เปิดหมดหน้าตัก 3 ไอเทมจากแบรนด์ JYUNKA ลดการระคายเคือง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวขั้นสุด!!
Wanviset 59 21 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
หลายครั้งที่เราไปนวดหน้ากับทาง JYUNKA และออกมาจากห้องด้วยความฟินและผลลัพธ์สุดปังจนอยากที่จะปรบมือรัวๆ ให้พี่ Therapist ซึ่งแน่นอนว่าในขั้นตอนการนวดนั้นนอกจากท่านวดเฉพาะของแบรนด์แล้ว สิ่งที่เราอยากรู้ที่สุดคือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในระหว่างทำทรีทเม้นต์ ว่าทางแบรนด์ใช้ผลิตภัณฑ์ใดบ้างถึงขนาดที่ทำให้ผิวเราดูชุ่มชื้น สุขภาพดี และลดการระคายเคืองได้ดีขนาดนี้
ซึ่งจากการที่แอบไปสืบราชการลับมาเราถึงรู้ว่าทาง JYUNKA ในคอร์ส A3 Treatment ที่เรานวดหลักๆ ทางแบรนด์จะใช้ 3 ไอเทมไม่ว่าจะเป็น A3 Concentrate - Extreme Hydratant Serum(สูตรใหม่) - A3 Cream เพื่อลดการระคายเคือง ลดผลกระทบจากมลภาวะ แถมยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น เราเลยอยากลองดูว่าถ้านำทั้ง 3 ไอเทมนี้เข้ามาเสริมใน skincare routine ของเราในช่วงที่ผิวกำลังเป็นสิวและใช้ยารักษาสิวอยู่จะให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้างนะ...?
ซึ่งจากการที่แอบไปสืบราชการลับมาเราถึงรู้ว่าทาง JYUNKA ในคอร์ส A3 Treatment ที่เรานวดหลักๆ ทางแบรนด์จะใช้ 3 ไอเทมไม่ว่าจะเป็น A3 Concentrate - Extreme Hydratant Serum(สูตรใหม่) - A3 Cream เพื่อลดการระคายเคือง ลดผลกระทบจากมลภาวะ แถมยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น เราเลยอยากลองดูว่าถ้านำทั้ง 3 ไอเทมนี้เข้ามาเสริมใน skincare routine ของเราในช่วงที่ผิวกำลังเป็นสิวและใช้ยารักษาสิวอยู่จะให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้างนะ...?
ก่อนจะไปพูดถึงส่วนผสมและผลลัพธ์เราขอพาทั้ง 3 ไอเทมมาทำความรู้จักกับเพื่อนๆ กันก่อนฮะ อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าทั้ง 3 ไอเทมนี้ล้วนอยู่ในคอร์สนวดหน้า A3 Treatment ที่เราโปรดปรานทั้งสิ้น แต่จะมีอะไรบ้างนั้นเราไปชมกันที่ละไอเทมเลยฮะ
- A3 Concentrate (1 Set/1,950.-) : แอมพูลสูตรเน้นการกระชับรูขุมขน พร้อมฟื้นฟูผิวที่ได้รับผลกระทบจากรังสี UV และมลภาวะ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเนียนละเอียด
- A3 Cream (30ml.) : มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเข้มข้นในไลน์เดียวกันกับ A3 ช่วยต่อต้านมลภาวะ ต้านอนุมูลอิสระ มอบความชุ่มชื้นและช่วยรูขุมขนดูผิวกระชับ
- EXTREME HYDRATANT SERUM (30ml./3,950.-) : เซรั่มเนื้อบางเบา เติมความชุ่มชื้น ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวเนียนละเอียด พร้อมลดความมันความเกินบนใบหน้า
ในแง่ของ Texture (เนื้อสัมผัส) ของแต่ละไอเทมนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น A3 Concentrate ที่อยู่ในรูปแบบ Watery Booster เนื้อน้ำๆ มีความบางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้ไวมากทีเดียวหละ และเสริมด้วย EXTREME HYDRATANT SERUM เซรั่มน้ำแดงสูตรใหม่ที่ปรับสูตรครั้งนี้สามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่าเดิม แต่ยังคงเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว ปิดท้ายด้วยการล็อคความชุ่มชื้นด้วย A3 Cream ที่มีเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเข้มข้น ใช้บำรุงผิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อปิดล็อคความชุ่มชื้นบนผิวและลดการสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างวันได้อย่างลงตัว
Active Ingredients
ในแง่ของส่วนผสมเรารู้สึกว่า JYUNKA เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใส่ส่วนผสมเท่าที่จำเป็น และพยายามตัดทอนส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองออกไปพอสมควร ซึ่งสารตัวนึงที่เรามองว่าค่อนข้างน่าสนใจและไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักอย่าง Marrubium Vulgare Extract ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากพืชตระกูลเดียวกับสะระแหน่ ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่ามีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ และการระคายเคืองที่เกิดจากมลภาวะ ฝุ่น-ละอองต่างๆ และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมี Humectant ที่ได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ อย่าง Sodium Hyaluronate ที่สามารถดึงความชุ่มชื้นจากภายนอกเข้าสู่ผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยหรือรูขุมขนที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นได้อีกด้วย / ปิดท้ายด้วย Caprylic/Capric Triglyceride เป็นกรดสองตัวที่สกัดได้จากมะพร้าว มีคุณสมบัติทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นตัวทำละลายวิตามินได้อย่างดีเชียวหละ
นอกจากนี้ยังมี Humectant ที่ได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ อย่าง Sodium Hyaluronate ที่สามารถดึงความชุ่มชื้นจากภายนอกเข้าสู่ผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยหรือรูขุมขนที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นได้อีกด้วย / ปิดท้ายด้วย Caprylic/Capric Triglyceride เป็นกรดสองตัวที่สกัดได้จากมะพร้าว มีคุณสมบัติทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นตัวทำละลายวิตามินได้อย่างดีเชียวหละ
จะสังเกตุว่าก่อนลงผลิตภัณฑ์ทุกสิ่งนั้นผิวเราค่อนข้างแห้งอยู่พอสมควร ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะช่วง 2 วีคที่ผ่านมาเราต่อกรกับสิวอักเสบอย่างสุดพลังเลยจริงๆ แต่เมื่อลงทุกขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยปรากฏว่า...ผิวโดยรวมมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สังเกตุเห็นความเปล่งปลั่งของผิวที่กระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอ ดูสุขภาพดี ต่างจากตอนแรกลิบลับเลยทีเดียวหละฮะ ซึ่งโดยส่วนตัวที่เราใช้ชีวิตในห้องแอร์บ้าง-พัดลมบ้าง ก็ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะผิว หรือมีความมันระห่างวันจนเกินพอดีฮะ ในทางตรงกันข้ามกับเก็บกักความชุ่มชื้นไว้บนผิวได้ยาวนานทีเดียวขอรับ (อย่างต่ำๆ ก็ 8-10 ชั่วโมงเลยหละ)
Conclusion
จากที่เราลองเพิ่มสกินแคร์ทั้ง 3 ไอเทมจากแบรนด์ JYUNKA ไม่ว่าจะเป็น A3 Concentrate - Extreme Hydratant Serum - A3 Cream เข้ามาใน Skincare Routine ช่วงนี้ของเราพบว่าให้ผลลัพธ์ในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีเกินคาดทีเดียวหละ ผิวโดยรวมกลับมาชุ่มชื้น-สุขภาพดี เปล่งปลั่งในเวลาเพียง 2-3 วันหลังจากที่ผิวเสียสมดุลจากการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว
ในแง่ของการระคายเคืองจากมลภาวะ และรังสี UV เราต้องออกตัวก่อนว่าในช่วงที่ผ่านมาคือช่วงที่เราแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านเลย (เศร้าเนอะ) ทำให้ผลกระทบเหล่านั้นแทบจะน้อยมากๆ แต่จะมีบ้างที่ต้องออกไปทำธุระในช่วงที่เพิ่งหายจากสิวอักเสบและแอบลุ้นว่าฝุ่น-ควัน ที่เจอในวันนี้จะกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้อย่างชิลๆ เลยหละฮะ
ส่วนเรื่องการกระชับรูขุมขนเราขอพูดในมุมของมนุษย์ที่ค่อนข้างมีรูขุมขนกว้างบริเวณจมูก ซึ่งเป็นมานานแล้วและส่วนตัวคิดว่าการใช้สกินแคร์น่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ยากขอรับ แต่หากพิจารณาในมุมมองของความอิ่มฟูของผิวที่เกิดจากการได้รับความชุ่มชื้นแบบสุดพลังขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยจริงๆ ที่จะทำให้ผิวโดยรวมดูอิ่มฟูและดูกระชับขึ้นไปเองโดยปริยายขอรับ
เราอาจจะติดอยู่บ้างในเรื่องของการใส่น้ำหอมเข้ามา ซึ่งถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วจากการที่ใช้มาตลอดก็ไม่พบอาการแพ้/ระคายเคือง แต่หากเป็นไปได้การไม่ใส่เข้ามาเลยน่าจะช่วยลดโอกาสแพ้/ระคายเคืองได้มากกว่าขอรับ และอย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เพื่อนๆ ได้เห็นในบทความนี้ Based-on สภาพผิวในปัจจุบัน, การดูแลตัวเอง, Lift Style รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ // ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ
ในแง่ของการระคายเคืองจากมลภาวะ และรังสี UV เราต้องออกตัวก่อนว่าในช่วงที่ผ่านมาคือช่วงที่เราแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านเลย (เศร้าเนอะ) ทำให้ผลกระทบเหล่านั้นแทบจะน้อยมากๆ แต่จะมีบ้างที่ต้องออกไปทำธุระในช่วงที่เพิ่งหายจากสิวอักเสบและแอบลุ้นว่าฝุ่น-ควัน ที่เจอในวันนี้จะกระตุ้นให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้อย่างชิลๆ เลยหละฮะ
ส่วนเรื่องการกระชับรูขุมขนเราขอพูดในมุมของมนุษย์ที่ค่อนข้างมีรูขุมขนกว้างบริเวณจมูก ซึ่งเป็นมานานแล้วและส่วนตัวคิดว่าการใช้สกินแคร์น่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ยากขอรับ แต่หากพิจารณาในมุมมองของความอิ่มฟูของผิวที่เกิดจากการได้รับความชุ่มชื้นแบบสุดพลังขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยจริงๆ ที่จะทำให้ผิวโดยรวมดูอิ่มฟูและดูกระชับขึ้นไปเองโดยปริยายขอรับ
เราอาจจะติดอยู่บ้างในเรื่องของการใส่น้ำหอมเข้ามา ซึ่งถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วจากการที่ใช้มาตลอดก็ไม่พบอาการแพ้/ระคายเคือง แต่หากเป็นไปได้การไม่ใส่เข้ามาเลยน่าจะช่วยลดโอกาสแพ้/ระคายเคืองได้มากกว่าขอรับ และอย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เพื่อนๆ ได้เห็นในบทความนี้ Based-on สภาพผิวในปัจจุบัน, การดูแลตัวเอง, Lift Style รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ // ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ