สกินแคร์รูทีน ฉบับสาวผิวผสม แพ้แมสก์

55 20
WITH <strong>FYNE</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวจีบันทุกคนค่า 

ช่วงนี้สถานการณ์ของโควิด-19 ยังไม่ค่อยดีขึ้นเลย 

เราก็ยังคงมี WFH สลับกับไปทำงานที่ออฟฟิศ 

เลยถือโอกาสช่วงนี้กลับมาดูแลผิวหน้าตัวเองอีกครั้ง 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้แพ้แมสก์ แพ้ PM2.5 จนสิวบุกไม่หยุดเลย 


วันนี้เลยถือโอกาสมาแชร์ Skincare routine ที่เราใช้ในช่วงที่ผ่านมา 

ซึ่งเราค่อย ๆ ปรับมาเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าเซ็ตนี้แหละใช่กับผิวเราในตอนนี้ที่สุด 

ปัญหาสิวค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลยค่า

เริ่มต้นตั้งแต่การทำความสะอาดผิว 

ซึ่งเราให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้ที่สุดโดยเราจะใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้า

ก่อนล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตัวที่เราใช้คือ 


 NU FORMULA 

Oil Purifying Cleansing Water 

510 ml. / 490 บาท 


ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งสูตรสำหรับผิวผสม-ผิวมันและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถเช็ดทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ไม่ทิ้งความมันตกค้าง ไม่ทำลายสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ มี Hyaluron ช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังเช็ด มี Zinc PCA ช่วยควบคุมความมัน ลดการเกิดสิวซ้ำซาก ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เมื่อใช้ต่อเนื่องรู้สึกสิวน้อยลง

คลีนซิ่งตัวนี้เป็นน้ำใส ๆ ไม่แต่งสี ไม่มีกลิ่นน้ำหอม 

หลังเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า รู้สึกว่าผิวสะอาด แต่ไม่แห้งตึง

และไม่มีความมันส่วนเกิน เหมือนเค้าช่วยสร้างสมดุล

ระหว่างน้ำกับน้ำมันบนผิวหน้าไว้ 


เราใช้ทุกวันตอนเย็น พอกลับมาถึงบ้านจะรีบเช็ดหน้าก่อนเลย 

ถ้าช่วงสัปดาห์ไหนที่สิวบุกเยอะ เราก็จะเช็ดตอนเช้าก่อนล้างหน้าด้วยค่ะ 

เพื่อความสบายใจ

เช็ดหน้าแล้ว ก็ล้างหน้ากันต่อ เราใช้ 


 Acne Aid Liquid Cleanser 

100 ml./ 197 บาท 


เราใช้สูตรสีแดง เป็นคลีนเซอร์ล้างหน้าสำหรับผู้มีปัญหาสิว 

เหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน ตัวนี้ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อ่อนโยน 

ไม่ทำร้ายผิว มีค่า pH ใกล้เคียงธรรมชาติของผิว 

ผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุง และปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล ไม่แห้งตึง

คลีนเซอร์ตัวนี้มีสีขาว เมื่อผสมน้ำจะไม่ค่อยมีฟอง 

เวลาล้างจะรู้สึกได้ว่าผิวมีความชุ่มชื้น ตัวนี้เราใช้มาหลายปีแล้ว 

แม้จะมีเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นบ้าง แต่ก็กลับมาซบอก Acne Aid สีแดงนี้ทุกครั้ง


เราใช้ทั้งเช้าและเย็นเลย ถ้าช่วงเย็นวันไหนรู้สึกว่าแต่งหน้าหนัก 

หรือรู้สึกว่าวันนี้ผิวเจอมลภาวะมาเยอะจะล้างหน้าซ้ำ 2 รอบเลยค่ะ  

ในขั้นตอนการบำรุงผิว เราเริ่มต้นด้วย 


 FYNE 

 BHA Clarifying Serum  

30 ml./ 990 บาท 


ตัวนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยลดการอุดตันของผิว เพราะมีกรดซาลิไซลิค 2% 

นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ โซเดียมไฮยาลูรอเนต 

ไฮโดรไลส์โซเดียม ไฮยาลูรอเนต และวิตามินบี 5 ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

รวมไปถึงยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากธรรมชาติ เช่น ใบบัวบก ดอกคาโมไมล์ 

แตงกวา ชาเขียว และอัลลันโทอิน ที่ช่วยปลอบประโลมผิว

และช่วยให้ รอยดำ รอยแดง ดูจางลง 


เซรั่มตัวนี้สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยค่ะ 

และเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือผู้ที่ผิวกำลังอ่อนแอ 

เพราะเซรั่มตัวนี้ไม่มีซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ 

พาราเบน และมิเนรัลออย

เนื้อเซรั่มของ FYNE BHA Clarifying Serum จะเป็นเนื้อเจลใส 

ทาแล้วซึมซาบลงผิวได้ดี ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ 


เราใช้เป็นประจำทั้งตอนเช้าและเย็น หลังจากใช้ต่อเนื่องรู้สึกเลยว่าผิวดีขึ้นมาก 

สิวอุดตันที่ขึ้นตามรอยแมสก์ค่อย ๆ แห้ง และกดออกง่ายมาก 

สิวที่อักเสบก็แห้งไวขึ้นด้วยค่ะ ทาแล้วไม่แสบแผลเลย 

สัมผัสได้ว่าอ่อนโยนมากจริง ๆ รู้สึกเหมือนเจอเนื้อคู่ที่ตามหามาแสนนาน 

ถ้าได้เจอกันก่อนหน้านี้จะไม่ปล่อยมือไปเลยค่ะ

หลังจากลงเซรั่ม เราก็จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวต่อด้วย


 Kiehl's  

 Ultra facial oil-free gel cream 

50 ml./ 1,400 บาท


มอยซ์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเนื้อเจลที่สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว 

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวโดยปราศจากน้ำมัน

ไม่ใช้พาราเบนเป็นวัตถุกันเสีย ไม่ผสมน้ำหอม ไม่อุดตันรูขุมขน

มีสารสกัดจากรากหญ้าคา แอนตาร์กติซีน (Antarcticine) 

และสารสกัดจากแตงกวา ที่ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้น และทำให้ผิวเย็นสดชื่น

Kiehl's กระปุกนี้เป็นเจลครีมเนื้อเบา ที่ทาแล้วให้ความรู้สึกสบายผิว 

ซึมซาบไวมาก ๆ เวลาทาลงไปบนผิวจะให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น 

รู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น

เราว่าเจลกระปุกนี้ตอบโจทย์สำหรับคนผิวผสมอย่างเรามาก 

เพราะให้ความชุ่มชื้นได้ดี ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน ไม่ทำให้เกิดสิวเพิ่มด้วย 

และตัวสุดท้ายในขั้นตอนการบำรุงผิวของเรา คือ


 FYNE 

 Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream 

50 g./ 1,390 บาท


เซรั่มสูตรช่วยเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)

สูตรปรับปรุงใหม่ เพิ่มสารสกัด Centella Asiantica ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดียิ่งขึ้น 

เพิ่มเซราไมด์ 5 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว 

และมี Liposomal Delivery System ระบบนำพาสารให้ซึมลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น


ปราศจาก ซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ 

พาราเบน มิเนรัลออย สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว


จุดเด่นของเซรั่ม FYNE ขวดนี้คือการเสริมสร้าง Natural Skin Barrier ให้แข็งแรงด้วย

  1. Skin’s Lipid Barrier ด้วยเซราไมด์ คลอเลสเตอรอล โอเมก้า-3 ไตรกลีเซอร์ไรด์

  2. Skin’s Moisture Barrier ด้วย ไฮยาลูรอนิคเอสิด 4 ขนาดโมเลกุล กรดอะมิโน 11 ชนิด พีซีเอ โซเดียมพีซีเอ โซเดียมแลคเตต ซึ่งเป็นส่วนประกอบในเซลล์ผิวตามธรรมชาติ

  3. Skin’s Microbiological Barrier (จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์) ด้วยพรีไบโอติก

และมีสารแอนตี้ออกซิเดนท์จากธรรมชาติ เช่น ใบบัวบกเข้มข้น คาโมมายล์ 

ว่านหางจระเข้ อัลลันโทอิน ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง

เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น มีความเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นได้ดี 

ทาแล้วซึมลงผิวได้ค่อนข้างดี ช่วงแรกจะรู้สึกหนึบที่ผิวเล็กน้อย 

แต่พอเซรั่มเซ็ตตัวก็สบายผิว ไม่เหนอะหนะ


เราเคยใช้เซรั่ม FYNE Skin Barrier+ Prebiotic Serum in Cream สูตรเก่า

มาก่อนหน้านี้แล้วยังเฉย ๆ แต่พอมาใช้สูตรใหม่แล้วประทับใจกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ 

เพราะสูตรใหม่นี้ซึมซาบได้ดีขึ้น ให้ความชุ่มชื้นได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย 


พอใช้คู่กับตัว FYNE BHA Clarifying Serum 

แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่าใช้เดี่ยว ๆ ค่ะ 

ตัวนี้ช่วยให้ผิวแข็งแรง สิวใหม่ก็เกิดน้อยลง

ส่วนที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างในรูทีนของเราก็คือ ยาแต้มสิวนั่นเองค่ะ เราแนะนำ


 Provamed 

 Acne Retinol-A Gel 

5 g./ 99 บาท


เจลแต้มสิวสูตรสำหรับสิวอุดตัน ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ลดการอุดตันของสิว มี


Zinc PCA ช่วยควบคุมความมัน ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง

Tea Tree Oil และ NAB Willow Bark Extract ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P.acne 

Defensil สารสกัดจากพืชธรรมชาติ ช่วยลดการอักเสบแพ้และระคายเคืองผิว

ปราศจากน้ำหอม สี แอลกฮอล์ และซิลิโคน

เนื้อเจลออกสีขุ่น ๆ นิด ๆ แต่พอแต้มลงไปบนผิวก็จะกลืนหายไป 

สามารถทาระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบ


เราใช้เป็นประจำเช้าเย็น แต่ช่วงไหนสิวอุดตันเยอะมาก ๆ 

เราก็จะทาตอนกลางวันด้วยค่ะ 


ตัวนี้เรียกว่าเป็นลูกรักของเราเหมือนกัน 

เพราะเค้าช่วยให้สิวอุดตันหลุดออกได้ง่ายขึ้น

จริง ๆ เราก็แอบใช้กับสิวอักเสบด้วยนะ สิวแห้งไวขึ้นเลยค่ะ

ปิดท้ายรูทีนด้วยครีมกันแดด ขอเน้นย้ำว่าต้องทาทุกวันตอนเช้า ห้ามขาดเลยนะคะ 

เพราะรังสียูวีก็เป็นสาเหตุให้เกิดสิวเหมือนกัน ช่วงนี้เราใช้


 Biore  

 UV Barrier Me Mineral Gentle Milk SPF50 PA+++  

459 บาท / 50 มล.


เป็นสูตรที่เหมาะกับผิวบอบบาง อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ

กันแดดตัวนี้เราเคยรีวิวไปแล้วว่าใช้ดีมาก 

พราะสามารถป้องกันแสงแดดด้วยค่า SPF50 PA+++

ไม่เติมเอทิลแอลกอฮอล์ ไม่มีสี ไม่มีพาราเบน

ไม่มี Chemical UV Absorber เป็นสูตร Physical Sunscreen 

สามารถช่วยปกป้องผิวจาก PM2.5, UVA, UVB, Blue Light บางส่วน, 

ฝุ่น, ควัน และ กันน้ำอีกด้วย

เนื้อกันแดดเป็นเนื้อน้ำนมสีขาว บางเบา เมื่อเกลี่ยลงไปแล้วจะกลืนหายไปกับผิว 

ช่วยปรับให้ผิวสว่างขึ้นเล็กน้อย สัมผัสหลังทาจะรู้สึกเนียน ๆ ลื่น ๆ 

เหมือนมีฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิว แต่ไม่ได้เหนอะหนะอะไรค่ะ

และนี่คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวเราหลังจากใช้ 

Skincare routine นี้มาต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ


ที่เห็นชัดเลยคือ สิวลดลงไปเยอะมาก พวกสิวอุดตันค่อย ๆ โผล่หัวมาให้กดออกได้ง่าย 

สิวที่อักเสบ บวม แดง ก็ค่อย ๆ แห้งลง และดีขึ้นตามลำดับ

ส่วนรอยแดง ๆ ด้านบนภาพขวา คือสิวอุดตันเพิ่งหลุดเมื่อเช้าก่อนถ่ายภาพนี้เลยค่ะ

ตอนนี้เราพอใจกับผิวปัจจุบันมาก เรียกว่าดูดีที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกเลย 

เพราะก่อนหน้านี้สิวเยอะมากจริง ๆ ค่ะ ต่อจากนี้ก็คือการลดรอยสิวต่าง ๆ 

เพื่อให้ผิวกลับมาใสขึ้น


และนี่ก็เป็น Skincare routine ที่เราใช้ในช่วงนี้ 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีปัญหา และสภาพผิวเหมือนกันกับเรานะคะ


icecream_pb

icecream_pb

ice :)
Since 1991
.
follow me
FB : icepb place
IG : icepb

FULL PROFILE