Aesop Parsley Seed สกินแคร์เพื่อผิวแข็งแรง ที่มาของดราม่าต้นปีนี้

สวัสดีครับ วันนี้เวฟตั้งใจมากที่จะมาเปิดประสบการณ์ตรงที่ดีและไม่ดีมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน 

ออกตัวก่อนเลยว่า แอบเซ็งและจิตตกเหมือนกัน ซึ่งเรื่องที่ไม่ดีก็คือ “การเจอสินค้าปลอม” เวฟเจอเข้ากับตัวเองเป็นครั้งแรกเลยครับ เวฟคิดอยู่หลายสัปดาห์ว่าจะเล่าดีไหม แอบกลัวว่าจะดิสเครดิตตัวเอง แต่ก็ยอมรับตรงๆว่า เวฟก็ชอปปิ้งหลายช่องทาง ทั้ง Counter Brand, Sephora, King Power, เพื่อนหิ้ว และก็บรรดาร้านค้าออนไลน์ครับ เพราะความอยากได้ของถูก บ้างก็ตามหาขนาดทดลองมาใช้ดูก่อน หรืออยากได้ของที่ยังไม่นำเข้ามา ก็จำต้องเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาเวฟไม่เคยเจอปัญหา เลยยังสนุกไปกับการชอปปิ้งรูปแบบต่างๆ แต่หลังจากที่พบว่าตัวเองนั้นได้สินค้าปลอมมา ก็มีน้ำตาตกใน อยากจะปาหัวแม่ค้า 

เอาเป็นว่ารีวิวนี้ เวฟมารีวิวสกินแคร์ที่ประทับใจ ผ่านประสบการณ์เจ็บๆให้ได้อ่านกันนะครับ 

เวฟเพิ่งจะมาเริ่มใช้สกินแคร์แบรนด์ Aesop ได้ไม่นาน เริ่มจากตัวสครับผิว และค่อยๆแตกหน่อเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นๆ ที่เวฟชอบคงเพราะความอ่อนโยน กลิ่นหอม มีส่วนผสมหลักสกัดจากธรรมชาติ จึงทำให้ทุกครั้งที่ใช้มีความมั่นใจว่าจะไม่ระคายเคืองผิว และก็จริงครับ ที่หลายๆผลิตภัณฑ์ที่ได้เลือกใช้นั้น มีความอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว ที่สำคัญ คือ ราคาก็จับต้องได้... คุณภาพเกินคุ้มครับ 

Aesop เป็นแบรนด์สกินแคร์ชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย ที่มีความ minimal สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายทั้งหญิงและชาย ผ่านรูปแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงรูปแบบ Shop ที่เรียบหรูดูสบายตา ในส่วนของคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ก็ยังคับคั่งด้วยคุณภาพของสารและส่วนผสมต่างๆ โดยมีส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติครับ

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เวฟจะมาพูดถึง ก็คือ Aesop Parsley Seed Anti-Oxidant Serum ขอเรียกว่าเป็นนางเอกของทางแบรนด์ Aesop นะครับ

Aesop Parsley Seed Anti-Oxidant Serum เป็นเซรั่มเนื้อเข้มข้นแต่ให้ความบางเบา และซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ถูกสร้างสรรผ่านการผสมผสานสารสกัดธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนซ์ อีกทั้งส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันชั้นผิว 

โดยส่วนผสมที่น่าสนใจ มีดังนี้

1. Grape Seed Extract : สารสกัดเมล็ดองุ่น ที่มีสาร Antioxidant ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยคงความอ่อนเยาว์ของผิว

2. Aloe Barbadensis Leaf Juice : สารสกัดว่านหางจระเข้ ที่มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง

3. Camellia Sinensis Leaf Extract : สารสกัดใบชาเขียว ที่ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะ อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

4. Panthenol : เป็น Pro-Vitamin B5 ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว 

5. Parsley Seed Oil : น้ำมันจากเมล็ดพาสเลย์ ที่อุดมไปด้วยแหล่ง Antioxidant และมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิวได้ดี

วิธีการใช้ : เวฟใช้หลังการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์แล้ว โดยจะใช้เซรั่มประมาณ 3-4 หยด โดยใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เวลาทาจะนวดและยกกระชับใบหน้าไปด้วยครับ สัมผัสแรกๆแอบข้นๆเหนียวๆ แต่พอลงบนผิวแล้ว ซึมซาบไวและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ได้ความสบายผิวมากๆครับ

ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังการใช้ : เซรั่มตัวนี้เป็นเสมือนอาหารผิว ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิว ทำหน้าที่เสมือนป้อมปราการที่คอยปกป้องผิวจากมลภาวะ ด้วยส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระตามที่เวฟได้กล่าวไป คนที่กลัวแก่อย่างเวฟ จึงจำเป็นต้องมี พอยิ่งได้ใช้ต่อเนื่อง ก็ยิ่งมั่นใจ ตอนนี้สิวผด ผื่นคันจากฝุ่นละอองก็ลดลง เซรั่มขวดนี้ไม่ได้ทำให้ รอยสิวลดลง แต่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันจากมลภาวะ สิวที่เหมือนจะอักเสบก็ทุเลา ยุบตัวลงครับ นอกจากเรื่องผิวที่เวฟประทับใจ ประสบการณ์ผ่านกลิ่น เวฟก็ขอยกนิ้วให้ เพราะกลิ่นนั้นหอมมาก มีกลิ่นของดอกลาเวนเดอร์นำ ดมแล้วผ่อนคลาย ยิ่งใช้ก่อนเข้านอน จะทำให้จิตใจสงบ พร้อมเข้านอนกันเลยครับ ....บรรยายซะขนาดนี้แล้ว ไม่ลองไม่ได้แล้วนะครับ

***มาจ้า มาถึงช่วงแฉ !!!!! นี่เอง เจ้ากรรมของเวฟ เจ้าตัวปัญหาของเวฟ จากการเจอตัวปลอม ที่ไม่ใช่นางเอกตัวจริง มันเกิดอะไร รู้ได้ไง มาดูกันครับ…

ก่อนจะมาเป็นรีวิวนี้ และเกือบเสียโฉมเพราะความสะเพร่าของตนเอง วันนี้จึงขอนำเสนอวิธีการสังเกตดูว่าเซรั่มขวดไหนว่า “จริงหรือปลอม” 

เวฟมองไม่ออกเลยตอนแรก เพราะไม่เคยใช้ รูปขวดที่ซื้อกับแม่ค้าออนไลน์ก็เหมือนกับสินค้าจริงมากๆ มารู้ก็ตอนที่ได้มาแล้ว และเพื่อนบอกว่า กลิ่นต่างจากที่ใช้ รวมถึงเนื้อสัมผัส ด้วยเหตุนี้จึงต้องสืบ ต้องตามหาความจริงครับ

ซึ่งขอสังเกตุของปลอมจากประสบการณ์ของเวฟ มีดังนี้ 

1. ตัวหนังสือบนฉลาก : สังเกตจากรูปฉลากได้เลย เมื่อดูให้ละเอียดจะเห็นความผิดปกติ ของจริงจะมีการเน้นข้อความด้วยตัวหนา ในขณะที่ของปลอม ตัวอักษรจะเท่าๆกันครับ

2. สีเนื้อผลิตภัณฑ์ : สินค้าปลอมสีจะใส ลักษณะคล้ายน้ำเปล่า ในขณะที่ตัวจริงจะมีสีชา ออกเหลืองเล็กน้อย ตามรูปครับ

3. กลิ่นและเนื้อสัมผัส : สินค้าปลอมจะไม่มีกลิ่น เนื้อสัมผัสเหลวติดมัน ทาแล้วไม่ซึมลงผิว ทิ้งความมันครับ ในขณะที่สินค้าจริง จะมีกลิ่นหอมจากส่วนผสมธรรมชาติ เนื้อสัมผัสจะเหลวแบบติดหนืด แต่เมื่อทาลงบนผิวจะซึมลงอย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ได้สัมผัสบางเบาสบายผิวครับ

หลังการดราม่าเรื่องเจอของปลอมจากร้านค้าออนไลน์ และได้ไปซื้อของจริงกลับมาใช้จาก Counter Brand เวฟใช้แล้ว ประทับใจ จึงกลับไปดูผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆในไลน์เดียวกัน (Parsley Seed) เพิ่มเติมครับ ซึ่งทาง BA ก็แนะนำเป็น Cleanser และ Toner มาให้ใช้ เพื่อจะได้ช่วยให้การทำงานของเซรั่มนั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ 2 ตัวหลังนี้ เวฟเพิ่งจะได้เริ่มใช้ครับ จึงขออนุญาตพูดคร่าวๆ แบบเห่อสินค้าให้ฟังกันครับ

ตัวที่ 1 Cleanser : Aesop Parsley Seed Facial Cleanser ตัวนี้เป็นตัวล้างหน้าเนื้อเจลเหลวที่มีคุณสมบัติมากกว่าแค่การทำความสะอาดผิว เนื่องจากมี Lactic Acid ที่จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนๆ ผสานกับ Jojoba Oil ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึงหลังการล้างหน้า สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นครับ ส่วนตัวก็ชอบครับ ทำความสะอาดผิวได้ดี แต่วันไหนที่แต่งหน้าจัด หน้าแน่น ก็จะใช้เป็นตัวอื่นแทนครับ ตัวนี้เวฟไว้ใช้ในวันสบายๆ ซึ่งทุกครั้งที่ใช้จะได้กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ อันเป็นส่วนผสมหนึ่งของผลิตภัณฑ์ด้วยครับ

ตัวที่ 2 Toner : Aesop Parsley Seed Anti-Oxidant Facial Toner โทนเนอร์อีกตัวที่ได้ลองแล้วถือว่าดีเลยครับ ส่วนตัวเวฟใช้ประหนึ่งเป็นน้ำตบ เนื่องจากเนื้อที่บางเบา ซึมง่าย กลิ่นหอมผ่อนคลาย ที่สำคัญคือ ส่วนผสมที่เกินคำว่า โทนเนอร์ครับ ด้วยความที่มี Parsley Seed, Lavender Stem และ Blue Chamomile เข้ามาเป็นส่วนผสมหลัก จึงทำโทนเนอร์ตัวนี้ทำหน้าที่ได้มากกว่าการเตรียมผิวก่อนการลงสกินแคร์บำรุงถัดไป เนื่องจากส่วนผสมของโทนเนอร์ขวดนี้อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดการระคายเคืองผิวได้ดี วันไหนที่ต้องไปเผชิญกับแสงแดด ฝุ่นละอองนานๆ กลับมาแล้วใช้โทนเนอร์ขวดนี้หลังการล้างหน้า ผิวก็จะได้รับการปลอบประโลม ส่วนตัวคิดว่า โทนเนอร์นี้สามารถช่วยป้องกันแนวโน้มของการเกิดสิวได้ครับ

โทนเนอร์ขวดนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ใครที่กำลังมองหาโทนเนอร์มาใช้ ก็ลองพิจารณากันดูครับ

สุดท้ายนี้ ฝากเตือนสติเพื่อนๆขาชอปปิ้ง รักงานผิว อย่าหลงมัวไปกับราคาถูกๆโดยไม่ได้ดูว่าร้านค้าที่ซื้อนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ …ดีที่สุด มั่นใจที่สุดก็ไปซื้อที่ Counter Brand หรือไม่ก็ Official Website ยิ่งตอนนี้แต่ละแบรนด์ก็ออกโปรโมชั่นมาล่อตาล่อใจกันสุด จ่ายแพงกว่าหน่อย แต่ได้ความสบายใจ ประทับใจจากการบริการ มั่นใจว่าสินค้าแท้ ไม่ต้องกังวลตอนทา ที่สำคัญคือ ของแถมก็ได้มาด้วย อย่าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบเวฟให้เจ็บ เพราะ คนที่ช้ำ คือ เรา

ปล. เวฟไม่ได้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อร้านค้าออนไลน์นะครับ แม่ค้า พ่อค้าที่ดี ที่น่ารักก็มีกันเยอะครับ ….รีวิวนี้เพียงแค่เข้ามาเตือนผ่านประสบการณ์

ขอให้ทุกๆวันเป็นวันสุขในการชอปปิ้ง

ขอบคุณครับ