Best Product of 2020 ฉบับถูกและดี part 2

จาก part ที่แล้วนั่นก็คือ Part 1 ส่วนใหญ่จะเป็นในหมวดของที่เติมความชุ่มชื้นดูแลผิวหน้าโดยภาพรวมซะส่วนใหญ่ ซึ่งใน Part 2 นี้เราจะมาเจาะจงในส่วนของเรื่องสิว ผิวกาย และเมคอัพกันค่ะ จะมีตัวไหนที่ครองใจเพื่อน ๆ เหมือนกันบ้าง

ไปชมกันเลย

.
.
.
.

มาเริ่มกันที่เรื่องสิวกันก่อนเลย ซึ่งสิ่งที่สยบสิวได้อยู่หมัดในปีที่ผ่านมาได้แก่

Oxecure acne clear powder mud 5g ราคา 49 บาท

ซึ่งตัวนี้เป็นโคลนแต้มสิว มีลักษณะเป็นโคลนสีชมพูอ่อน ๆ ตัวนี้เราไว้แต้มบริเวณที่เป็นสิวผดซะส่วนใหญ่ ได้ผลดีเกินคาดเลย แต่จะบอกว่าตัวนี้ไม่ค่อยเหมาะกับสิวอักเสบเท่าไหร่ ถ้าใช้กับสิวอักเสบต้องเป็นอีกรุ่นนึงที่เป็นแบบขวด แยกชั้นกันเป็นโคลนชั้นล่างและมีน้ำใสๆข้างบน รุ่นนั้นดีมากกกสิวอักเสบยุบลงจริง แต่ที่ให้รุ่นนี้เข้ารอบมาก็เพราะซื้อซ้ำบ่อยที่สุดและหยิบใช้บ่อยสุดจริง ๆ บวกกับในปีที่ผ่านไปเจออีกตัวนึงที่ช่วยในเรื่องสิวอักเสบเหมือนกันนั้นก็คือตัวด้านล่างนี้เลย

Matchaakiii anti acne cream 10g ราคา 170 บาท

ตัวนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อสีขาว เราจะใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิวอักเสบได้ผลดีเหมือนกันแต่อาจจะใช้เวลาสักหน่อยไม่ได้คืนเดียวยุบเลยเหมือนตัว oxecureรุ่นแบบขวด แต่ที่ชอบตัวนี้ก็คือเราจะแต้มลงไปบริเวณผิวที่เจ็บเหมือนสิวกำลังจะขึ้นคือแต้มสกัดไว้ก่อนเลยประมาณสามวันแล้วมาจับผิวตรงนั้นอีกทีบอกเลยว่าเหมือนไม่เคยมีสิวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ถ้าเป็นสิวอักเสบที่โผล่ออกมาแล้วก็จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วันสิวจะแห้ง

และที่ปีนี้ให้ตัวนี้ก็เพราะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่าเพราะสามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืนแต่ตัว oxecure จะทาได้เฉพาะกลางคืนหรือวันที่ไม่ได้ออกไปไหนเลยทำให้ตัวนี้เบียดแซงทางโค้งเข้ารอบมานั่นเอง

ต่อมาก็จะเป็นหมวดของการรักษารอยสิวและตัวที่เด็ดยืนหนึ่งมากที่สุดเลยได้แก่

Melano cc vitamin c brightening essence 20ml ราคา 480 บาท

ตัวนี้จะเป็นตัวที่เราใช้ทาผิวปกติและทาเน้นตรงรอยสิวด้วย ซึ่งตัวนี้แอบบอกว่าเบียดแซงเพื่อนๆเข้ามาเพราะเราได้มาลองใช้ช่วงครึ่งปีหลังแล้ว  และสูสีกับตัว garnier มาก แต่ที่เข้ารอบมาเพราะเห็นผลไวกว่า garnier นิดเดียวจริง ๆ ค่ะ ก็เลยเข้ารอบมา

Puricas dragon blood scar gel 8ml ราคา 290 บาท 

ส่วนตัวนี้นั้นบอกเลยว่าดีมากกกก กอไก่ล้านตัวเลย คือเชื่อว่าเป็นที่หนึ่งลดรอยของเพื่อน ๆ หลายคนเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วในปีที่ผ่านมาเราเปิดใจลองใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยของหลายยี่ห้อมากเพราะเป็นรอยสิวเยอะมาก แต่ก็ไม่มีอะไรต้านทานตัวนี้ได้จริงๆ ใครที่เป็นรอยสิวอยากหาตัวช่วยลดรอย แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ดีจริงๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน

ปล. จะได้ผลดีมากยิ่งขึ้นถ้าใช้ ควบคู่กับการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะทำให้รอยจางเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ และ step การทาครีมลดรอยสิวของเราอีกอย่างนึงที่ทำให้เห็นผลก็คือเราจะทาครีมลดรอยสิวเป็นอันดับแรกหลังจากการเช็คโทนเนอร์ค่ะ รอสักพักให้ซึมเข้าสู่ผิว จากนั้นก็ลงครีมตามปกติเลย

มาในส่วนของพวก mask ต่างๆบ้างค่ะ

Leaders insolution PHA sleeping mask AC care mask 20ml ราคา 69 บาท

ตัวนี้สูตรสีแดงจะเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องของ ปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน เราจะใช้ตัวนี้ในช่วงที่เป็นสิวผด สิวอุดตัน จะสลับกันใช้กับสีม่วงแล้วแต่ว่าช่วงนั้นมีปัญหาผิวแบบไหนค่ะ แต่มันไม่ได้เห็นผลในเรื่องสิวขนาดนั้นแต่ มันให้ความชุ่มชื่นได้ดี และไม่ทำให้ผิวที่เป็นสิว อักเสบหรืออุดตันเพิ่ม เลยชอบตรงนี้ค่ะ

Leaders insolution PHA sleeping mask regeneration 20ml ราคา 69 บาท

สูตรสีม่วงจะเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องของ รอยแดง รอยดำจากสิว เราจะใช้ตัวนี้ในช่วงที่มีปัญหารอยสิวหนักๆจะบอกว่าดีมาก ใช้แล้วตื่นมาหน้าฟูมากค่ะตัวนี้ แต่เรื่องรอยอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจนเพราะเราไม่ได้ใช้ต่อเนื่องด้วย  แต่ก็สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันใช้และซื้อซ้ำตลอดค่ะ

Leaders cica intense plus mask 25ml ราคา 49 บาท

สีเขียว ตัวนี้เป็นมาร์คแผ่นที่ช่วยในเรื่องของดูแลปัญหาผิวระคายเคืองเพราะมีสารสกัดจากใบบัวบก เป็นสูตรที่ชอบมากๆเลยค่ะ วันไหนที่กดสิวมา จะชอบใช้ตัวนี้ทำให้ผิวที่ระคายเคืองดูลดลงมันเหมือนช่วยปลอบประโลมผิวไปในตัวด้วย แนะนำค่ะ อยากให้ไปลอง ในวัตสันจัดโปร 1แถม1บ่อยมากเราซื้อตุนตลอดเลย 

Leaders aquaporin intense plus mask 25ml ราคา 49 บาท

ส่วนสูตรสีน้ำเงิน จะเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง แต่เราเป็นคนผิวมันแต่ขาดน้ำเลยชอบซื้อตัวนี้เป็นพิเศษอีกเหมือนกัน เพราะให้ความชุ่มชื้นได้ดี ใช้แล้วหน้าฟูฉ่ำน้ำ จะชอบซื้อตุนคู่กับสูตรสีเขียวตลอด

ตัวที่เข้ารอบในเรื่องของการบำรุงริมฝีปากกันบ้าง

Mediheal panteno lips 10g ราคา 99 บาท 

ตัวนี้มีลักษณะเป็นเนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เวลาใช้ไปแล้วมันจะไม่เกาะบนปากหรือเคลือบอยู่บนปากแต่มันซึมเข้าไปบนผิวปากเลย บางครั้งอาจจะรู้สึกว่าใช้แล้วปากแห้งแต่จริงๆแล้วมันซึมลงเข้าไปบนริมฝีปาก แล้วที่ชอบเพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ

Carmex lip balm 10g ราคา 119 บาท

 

ตัวนี้ลักษณะเป็นเนื้อบาล์มใสๆ ค่อนไปทางเหลืองอ่อนๆ กลิ่นไม่ต้องพูดถึงคงความเป็นเอกลักษณ์ของ carmex อยู่แล้ว ใช้แล้วชอบมากหมดไปหลายหลอด ตัวนี้จะต่างจากตัวบนตรงที่ให้ texture เคลือบปากเบาๆแต่ก็มีความซึมลึกอีกเหมือนกัน

ทั้งสองตัวใช้แล้วให้ผลลัพธ์คือความชุ่มชื้น และทำให้ปากอมชมพูขึ้นนิดนึง สรุปคือรักพี่เสียดายน้องนั้นเองเลือกไม่ถูกเลยเอามาทั้งสองตัวเลย อยู่ที่ว่าแต่ละคนชอบเนื้อแบบไหน

มาถึงงานเมคอัพแล้ววว

ในปีที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้แต่งหน้า เลยมีเครื่องสำอางไม่เยอะ เลยคัดมาแต่ตัวที่เด็ดๆและใช้บ่อยที่สุดค่ะ

มาเริ่มกันที่งานผิวกันก่อนเลยค่ะ

Maybelline instant age rewind สี 122 6ml ราคา 199 บาท

ตัวนี้เป็นสิ่งที่ช่วยใต้ตาของเราตลอดปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ คือใช้ดีมาก สีเข้ากับผิวพอดี (แอบบอกก่อนว่าเราชอบใช้คอนซีลเลอร์ค่อนข้างใกล้เคียงกับสีผิวนะคะ) สีผิวเราโทนกลางค่อนไปทางเหลือง ใครที่ผิวกลางๆแนะนำเลยสีนี้  เนื้อบางเบาไม่หนัก และที่สำคัญไม่ตกร่องด้วยเป็นตัวเดียวที่เราใช้ในปีที่ผ่านมาและมันดีจริงๆ

Maybelline super stay 24h full coverage foundation สี 128 30ml ราคา 269 บาท 

ตัวนี้เป็นรองพื้นอีกตัวที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยพูดถึงถ้าเทียบกับรุ่น fit me เพราะรุ่นนี้มีสีให้เลือกน้อยและมีความดรอปลงนิดนึงแต่ที่เข้ารอบมาในปีนี้ก็เพราะใช้แต่งหน้ารับปริญญาด้วยตัวเองแล้วติดทนมากจริงๆค่ะ เนื้อดี ปกปิดดีมาก ไม่เป็นคราบด้วย ถึงแม้จะใส่แมสก็ตาม เอาอยู่จริงๆค่ะรุ่นนี้ แนะนำก่อนลงอยากให้มาร์คหน้าก่อนแล้วลงรองพื้นจะได้งานผิวที่สวยมากยิ่งขึ้นค่ะ

มาถึงในส่วนของงาน ตา ปาก และเฉดดิ้งกันบ้างค่ะ

Mistine super black fixed liner ราคา 105 บาท

ตัวนี้เป็นอายไลเนอร์พึ่งเคยได้ลองใช้อีกเหมือนกัน แต่ชอบมาก เป็นหัวพู่กัน เขียนง่ายลื่น ติดทนระดับนึง แต่ล้างออกง่าย

Maybelline super stay matte ink สี 210 5ml ราคา 199 บาท

ตัวนี้คือติดทนมากถึงมากที่สุดจริงๆค่ะ ต้องล้างกับ remover ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเท่านั้นถึงจะล้างออก เป็นอีกตัวที่ใช้ทาในการแต่งหน้ารับปริญญาอีกเหมือนกัน

Maybelline hyper curl mascara ราคา 99 บาท

ตัวนี้เป็นมาสคาร่าในตำนานไม่พูดถึงคงไม่ได้ งอน ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ใช้ในการแต่งหน้ารับปริญญาอีกเหมือนกันกัน

ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นของ maybelline คือเค้าไม่ได้จ้างนะคะ 55555555แต่เสียเงินซื้อเองทั้งหมด คือของบางอย่างดีจริงค่ะ แล้วก็ราคาไม่แรงด้วย

Eglips slim fit shading สี 02 ราคา 155 บาท

ต้องยกให้ตัวนี้เป็นเฉดดิ้งที่ธรรมชาติมากกกใครเป็นสายแต่งหน้าแนว natural คือตอบโจทย์มากค่ะ หรือใครที่พึ่งหัดแต่งแนะนำเหมือนกัน เพราะสีดีไม่ส้มเกิน ราคาน่ารักด้วย

และสุดท้ายก็มาถึงงานผิวกายกันบ้าง

Vaseline healthy bright uv lightening 370ml ราคา 149 บาท

ตัวนี้คือหอมอ่อนๆคล้ายๆกลิ่นมะลิให้ความชุ่มชื้นได้ดี ซึมง่าย และที่สำคัญคือผิวใสขึ้นด้วย ผิวมันดูมีออร่า แต่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องนะคะ

Cita aura gel lotion มะขาม&ทานาคา 200ml ราคา 99 บาท

ตัวนี้คือชอบกลิ่นมากกก หอมแบบสดชื่นๆ และเป็นเนื้อเจล บางเบาสบายผิวสุด แต่ตัวนี้อาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นเท่าตัว Vaseline นะคะ เหมาะมากสำหรับใครที่ไม่ชอบทาอะไรที่เหนอะหนะผิว 

จบแล้วค่าาาสำหรับการรีวิว Best Product of 2020 ของเราเอง หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่าน หรือคนที่กำลังตัดสินใจซื้อนะคะ 

ใครเคยใช้ตัวไหนแล้วดีหรืออยากแนะนำตัวไหนมาคอมเมนต์บอกกันได้เลยค่ะ

.
.
.

ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ก่อนออกจากบ้านใส่แมสและพกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวไปด้วยทุกครั้งนะคะ