เหตุไฉน เสน่ห์พระเอกซีรีส์ญี่ปุ่นจึงอยู่ในใจเราเสมอ

"พระเอกซีรีส์ญี่ปุ่น"  สิ่งมีชีวิตที่จับจองพื้นที่หัวใจหญิงสาวชาวไทยมาเนิ่นนาน    แม้กระแสที่หมุนเปลี่ยนอาจจะทำให้ยุครุ่งโรจน์ของซีรีส์ญี่ปุ่นในช่อง Free TV ได้เลือนหายไป   แม้แต่ซีรีส์เรตติ้งสูงปรี๊ดก็ไม่ได้หมายความว่าจะหาติดตามชมที่ streaming service กันได้ตามใจอยาก   หลายคนยอมรับว่า  ความนิยมระดับ mass ถูกจำกัดลงเป็นเฉพาะกลุ่ม     แม้จะส่งออกผลงานสู่ต่างประเทศได้สม่ำเสมอ   แต่เราก็มักจะโหยหาบรรยากาศเดิมๆที่เคยพร่ำเพ้อถึงเสน่ห์พระเอกญี่ปุ่นกับเพื่่อนสาวอยู่เสมอ

เพราะอะไร พระเอกในซีรีส์ญี่ปุ่นจึงสร้างความตราตรึงให้กับเราได้อย่างเสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็นพระเอกวัยdaddyที่โลดแล่นในวงการมานานหรือหนุ่มเอ๊าะกระดูกอ่อนก็สร้างความสดชื่นในหัวใจได้เสมอ


มาวิเคราะห์กับพวกเราได้ค่ะ

ความเท่ แบบผู้ชายที่พึ่งพาได้

ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์ญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่จะต้องพบเห็นคือ การเชิดชูบทบาทของผู้ชายที่เข้มแข็งเป็นที่พึ่งพาได้ แท้ที่จริงแล้ว สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในซีรีส์เท่านั้น แต่ในชีวิตจริง เมื่อตั้งคำถามกับคนญี่ปุ่นเอง นี่คือคุณสมบัติสำคัญที่พวกเค้ามองหาจากตัวชายหนุ่มผู้มาดแมนผู้มีออร่าความแข็งแกร่งพร้อมจะปกป้องคุณเสมอ

พระเอกเหล่านี้จะรู้สึกภาคภูมิใจหากคนที่รักเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ และจะทุ่มเททุกหนทางเพื่อช่วยให้คนรักก้าวผ่านอุปสรรคไปให้ได้ แต่หากฝ่ายหญิงพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง อาจจะทำให้รู้สึกไม่พอใจ หรือเป็นสาเหตุในการทะเลาะเบาะแว้งกันก็เป็นได้ ไดอะล็อคที่พวกเราคุ้นเคยจากพระเอกสายนี้คือ

"เธอเห็นฉันมันไม่เอาไหนขนาดนั้นเลยรึไง"

 แฟนๆ ซีรีส์ญี่ปุ่นที่บ้านเราอาจจะจดจำ ทาเคชิ โซริมาจิ ในภาพพระเอก GTO ในเวอร์ชั่น  live action    ด้วยการสวมบทบาทอดีตนักเลงที่ผันตัวมาเป็นครูได้โดนใจแฟนๆไม่ว่าจะอ่านมังงะมาก่อนหรือไม่ก็ตาม         ก่อนที่จะได้รับบทนี้ ตัวของเซนเซเจ้าของผลงานก็ได้แสดงความปลาบปลื้มในความเท่ของโซริมาจิไว้ในมังงะซะด้วยซ้ำ   ในช่วง 90s ถึง 2000s   เขาได้ฝากผลงานเรตติ้งสูงปรี๊ดไว้หลายเรื่อง ก้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นจากพระเอกในช่วงเดียวกัน ทั้งผิวคล้ำจัด  รูปร่างสูงเพรียว    ท่าทางและน้ำเสียงมาดแมน   ในยุคนั้น โซริมาจิคือหนุ่มในอุดมคติของชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้       ลักษณะของผู้ชายที่เข้มแข็งนั้นทำให้สาวๆรู้วกหวั่นไหวอยากโผเข้าไปซบ  ส่วนผู้ชายก็มองเขาเป็นต้นแบบในความเท่    


ก่อนที่GTO จะสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จ  โซริมาจิเคยจับมือกับยูทากะ ทาเคโนะอุจิที่ถือเป็นพระเอกหน้าหล่อเบ้าขั้นเทพตลอดการของวงการบันเทิงญี่ปุ่น  ด้วย bromance แบบแมนๆ ของสองหนุ่มที่มีนิสัยแตกต่างกัน  บวกกับคอนเสปท์ของ "การค้นหาตัวเอง"  ที่พบได้เสมอในซีรีส์ญี่ปุ่น   ทำให้ผลงานเรื่องนี้โกยเรตติ้งถล่มทลาย      แน่นอนค่ะว่า ตัวเรียวดกะ ฮิโรสุเอะที่รับบทนางเอสาวในนั้นน่ารักจนดังเปรี้ยงปร้าง  แต่ศูนย์กลางของเรื่องต้องยกให้ชายหนุ่มทั้งสอง    คนที่ยังไม่ได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของเรื่องนี้ อาจจะมองว่า   ยูทากะกินขาดเรื่องความหล่อ    แต่ขอยืนยันว่าทั้งคู่โดดเด่นกินกันไม่ลง    ในขณะที่ยูทากะเป็นหนุ่มหล่อที่ดูสมบูรณ์แบบและสุขุมนุ่มลึกรักษามารยาทตามแบบแผนดั้งเดิม   โซริมาจิถ่ายทอดความสดใสร่าเริงที่ดูเหมือนไม่จริงจังกับชีวิต  แต่ที่จริงแล้ว  ผ่านประสบการณ์หล่อหลอมจนเข้มแข็ง และช่วยสร้างความสุขให้กับคนรอบข้างเสมอ    เห็นแล้วอยากจะเข้าไปอ้อนเลยทีเดียว

พระเอกที่มีเสน่ห์แบบหนุ่มธรรมด๊าธรรมดา

หลายคนอาจจะฝังใจว่า character ของพระเอกที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ผู้ชมปลาบปลื้มนั้นจะมีคุณสมบัติเลิศเลอ เป็นทายาทมหาเศรษฐี ความฉลาดระดับอัจฉริยะ พูดได้หลายภาษา มีทักษะการทำงานเหนือกว่าคนอื่น หล่อเหลา-รูปร่างสูงใหญ่ เดินไปที่ไหนผู้หญิงต้องซุบซิบและแสดงความปลาบปลื้มแบบไม่เก็บอาการ

แต่นั่นไม่ใช่ภาพที่คุณสามารถคาดหวังจากพระเอกซีรีส์ญี่ปุ่นเสมอไป แต่เรามักจะเห็นที่ดูธรรมดาๆ ไม่โดดเด่นหรือมีความเป็นผู้นำ หลายครั้ง self esteem ก็ต่ำจนต้องคอยลุ้นจนหืดขึ้นคอ เอาเป็นว่า ภาพลักษณ์ในอุดมคติ


และดูไปดูมา  คุณกลับอินได้ยิ่งกว่าพระเอกที่เหมือนกับเจ้าชายซะอีก!

แน่นอนว่า คาซึยะ คาเมะนาชิเป็นไอดอลที่มีจุดเด่นเรื่องหน้าตาอันดึงดูดใจ แต่เมื่อผ่านช่วงวัยรุ่นไป เขาก็ไม่ได้รับแสดงแต่บทหนุ่มหล่อกระชากใจสาวๆเพียงเท่า ในซีรีส์ I'm Your Destiny เขาเป็นเซลแมนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แต่เพราะอยากมีรักแท้ จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างความประทับใจต่อตัวผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นคู่แท้ แต่ต้องผิดหวังเมื่อเธอผลักไส

แฟนๆอาจจะคุ้นเคยกับภาพคาเมะที่เป็นไอดอลหนุ่มผอมเพรียวหน้าเรียวเล็กที่รับบทหนุ่มหล่อกระชากใจในซีรีส์   แต่เมื่อเขาพลิกบทบาทมาเป็นผู้ชายเด๋อด๋าที่ไม่ได้มีต้นทุนสูง  แต่กลับเป็นบทที่กระตุ้นกระแสความนิยมให้สูงปรู๊ดขึ้นมา    รวมไปถึงการนำเสนอ bromance   ทำให้คู่คาเมะ - ยามะพี ได้จับมือร่วมงานแพคคู่ต่อแม้ว่าซีรีส์จะจบไปนานแล้ว 

 bromance เป็นอีกจุดแข็งของพระเอกญี่ปุ่น    มันอาจจะทำให้บางคนคิดว่าเป็นวิธีดึงดูดเป้าหมายคนดูที่นิยมความ Y  แต่ก็ไม่ใช่ว่าพระเอกเค้าจะมีเคมีเข้ากันไปหมดนะ  แต่ถ้าจับคู่คนที่เข้ากันได้  บางฉากคนดูอาจจะลืมนางเอกไปด้วยซ้ำ!

คนที่คิดว่า ซีรีส์รักหวานแหววเรตติ้งสูงจะจำเป็นต้องมีพระเอกหล่อล่ำที่เห็นแค่ภาพนิ่งก็ยังต้องแอบใจเต้น We Married as a Job ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เสมอไป ในช่วงหลังมานี้ เราจะไม่ได้เห็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีเรตติ้งถล่มทลายเกิน 30-40% กันเท่าใดนัก แม้แต่ซีรีส์ยอดนิยมที่สร้างเสียงกล่าวขวัญใน SNS เรื่องความหล่อน่าฟัดของพระเอก ถ้าทำเรตติ้งสูงกว่า 15 % ไปได้ก็ถือว่าสวยงามแล้ว แต่เราจะมาพูดถึง เกน โฮชิโนะ พระเอก We Married as a Job ที่ปิดฉากจบอย่างสวยงามไปที่ 20.8% !

เขาคือศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นทางสายดนตรี และสำหรับงานแสดง นั้น เขามักจะได้รับบทสมทบ และอาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับผู้ชมในต่างประเทศนัก
แต่หลังจากที่รับบทวิศวกร IT ผู้แข็งทื่อและไม่เปิดใจให้กับเรื่องความรัก   เชื่อได้ว่าเขาได้กลายเป็นที่จดจำให้กับแฟนซีรีส์สายหวานไปแล้ว

   ความน่ารักของฝ่ายหญิงนั้นไม่ต้องพูดถึง  เพราะดูใสๆเป็นธรรมชาติ จึงถูกยกให้เป็นสาวใฝันของหนุ่มญี่ปุ่นจำนวนมาก   แต่ถ้าถามว่า เธอเป็นฝ่าย "แบก"  ซีรีส์เรื่องนี้อยู่ผู้เดียวหรือไม่ ?  เรามั่นใจว่า  ทั้งกักกี้และเก็นซังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ We Married as a Job ประสบความสำเร็จอย่างสูง    ถึงขั้นที่นึกภาพพระเอกเรื่องนี้เป็นคนอื่นแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่เลย     เมื่อพิจารณาจากเคมีของพระนางแล้ว     นี่ดูเหมือน นี่คือ casting ที่เป๊ะสุดๆ   ทั้งๆที่เขาอาจจะไม่ใช่พระเอกของผู้ที่ปลาบปลื้มหนุ่ม perfect


- พระเอกกับนางเอกสูงไล่เลี่ยกัน จากหลายๆมุม กักกี้ดูสูงกว่า ขายาวกว่า
- พระเอกไม่ได้ใส่ใจเรื่องแฟชั่น ดูเป็นหนุ่มสุภาพเรียบร้อย หัวโบราณ เข้าถึงยาก
- appealing เหมือนกับเป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำให้เรารู้สึกเกรงใจ หรือแอบอึดอัดถ้ามีบทสนทนาตามมารยาท

การหาเฟ้นหาพระเอกที่ทำให้บทนี้มีเสน่ห์ขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่จับหนุ่มน่ารักมาใส่แว่นมาทำท่าทางเคร่งขรึม เมื่อพูดถึงปมในใจที่ทำให้พระเอกเอาแต่สมเพชตัวเอง ไม่เปิดใจยอมรับความรักจากผู้หญิงที่ตัวเองรู้สึกดีๆด้วยนั้นก็อาจดู "เยอะ" แต่ส่วนผสมของบทและการแสดงที่ลงตัว ทำให้แฟนๆช่วยล้นเต็มกำลัง เรียกได้ว่า แค่เห็นพวกเค้ากอดกันแบบงกๆเงิ่นๆก็ยังฟินได้   

พล็อทเรื่องการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักไม่ได้แปลกใหม่แม้แต่น้อย      ไอเดียของการทำงานเป็นภรรยาเพื่อรับค่าจ้าง โดยไม่ได้มีความสัมพันธ์บนเตียงหรือพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นคู่ชีวิตที่แท้จริงอาจจะฟังดู "จืด" ไปซะด้วยซ้ำ   แต่กรณีของคู่นี้ ฝ่ายนางเอกดูจะเป็นคนที่ตกหลุมรักก่อน และฮึดพยายามทำทุกทางที่จะทำให้เขายอมรับเธอในฐานะคนรัก ไม่ใช่ลูกจ้าง   ยกเว้นการพูดออกมาตรงๆว่า "ฉันรักคุณ เรามารักกันเถอะ"  เพราะมั่นใจว่าจะยิ่งทำให้เขาตีตัวออกห่างไปซะยิ่งกว่าเก่า  


แน่นอนค่ะว่ากักกี้น่ารักมากจนทำให้แฟนๆชาวญี่ปุ่นฮือฮาว่าเธอจะคาวาอี้อะไรได้ถึงขนาดนี้ เธอพยายามใช้ความรู้ที่จบจิตวิทยามาช่วยวิเคราะห์คุณสามีเพื่อหาหนทางเพื่อชักจูงให้เขาเปิดเผยความรู้สึกออกมา เพราะเป็นคนช่างจินตนาการจึงคิดภาพของต้นตอปัญหาและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเป้นระบบ เมื่อแน่ใจว่า เขามี self esteem ต่ำ ก็ค่อยๆพลิกแพลงวิธีการแสดงออกช่วยให้เขาเห็นคุณค่าตัวเองและเปิดใจยอมรับความรู้สึก เรียกได้ว่าลุ้นกันเต็มที่ และเรื่องราวที่ร้อยเรียงออกมาชวนจิ้นมากๆโดยไม่ต้องยึดติดกับคุณสมบัติผู้ชายในฝันที่เลอเลิศไร้ที่ติ

ตัวตนของดีน ฟุจิโอกะที่ไม่ได้อยู่หน้ากล้องอาจจะต้องกับภาพชายหนุ่มในอุดมคติของหลายคน  ดูภายเพียงภายนอกก็จะพบกับรูปลักษณ์หล่อเหลาที่ดึงดูดใจ ผิวพรรณดี ส่วนสูง 180 cm    และยังสร้างเสียงกล่าวชวัญจากภาพลักษณ์หนุ่มอินเตอร์ที่นอกจากจะพูดภาษาอังกฤษไฟแลบแล้วก็ยังสื่อสารภาษาจีนกวางตุ้ง ,จีนกลาง และอินโดนีเซียได้คล่องแคล่ว    ชื่นชอบการเล่นกีฬา ศิลปะป้องกันตัว เป็นนักดนตรีมืออาชีพ    ตอนใส่สูทนั้นหล่อใจละลายไปเลย  แต่พอสลัดลุคหนุ่มเป๊ะมาแสดงเป็นเจ้าของร้านอาหารจอมอารมณ์บูดใน Please Love the Useless Me ก็น่ามองไปอีกแบบ    แม้ว่าแทบทั้งเรื่องจะใส่ผ้ากันเปื้อนทำอาหารตลอดไม่ได้มาพร้อมกับแฟชั่นเสริมความหล่อเท่ แต่ก็ทำให้บรรยากาศรอบตัวหนุ่มปากร้ายที่แอบใจดีดูอบอุ่นขึ้นมา

พระเอกเรื่องนี้ได้เป็นตัวแทนของคนที่ไม่วิ่งไขว่คว้าหาชีวิตที่ผู้คนในสังคมตั้งเป้าจะวิ่งไขว่คว้าให้ถึง เขาเคยเป็น salary man ที่ดูจะมีอนาคตมั่นคงเพราะก้าวเป็นหัวหน้าได้ตั้งแต่ยังหนุ่มๆ แต่ลาออกเพราะต้องการสืบกิจการร้านเล็กๆของญาติผู้ใหญ่ จนหลายคนตั้งคำถามว่า "บ้าไปแล้วรึเปล่า ?" แต่จำเป็นด้วยหรือที่ความสำเร็จของทุกคนจะต้องเป็ไปตามแพทเทิร์นเดียวกัน ? หลายคนอาจจะสร้างชีวิตที่มั่นคงจากหน้าที่การงานในบริษัทใหญ่ แต่ก็ยังมีคนที่ต้องการจะรักษาธุรกิจครอบครัวที่มีความหมายต่อจิตใจ และทิ้งงาน full time ในบริษัทมาทำตามปณิธานของตัวเอง แม้ชีวิตจะมีขึ้นลง ก็ไม่ได้หมายความว่า การเลือกทำอาชีพมาสเตอร์ร้านอาหารเล็กๆจะเป็นการก้าวผิดทาง

แคแรคเตอร์ของดีนซังในเรื่องนี้ตรงกับพระเอกยอดนิยมในวงการซีรีส์ญี่ปุ่นที่เราพูดถึงในข้อแรกเป๊ะ นั่นคือ ความปากแข็ง ไม่ถนอมความรู้สึกอีกฝ่ายด้วยคำพูดและการแสดงออกที่อบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็คอยให้คำแนะนำแบบตรงๆแรงๆและเป็นที่พึ่งพิงให้ความดูแลนางเอกเสมอ

พระเอกแสนเย็นชาที่มีบาดแผลฝังใจจนยากที่จะรักใครได้อีกครั้ง

ทำไมพระเอกซีรีส์หลายเรื่องจะต้องมีบาดแผลในใจจนทำให้กลายเป็นคนเย็นชา ? เราคงไม่ไปไล่วิเคราะห์หาคำตอบ แต่พระเอกในหมวดนี้ช่างดูมีเสน่ห์ลึกลับ มีพลังดึงดูดให้เข้าหายากที่จะต้านทานได้

ดังที่เล่าไปแล้วว่าเบ้าหน้าหล่อเหลาของยูทากะ ทาเคโนะอุจินั้นชื่อลือชามากว่ายี่สิบปี จากบทพระรองใน "สวรรค์ลำเอียง" ดราม่าน้ำตานองที่แสนลือลั่นจากยุคซีรีส์ช่อง3 ช่วงบ่าย ไล่มาจนถึง Beach Boys ในยุคITV เมื่อได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกสุดhot เต็มตัว บทที่ส่งเสริมให้ออร่าพระเอกสุดhot ยิ่งเปล่งประกาย ย่อมหนีไม่พ้นบทผู้ชายที่ฝังใจกับอดีตจนตั้งแง่กับความรัก จากสูตรสำเร็จที่ว่า ความรักบริสุทธิ์ของหญิงสาวแสนดีเปรียบเหมือนกับยารักษาบาดแผลให้ใจของเขาฟื้นคืนจนกลับมารักใหม่ได้อีกครั้้ง

ในยุคนั้นคอนเสปท์แบบสื่อรักออนไลน์ยังแปลกใหม่ในบ้านเราเพราะ internet ไม่ได้แพร่หลายไปทุกหนทุกแห่งเหมือนปัจจุบันนี้     ความคิดที่ว่า เราจะหลงรักใครบางคนที่ไม่เคยพบหน้า เพียงแต่พูดคุยอย่างถูกคอผ่านอีเมลนั้นอาจจะไม่ได้ฟังดูเหลือเชื่อนัก  แต่ถ้าหากว่า  เพื่อนปริศนาที่ทำให้ใจหวั่นไหวเป็นคนที่รู้จักกันอย่างผิวเผินในชีวิตจริง และพวกเค้าไม่ได้ปลาบปลื้มนิสัยที่แตกต่างสุดขั้วของอีกฝ่ายนัก      เรื่องราวจะเป็นเช่นไรหากได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกันว่าเป็นเพื่อนทางจดหมายที่ส่งข้อความปลอบประโลมจิตใจถึงกันจนเกิดเป็นความรัก

 With Love เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ปิดตัวด้วยเรตติ้งเกิน20%  และทำให้เราได้รับรู้อย่างแจ่มแจ้งว่า ยูทากะ ทาเคโนะอุจิช่างเหมาะกับบทหนุ่มเย็นชาซะจริงๆ!

ถ้าจะบอกว่า ฮาตะซังแห่ง With Love  และเคโกะแห่ง Precious Time เป็นพระเอกแฝดก็คงไม่เกินไปนัก  นอกจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อสะท้านใจคล้ายๆกัน    ยังเป็นบทโพรดิวเซอร์หนุ่มที่มีแผลใจจนไม่สามารถแต่งเพลงรักได้    สูบบุหรี่มวนต่อมวน เป็นเพลย์บอยที่หาความสำราญจากร่างกายผู้หญิงแบบไม่ผูกมัด  แสดงท่าทางที่เย็นชาทำร้ายจิตใจนางเอกหลายครั้ง  แต่ซ่อนตัวตนที่อ่อนโยนไว้ภายใน

บทบาทพระเอกเย็นชานี้มีความท้าทายไม่น้อยเลย  เพราะต้องแสดงออกมาให้สัมผัสถึงความเท่ โดยไม่เกิดอคติว่าเก๊กจนน่าหมั่นไส้    เท่มาจาก inner ตั้งแต่ท่าเดินไปจนถึงตอนถอนหายใจ   ส่วนตัวแล้วพระเอกในยุค 90sจะมี charisma ที่ลงตัว ดูไม่ประดิษฐ์ฝืนความรู้สึก   ผ่านไปนานมากแล้วก็ยังจดจำความรู้สึกที่ติดซีรีส์งอมแงม ทั้งๆที่ไม่มี subtitle และต้องอดนอนตาม ไม่งั้นก็พลาดไปตลอดเพราะยังไม่มี service ให้ติดตามชมย้อนหลัง

พระเอกอึนๆ ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกตัวเองชัดเจน

ซีรีส์รักฝั่งญี่ปุ่นมักจะมาพร้อมกับเรื่องของการพัฒนาตัวเอง  ผู้ชมจะได้เรียนรู้ถึงการเติบโตของตัวละครที่ต้องรับมือกับอุปสรรคในชีวิตทำงานและปัญหาหัวใจ   เมื่อย้อนมองถึงพล็อทเรื่องที่ดูเรียบง่ายแบบ romance ในออฟฟิศจาก Love Generationจึงเป็นตำนานซีรีส์หวานที่คนญี่ปุ่นยังหยิบยกมาชื่นชมถึงทุกวันนี้ ก็ทำทำให้ตั้งคำถามกับตัวเอง  ที่จริงแล้ว  ไม่ค่อยปลาบปลื้มนิสัยสาวจอมจุ้นเอาแต่ใจของนางเอกเท่าใดนัก  แต่เพราะอะไรมันจึงเป็นผลงานที่ "ซ้ำ"  ได้เรื่อยๆ   และพบคำตอบว่า  นอกจาก ทากาโกะ มัตสึจะแสดงเป็นริโกะได้อย่างน่ารักน่าหยิกแล้ว  การจับคู่กับพระเอกอย่างป๋าทาคุยะนั้นมี impact สำคัญ  เคมีที่หลั่งไหลเข้าหากันทำให้ฉากแบบพ่อแง่แม่งอนดูน่าติดตามขึ้น

ตอนที่ Love Generation กำลังกอบโกยความสำเร็จ ทาคุยะที่เพิ่งเข้าวัย25 เท่านั้น    แตไม่ได้เป็นมือใหม่ในวงการ  เพราะนอกจากจะดังเปรี้ยงในฐานะไอดอลทรงอิทธิพล  ก็ยังมีผลงานการแสดงที่โด่งดังมาแล้วหลายเรื่อง    ภาพของเทปเปที่เป็นครีเอทีฟผู้มีพรสวรรค์ แต่อีโก้สูงไม่ยอมปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมองค์กรแบบญี่ปุ่นได้สะท้อนภาพแห่งความนำสมัยในโลกการทำงานยุค 90s  ที่เริ่มมีผู้แสดงด้านที่เป็นขบถสังคมแต่หากความแข็งกร้าวมากเกินไปก็หลีกเลี่ยงบทลงโทษไปไม่พ้น  ในที่สุดก็ต้องเรียนรู้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการทำงานเป็นทีมและสร้างวิกฤติให้เป็นโอกาสในการก้าวหน้าอีกครั้ง

ถึงจะดูเก่งกาจมีพรสวรรค์เพียงใด  แต่พอเป็นเรื่องความรักกลับตกม้าตาย   เทปเปเป็นพระเอกญี่ปุ่นในสูตรสำเร็จที่ัมีผู้หญิงในดวงใจที่ยังทำใจลืมไม่ได้ แต่เมื่อมาพบกับเพื่อนร่วมงานอย่างริโกะที่จุ้นจ้านจนเขารำคาญ แต่เธอสกลับอ่านความคิดในใจเขาได้แม่นยำและพูดจาแทงใจดำให้ไปไม่เป็นหลายครั้ง  ความใกล้ชิดและสถานการณ์เป็นใจก็ทำให้ทั้งคู่ใจตรงกันจนได้    แต่เพราะความรักไม่ใช่นิยายชวนเพ้อฝันที่ชายหญิงรักกันแล้วก็ happy ending   กว่าจะทำความเข้าใจกันได้ก็ล้มลุกคลุกคลานเจ็บไปทั้งสองคน

ความน่ารักของทาคุยะในเรื่องนี้คือ  แม้นางเอกจะขี้งอนมากแค่ไหน  เขาจะเป็นฝ่ายง้ออยู่เสมอ  แม้จะไม่ได้ป้อนคำหวานแต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ หรือชดเชยเมื่อตัวเองทำผิด จะบอกว่าเป็นแฟนหนุ่มในฝัน ก็อาจจะไม่ตรงใจไปหมดทุกอย่าง  แต่ก็รู้สึกคุ้นเคย เหมือนกับว่าเคยเจอหนุ่มปากแข็งแต่ใจดีแบบนี้มาก่อน

เพียงหนึ่งปีก่อนที่ Love Generation จะออนแอร์     ทาคุยะก็เพิ่งสร้างความสำเร็จจาก Long Vacation  ด้วยเรตติ้งตอนจบที่พุ่งไปถึง 36.7    ที่แม้ว่าทั้งสองเรื่องนี้มีเนื้อเรื่องที่แตกต่างแต่ก็มีจุดเหมือนร่วมกันหลายประการ    
- พระเอกรักใครบางคนอยู่แล้วแต่ไม่สมหวัง
- นางเอกที่ร่าเริงสดใสเข้ามาเติมเต็มจิตใจที่เจ็บปวด
- เป็นกำลังใจให้กันเพื่อก้าวไปสู่ความฝัน
- ค่อยๆมีใจให้กันแต่ยังรู้สึกสับสนจนเกิดเป็นรักสามเส้า
- ค้นหาคำตอบจากเสียงหัวใจที่เรียกร้อง

ในปัจจุบันก็ยังมีการสร้างซีรีส์ที่โฟกัสชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ยังสับสนค้นหาตัวเองยังไม่เจอออกมา  แต่การก้าวไปใกล้เคียงความสำเร็จแบบซีรีส์หวานในตำนานก็ดูจะยากเย็นจริงๆ  นอกจากนั้น จะมีพระเอกสักกี่คนที่ฝากฝีมือการแสดงที่ประสบความสำเร็จถล่มทลายได้ติดต่อกันได้เหมือนกับทาคุยะ  ?

พระเอกซึนเดเระ

ความฟินของการติดตามพระเอกสุดซึนได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนแรกที่การแสดงออกอย่างจริงใจว่าไม่ปลื้มนางเอกแม้แต่น้อยนิด ติดจะรังเกียจ    แต่พอมาเจอลูกตื๊อชวนมึนของผู้หญิงก็ค่อยๆไหลตามไปทีละน้อย  ในใจก็พอจะรู้ดีว่าเริ่มหวั่นไหว  แต่จะไม่ยอมรับเด็ดขาด ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้น   ก็ยิ่งต้องต่อต้านออกมาแรงกว่าเดิม  ปฏิเสธตัวเองไปเรื่อยๆ   มีแต่คนดูที่สนุกสนานกับความคิดที่ว่า หนุ่มสุดเริ่ดกำลังตกหลุมของสาวสุดรั่วจนหาทางปีนหนีออกมาไม่ได้แล้ว

ความซึนระดับตำนานของท่านจิอากิแห่ง  Nodame.Cantabile นั้นไม่เป็นรองใคร    กว่าจะถูกบีบให้แสดงความรู้สึกออกไปก็ยาวไปตอนจบ    ก็พอจะเข้าใจได้บ้าง หากจะให้พระเอกมีคุณสมบัติมากล้น   อีโก้แรง มุ่งมั่นทะเยอะทะยาน  แต่ลิขิตเหนือฟ้าให้มาคู่กับสาวแอ๊บเป็นเด็กอมมือ ( แต่ข้างในแอบหื่น) มีความทนทานราวกับวัว  ไล่ยังไงก็ไม่ไป    แต่เขาเปิดโอกาสให้เธอมาวนเวียนใกล้ๆได้เพราะมองเห็นพรสวรรค์ที่ซุกซ่อนอยู่    แม้จะยี้ความเรื้อนของเธอมากแค่ไหน  แต่ดันเผลอใจชอบเข้าไปแล้ว   มันดูยากจะทำใจที่ต้องยอมรับ ถูกคนอื่นจับได้ว่ากอดโนดะเมะ ก็ต้องแก้ตัวว่า เป็นปฏิกิริยาเหมือนนักฟุตบอลที่โผกอดกันหลังทำประตูได้  เป็นซีรีส์ที่มีฉากชวนจิ้นน้อย แต่มาทีหนึ่งก็ชวนกรี๊ด มันช่างน่าตื่นเต้นเมื่อได้เห็นผู้ชายเย่อหยิ่งที่ผลักไสสาวขี้ตื๊อมาตลอดจะเสียอาการมาเป็นฝ่ายคลั่งรักแทน (ถึงจะนานๆทีก็เถอะ)

เมื่อปีที่แล้ว จากผลงาน Love Lasts Forever ทาเครุ ซาโต้ได้ฉีกบทบาทด้วยการรับบทหมอสาย S ที่ซึนเดเระน่าเอ็นดูจนเป็นกระแสฮือฮาใน SNS ญี่ปุ่น เพราะนี่คือ romance ที่คุณหมอพระเอกฉายาราชาปีศาจ กดดันน้องพยาบาลนักสู้ด้วยออร่าอำมหิตแบบ " ถ้าอ่อนแอก็แพ้ไป" แต่พอเอื้อนเอ่ยประโยคสำคัญว่า
" ถ้างั้นจะยอมคบด้วยก็ได้"
ความหวานก็บังเกิด !
เป็นความหวานที่มาพร้อมกับนิสัยดุดัน ไม่ยอมบอกรักออกมาตรงๆ แยกความรักจากเวลาทำงานได้อย่างเด็ดขาด แต่อย่าให้ได้มีโอกาสเหมาะ สาวในจะถูกปีศาจจู่โจมจนใจเต้นระรัว ดำเนินเรื่องไปถึงครึ่งหลังก็รุกหนักมาก นับได้ว่าเป็นการคืนกำไรให้กับติ่งก็คงไม่เกินไปนัก เพราะแม้ว่าจะรับบทที่หลากหลายมาตลอด แต่จะไม่ได้เห็นคาเครุในภาพพระเอกที่จงใจมาเรียกความฟินบ่อยนัก

พระเอกซึนเดเระดูจะแพ้ทางสาวที่มุ่งมั่น ร้ายใส่แค่ไหนก็ไม่ต่างจากชกหมอน ยังไงก็เด้งดึ๋งคืนกลับมาหา  ตอนแรกอาจจะไมชอบขี้หน้าจริงๆ  แต่เมื่อมีโอกาสใกล้ชิด ได้เห็นความทุ่มเทตั้งใจในเรื่องสำคัญอย่างหน้าที่การงานและจิตใจแสนดีที่ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน   ปากอาจจะคอยดุด่าว่ายัยบ้า  แต่คอยห่วงใยใส่ใจไม่ตรงกับทาทางโหดๆเอาซะเลย