NIVEA C&E VITAMIN LOTION กับ VASELINE SUPER VITAMIN ตัวไหนปังสุด?
กัญญ์การณ์ ศิริกาญจนาฐิภัย 54 8 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
Hi there ~ สวัสดีค่ะทุกคนนนนน กลับมาเจอกันอีกแล้วเย้ๆ! รอบนี้ฟร้องขอเสนอกระทู้รีวิวเปรียบเทียบ สองแบรนด์วิตามินโลชั่น หรือเซรั่ม ที่สาวๆส่วนใหญ่น่าจะคุ้นชิน เคยเห็นบ่อยๆ หรือเคยได้ลองใช้กันมาแล้ว ซึ่งวันนี้ฟร้องจะขอลอง ท้าพิสูจน์ และเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ ในมุมมองของฟร้องเองว่าของเค้าดี และให้ผลแตกต่างกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้ว...ไปต่อกันเลยค่า go go go~
ก่อนอื่น ขอโชว์ผิวแสนพังในช่วงนี้ของฟร้องก่อน สภาพค่อนข้างหน้าเวทค่ะ555 เพราะออกงานนอกสถานที่บ่อยมากๆ นอนก็ดึก แถมชอบอาบน้ำร้อน และค่อนข้างละเลยการดูแลผิว จนเห็นได้ชัดเลยว่า ผิวค่อนข้างแห้งกร้าน คล้ำแบบหม่นหมอง ดูไม่กระจ่างใสเลย ทำให้ฟร้องอยากหาวิตามินโลชั่นที่จะช่วยเสกให้ผิวสวยใสได้ไวๆ และตัวที่คนพูดถึงเยอะมากก จนอยากลองใช้ก็คือ 2 ตัวนี้ “นีเวีย C&E วิตามินโลชั่น” และ “วาสลีน super vitamin เซรั่ม” และเมื่อฟร้องตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ตัวไหนดี ก็ซื้อมาลองทั้งคู่นี่แหละ!
เริ่มกันที่ตัวแรก “NIVEA C&E” วิตามินโลชั่น ที่มีวิตามินซี สูงถึง 50 เท่า!! มากถึง 4 ชนิด ที่เน้นช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส และวิตามิน E เข้มข้น ที่เน้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น สุขภาพดี จากส่วนผสมแล้วคิดว่า
เป็นโลชั่นสูตรเร่งรัดสำหรับคนอยากผิวใสไวได้เลย และชอบความที่นางมี UV ฟิลเตอร์ ช่วยกันแดดได้ด้วย
คือไม่ใช่แค่บำรุง แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาคล้ำเสียอีก ซื้อค่ะ!
นี่เลยใครที่อยากลองแนะนำให้ไปซื้อ มีทั้งแบบหลอด หลายขนาด หลายราคาอยู่ แต่แบบวันที่ไปซื้อหลอดนี้มันคุ้มอ่ะแม่ มันลดเลยล่อหลอดใหญ่มา 5555 แต่คือถ้าคนที่จะพกพาอาจจะมองหาซื้อเป็นหลอดเล็ก หรือเป็นแบบซอง ซึ่งขนาดกำลังดี พกพาง่าย ฝาล็อคแน่นหนา ไม่ต้องกลัวหกถือว่าคุ้มค่าเลย ในราคา 29 บาท (30 ml.) ใช้ได้หลายครั้ง ที่ร้าน 7-11 แต่ถ้าจะใช้ประจำแนะนำให้ซื้อเป็นแบบขนาดใหญ่จะคุ้มค่ากว่า ซื้อได้ทั่วไปเลยค่ะ ตามห้างสรรพสินค้า
ต่อกันที่ตัวผลิตภัณฑ์ เนื้อสัมผัสโลชั่น สีขาวเนื้อเข้มข้น แต่บางเบามากๆ ทั้งที่เป็นเนื้อโลชั่นแต่ไม่เหนอะหนะเลย
ซึมเร็วได้ดั่งใจ จากรูปไม่ต้องตกใจนะคะ ฟร้องทาลากยาวได้ไปทั้งแขนเลย
และชอบที่นางมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ สดชื่นๆ ได้ฟิลไร่ส้มอยู่นะ555 หลังทาครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าผิวสดชื่นมาก ไม่แห้งตึง และดูชุ่มฉ่ำขึ้น (รูปขวาสุด)
และสำหรับตัวนี้ ฟร้องจะขอทดสอบทาลงบนแขนซ้ายเป็นเวลา 7 วันค่ะ เห็นได้ชัดเลยว่ามีความแตกต่าง ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น สัมผัสดูคือผิวชุ่มชื้นฉ่ำเด้งมาก ชอบจับผิวตัวเองไปเลย โดยรวมถือว่าเป็นวิตามินโลชั่นที่ให้ผลดีมาก เป็นที่น่าพอใจมากๆค่ะ
ต่อกันที่ “Vaseline Super Vitamin” ที่นำมาทดลองเป็นสูตร แครนเบอร์รี่ & วิตามินบี 3
ที่นางเองก็เคลมว่า สามารถช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใสโกลว์ ได้เช่นกัน เพราะมีส่วนผสมของ วิตามินบี 3
มากถึง 10 เท่า และยังมีแครนเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน C & A อีกด้วย
และขนาดที่ฟร้องลองซื้อมา ก็เป็นขนาดเล็กเช่นกัน ในราคา 79 บาท (110 ml.) และ ยังมีขนาดใหญ่อีกแบบ ถ้าใครสนใจก็ลองไปเลือกดูกันได้ ที่ห้างสรรพสินค้า หรือ 7-11 ทั่วไปเช่นกัน ขนาดพกพาของตัวนี้ จะเป็นแบบขวดพลาสติก ฝาเปิด-ปิดง่าย ตามรูป ก็ถือว่าพกพาง่ายนะ ถ้าถ้าจะพกจริงๆเป็นแบบซองน่าจะดีกว่า เราไม่แน่ใจว่าเขามีแบบซองไหมเหมือนกัน
เนื้อสัมผัสตัวนี้ เป็นเนื้อเซรั่ม สีขาว ที่ทาไปสักพักจะแตกตัวเป็นน้ำ ถือว่าบางเบา และซึมซาบไวมากๆ ไม่เหนอะหนะ หนักผิวเช่นกัน เพราะด้วยความเป็นเนื้อเซรั่มอ่ะเนอะ ทุกคนคงจะพอเดาออก ทาไปแล้วรู้สึกได้ว่าผิวเย็นๆ สดชื่น ฉ่ำอยู่ได้สักพักนึง แต่เรื่องกลิ่นต้องยกให้เลยจริงๆ กลิ่นน่ารักมากๆ สายหวานต้องชอบแน่ๆ รับรองเลยค่ะ
ตัวนี้ฟร้องเปรียบเทียบทาลงบนแขนขวา เป็นเวลา 7 วัน เช่นเดียวกันกับตัวแรก ตัวนี้ก็ช่วยเรื่องกระจ่างใส และไม่ดูแห้งกร้านแบบช่วงก่อนทา แต่รู้สึกว่าผิวใสช้ากว่าอีกตัวอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้หน่อย โดยรวมก็ถือว่าเลิฟเลยยย
เมื่อกี้อาจจะเห็นภาพไม่ชัดถึงความแตกต่างของทั้งสองตัว ฟร้องเลยเทียบให้เห็นถึงสีผิวในเฟรมเดียวกันอีกที
ซึ่งข้างที่ใช้นีเวีย จะแลดูมีความกระจ่างใสมากกว่านิดนึง แต่ก็ถือว่าให้ผลที่ดีขึ้นทั้งคู่ อย่างเห็นได้ชัดค่ะ
และนี่คือ chart คะแนนในภาพรวมถึงด้านต่างๆ ของวิตามินโลชั่นทั้ง 2 ตัวเรียกได้ว่าคะแนนค่อนข้างสูสีเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ก็เป็นความรู้สึก และความชอบในแบบเวอร์ชั่นของฟร้องนะคะ ถ้าหากตรงกับเพื่อนๆคนไหน หรือย้อนแย้งกันยังไง คอมเมนต์มาแชร์ความคิดเห็นกันได้น๊า.. แต่วันนี้ฟร้องคงต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ ขอบคุณค่ะ และสวัสดีค่า ~ จุ๊บ >3