที่มีปลาสีสันสวยงามตั้งอยู่ด้วย

+2

จากที่เดินถ่ายรูปมาได้ครึ่งวันก็เริ่มหิวแล้วคงต้องแวะหาอะไรลงท้องก่อน และก็มาถึงอีกไฮไลต์นึงที่พลาดไม่ได้เลยคือ Starbucks สาขา Hana-biyori นั่นเองและเป็นร้านกาแฟเดียวที่อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ สำหรับที่นั่นก็มีให้เลือกมากมายทั้งด้านในและด้านนอก ส่วนของข้างนอกคือวิวทัศนียภาพดีงามมากแม่ ทั้งสวยงามทั้งโรแมนติดสุดๆ

+7

หลังจากนั่งพักเติมพลังแล้วฟ้าก็เริ่มมืดสีสันของไฟที่ประดับก็สว่างขึ้นระยิบระยับ เนิฟก็ไม่รีรอไปรัวภาพต่อกันเล้ยยยยย

+4

พอถ่ายรูปเสร็จก็พากันเดินหาทางออกเพื่อจะไปที่อื่นต่อ แต่ระหว่างทางก็เจอโซนที่ไม่คาดว่าจะมีมันเป็นซุ้มไปแบบสวยมว๊ากกกกกกกก สวยแบบปล่อยผ่านไปไม่ด้ายยยยย แล้วเราก็สิงอยู่จุดนี้กันอีกเป็นชั่วโมง ?

+3

พอได้รูปที่พอใจแล้วเราก็รีบมูฟเพื่อไปต่อกันที่ Yomiuriland โดยเราจะเดินกลับไปตรงจุดที่ลงรถบัสมาเมื่อเช้านะคะ (จุดนี้คือรีบจ้ำให้ไวเลยเพราะเสียเวลาถ่ายเมื่อกี้นานไปหน่อย?)
​

ขอบคุณข้อมูลจาก ​JAPANKURU​​​

ต่อกันที่ YOMIURILAND

พอเราเดินมาถึงหน้าทางเข้าก็จะเจอกันจุดขายตั๋วและประตูทางเข้า จากนี้เตรียมตั๋วให้พร้อมแล้วเข้าไปกันเล้ยยยยยย 

เนื่องจากเนิฟมาถึงตอนค่ำๆพอดีก็จะเป็นเวลาของการชมอีเว้นท์ Jewellumination งานประดับไฟวิบวับๆจัดโดยอิชิอิ โมโตโกะ (Motoko Ishii) ดีไซเนอร์ด้านไฟประดับที่เคยฝากผลงานไว้ทั่วโลก สามารถมาชมความงามกันได้เฉพาะช่วงฤดูหนาวยาวจนถึงช่วงซากุระบาน ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมปีนี้ถึง 5 เมษายนของปีหน้าเท่านั้น เราก็ไม่รอช้ามีมุมมากมายให้เลือกเซลฟี่กันเต็มที่เลยค่าาาาาา เริ่มกันที่จุดแรกบันไดทางลงก็สวยมากเลย มองเห็นวิวข้างล่างจากที่สูง

+2

ขอบอกไว้ก่อนว่าทริปนี้เนิฟมีเวลาจำกัดมากอาจจะเดินไม่ครบทุกโซน สำหรับใครที่จะมาเที่ยวทั้งสวนสนุกตอนกลางวันและงานแสดงไฟตอนกลางคืนอาจจะต้องจัดสรรเวลาดีๆจะได้เดินเที่ยวครบทุกโซน ในส่วนของเนิฟอยากบอกว่าที่นี่คือสวยงามมากเกินคาด ไม่คิดว่าที่นี่จะใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้และงานแสดงไฟก็ลงทุนสุดๆ สวยทุกจุดเลยใครจะมาถ่ายรูปโดยเฉพาะที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน!!!

+6

เมื่อเราถ่ายรูปกันซักพักก็เริ่มหิว(อีกแล้ว) สำหรับเรื่องอาหารการกินที่นี่หายห่วงได้เลยเพราะมีร้านอาหารเยอะแยะมากมายตามจุดต่างๆให้ได้เลือก มีทั้งร้านที่เป็นซุ้มข้างนอกและร้านอาหารที่อยู่ในอาคารแบบฟู้ดฮอลล์ ณ จุดนี้คืออากาศหนาวมากเนิฟเลยเลือกร้านอาหารในอาคาร หนาวๆแบบนี้ก็ต้องราเมงสิ จัดไป!!

รสชาติอาหารถือว่าโอเคเลยฮับบบบ กินกันหมดเกลี้ยงงงง เติมพลังแล้วเราก็ลุยกันต่อเล้ยยยยย อยากบอกว่าที่นี่ยิ่งเดินไปเรื่อยๆก็ยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจ แต่ละจุดแต่ละมุมคือเค้าแสดงผลงานแสงไฟได้สวยงามมากขอเตือนว่าให้เตรียมแบตกล้องสำรองมาเผื่อด้วยนะคะ เพราะเนิฟถ่ายกันจนแบตหมดเกลี้ยง สุดท้ายแล้วก็ขอจบการรีวิวที่เที่ยวด้วยภาพสวยๆนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันจนจบ

ขอบคุณข้อมูลจาก​ KIJI​​​

แถมวิดีโอด้วย
​https://drive.google.com/file/d/1_MNOIyWq6WJLy6GU1Qocw_pXLwxV5ytE/view?usp=drivesdk​​​

​https://drive.google.com/file/d/1fhd60OWd_1cLes6UwlqGRNF0jHmOEDm4/view?usp=drivesdk​​​

+3