‘Chloé Atelier des Fleurs’ น้ำหอมกลิ่นละมุนที่เราสามารถเลเยอร์กลิ่นเองได้
chanyap. 63 13
สวัสดีค่า ทุกๆ คน วันนี้พิกุลมารีวิวน้ำหอมค่า ตัวนี้มีชื่อว่า ‘Chloé Atelier des Fleurs’ (โคลเอ้ อาเตอลิเย่ เดส์ เฟลอร์ส) ซึ่งเป็นน้ำหอมที่มาจากชื่อดอกไม้ ซึ่งมีทั้งหมด 9 กลิ่น สามารถฉีดเดี่ยวๆ หรือฉีดผสมกับกลิ่นอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันได้ค่ะ โดยเราสามารถเลเยอร์น้ำหอมได้สูงสุดถึง 3 กลิ่นเพื่อสร้างเอกลักษณ์และกลิ่นที่เฉพาะตัวของเราเองได้เลยค่า
น้ำหอมของ Chloé นี้จะมาจากการปรุงของนักปรุงน้ำหอมหลายท่านเลยค่ะ ซึ่งแต่ละกลิ่นจะมีแรงบันดาลใจและกลิ่นที่แตกต่างกัน ถ้าเพื่อนๆ นึกภาพไม่ออก ให้จินตนาการถึงร้านขายดอกไม้ ที่มีดอกไม้หลากหลายชนิด ในการจัดช่อดอกไม้ เราเองจะต้องเลือกดอกไม้แต่ละเพื่อนำมาจัดผสมในช่อเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกหลัก ดอกแซมหรือว่าใบไม้ ก็จะมีชนิด กลิ่นและสีที่แตกต่างกัน เหมือนกันกลิ่นหอมของน้ำหอมภายใต้คอลเลคชั่น Chloé Atelier des Fleurs ที่สามารถนำมาเลเยอร์กันได้ ฉีดผสมกันเพื่อให้ได้กลิ่นใหม่ที่เราชอบและเปลี่ยนมู้ดในแต่ละวันของเราได้
น้ำหอม Chloé นี้ได้ผ่านการคิดค้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้แต่ละกลิ่นสามารถเลเยอร์และเข้ากับกลิ่นอื่นๆ ได้อย่างดี พิกุลเองมีอยู่ 2 ขวดด้วยกันค่ะ ทั้งสองเป็นไซส์ 50 มล. เดี๋ยวเรามาอ่านรายละเอียดของแต่ละกลิ่นได้เลยค่า
กลิ่นแรก Herba Mimosa ออกแบบโดย Amandine Clerc-Marie ที่เป็นการนึกถึงวัยสาว เมื่อช่วงอายุ 20 ของเธอ ซึ่งตัวกลิ่นเองจะเป็นกลิ่นแป้งอ่อนๆ ซึ่งในช่วงวัยสาวของนักปรุงน้ำหอมนี้ เธอได้เห็นดอกมิโมซ่าเบ่งบานอยู่ที่หุบเขา จึงนำความทรงจำของตัวเองมาปรุงเป็นกลิ่น Herba Mimosa ใครชอบน้ำหอมกลิ่นละมุนๆ มีกลิ่นแป้งอ่อนๆ เหมือนเราเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ แล้วมีกลิ่นแป้งผสมกับกลิ่นดอกไม้ยามเช้าแบบบางๆ จะชอบกลิ่นนี้ค่า มีความละมุนมากๆ
กลิ่นที่สองที่พิกุลมีคือ Rosa Damascena ที่ออกแบบโดย Amandine Clerc-Marie ค่า ตัวนี้เป็นกลิ่นที่ออกแนวสดใสร่าเริง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่เคยนำมาสกัดในสวนของครอบครัว ซึ่งนักปรุงน้ำหอมกลิ่นนี้ได้เลือกดอกกุหลาบดามัสเซน่าที่จะมีกลิ่นหอมสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติ กลิ่นนี้เองเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบกลิ่นกุหลาบ พิกุลรู้สึกว่ากลิ่นนี้น่าจะถูกใจหลายๆ คนค่า เพราะว่ากลิ่นกุหลาบนี้จะค่อนข้างคุ้นกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็จะมีกลิ่นกุหลาบกันอยู่แล้ว แต่ของน้ำหอมนี้เองจะเป็นกลิ่นของดอกกุหลาบดามัสเซน่าที่มีกลิ่นเฉพาะตัวมากๆ ค่ะ อยากให้ไปลองเทสกัน เพราะกลิ่นนี้ใช้ได้บ่อยแน่นอน
จากที่ได้บอกไปตั้งแต่แรกว่า ‘Chloé Atelier des Fleurs’ (โคลเอ้ อาเตอลิเย่ เดส์ เฟลอร์ส) นี้สามารถนำสองหรือสามกลิ่นมาเลเยอร์ได้ ซึ่งประโยชน์ของการเลเยอร์น้ำหอมก็คือการนำน้ำหอมตั้งแต่ 2 กลิ่นขึ้นไปมาฉีดผสมกัน เป็นการสร้างสรรค์กลิ่นใหม่ๆ และสามารถเปลี่ยนมู้ดในแต่ละวันของเราได้ด้วย ซึ่งการเลเยอร์น้ำหอมนั้นอาจจะทำได้หลายแบบ ไม่จำเป็นว่าจะต้องฉีดทับๆ กันเพื่อให้เป็นกลิ่นใหม่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่จริงเราสามารถเลเยอร์น้ำหอมได้ตั้งแต่หลังอาบน้ำเสร็จ เช่นการเลเยอร์น้ำหอมกลิ่นแรกในขณะที่เราทาบอดี้ครีม แล้วค่อยฉีดน้ำหอมอีกกลิ่นในขณะที่ทาครีมเสร็จแล้วก็ได้ การฉีดน้ำหอมลักษณะนี้ ก็ถือเป็นการเลเยอร์น้ำหอมเช่นเดียวกัน
อีกวิธีในการเลเยอร์น้ำหอมจะเป็นการฉีดน้ำหอมคนละกลิ่นในจุดที่แตกต่างกัน เช่นเราอาจจะฉีด Herba Mimosa ที่บริเวณซอกคอ แล้วฉีด Rosa Damascena ที่บริเวณข้อมือ พอกลิ่นเบลนด์กันแล้ว ก็จะเป็นกลิ่นดอกไม้ละมุนๆ มีกลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ และกลิ่นแป้งบางๆ ผสมกับความวู้ดดี้เล็กน้อยของกลิ่นมิโมซ่า บอกเลยว่าละมุนละไมมากๆ เลยค่า
การเลเยอร์กลิ่นน้ำหอมจะไม่ได้มีกฎตายตัว ว่าต้องเป็นแบบไหนนะคะ ความสนุกอยู่ที่ตรงนี้เหมือนกัน เพราะว่าเราสามารถเลเยอร์น้ำหอมได้แบบไม่มีขีดจำกัดเลยค่ะ บางทีเราอาจจะฉีดกลิ่นที่อ่อนกว่าให้มากกว่ากลิ่นที่เข้มกว่าเล็กน้อย พอน้ำหอมเบลนด์แล้วก็จะได้เป็นกลิ่นใหม่ๆ อีกค่ะ ซึ่งในแต่ละวันเราก็สามารถเปลี่ยนการเลเยอร์น้ำหอมไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะสองกลิ่นหรือสามกลิ่นก็สามารถลองเลเยอร์กันได้ค่า ซึ่งเวลาที่เราไปซื้อน้ำหอม จะเป็นการซื้อกลิ่นละขวดแล้วแล้วนำมาเลเยอร์ต่อเองนะคะ ทางช็อป Chloé เองก็มีบริการจัดทำ Gift set ให้ด้วยค่า ขนาดของ Chloé Atelier des Fleurs จะมี 2 ไซส์ด้วยกันคือ 50 มล. และ 150 มล. ค่า
ขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะ การรีวิวในครั้งนี้เรามารีวิวไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของทุกคนน้าาา หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีค่ะ