หวีดแรงกับแป้งผสมรองพื้น KIKO Milano คุมมันเริ่ด ปกปิดกริบ

Nutchalyn 19 มิ.ย. 64 52 23

อย่างที่รู้ๆกันค่ะว่า KIKO Milano นั่นเข้าไทยแล้ววววววววว ! หวีดมากกับโปรดักส์แต่ละตัว บตบก.ต่างประเทศใช้กันเยอะเพราะเค้าเป็นแบรนด์คสอ.อันดับ1 ของอิตาลี ใครเที่ยวโซนยุโรปก็ต้องรู้จัก หรือเห็นผ่านๆมาบ้างแล้ว ส่วนสาวๆไทยเราก็จ้องเล็งกันตาแตก เลือกไม่ถูกกันหละสิ ดีต่อใจไปหมด

สำหรับบางคนที่ยังไม่ค่อยรู้จักแบรนด์นี้ อย่างที่บอกไปเค้าคือแบรนด์สอ.อันดับ1

ของอิตาลีที่คุณภาพดีมากับราคาที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์มาก แล้วได้แรงบันดาลใจจากวงการแฟชั่นจากมิลาน นี่คือที่สุดด ส่งตรงจากรันเวย์ ไม่ว่าจะเป็นโปรดักส์ไหนก็มีครบทุกโทนสี หลากหลาย มีให้เลือกตรงกับที่เราต้องการ

แล้วแพคเกจจิ้งนี่ยืนหนึ่ง หรูหราดูแพง!

หลังจากที่หวีดกับตัว Multi Finish Eyeshadow ไปแล้ว ดิฉันก็ไม่วายจะลองโปรดักส์อื่น ใช่ค่ะ ราคาเป็นมิตรซื้อได้บ่อย 55555555555

สำหรับวันนี้ที่จะพูดถึงคือ “แป้งผสมรองพื้น”

KIKO Milano

Weightless Perfection Wet and Dry Powder Foundation

คือแป้งผสมรองพื้นเพื่อผิวเนียนแมทท์ ที่เนื้อละเอียด บางเบามาก แล้วน้องคือ Wet and Dry ใช้ได้ 2 แบบ ตอนเปียกฉีดสเปรย์น้ำแร่พอหมาดๆที่พัฟก็จะได้ฟีลปกปิดขึ้นอีกระดับ ส่วนแบบแห้งก็จะได้ผิวที่แมทท์ดูธรรมชาติ น้องเค้าช่วยคุมมัน

เหมาะสำหรับผิวธรรมดา - ผิวมัน

แล้วช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มี SPF30 ด้วยจ้าาา ~

อย่างที่เห็นแพคเกจคือมีความเรียบๆแต่ดูแพงและการดีไซน์ตลับแป้งของเค้าก็จะมีชั้นวางพัฟแยก เพื่อความสะดวกสบายและความสะอาด และฝาตลับของเค้าใช้ระบบแม่เหล็กด้วยนะ ล็อคทีคือแน่น ไม่อ้า ไม่หก

ส่วนพัฟของเค้าก็นุ่ม ไม่บาดหน้า จิกเนื้อแป้งดี แล้วมีกระจกในตัวเลย

ราคาแค่ 699.- ขนาดนี้ทุกคนว่าคุ้มมั้ยอะ 55555555

มาดูในเรื่องเฉดสีกันบ้างดีกว่า ....
เค้าออกมาทั้งหมด 8 เฉดสี กับ 3 Undertone เหมาะกับสีผิวคนไทย ไม่ว่าจะขาว - ผิวสองสี ผิวน้ำผึ้ง เนื้อแป้งของเค้าละเอียดตามคำเคลมเลย เนื้อนุ่มลื่นๆ สัมผัสถึงความบางเบา เหมาะกับทัชอัพ หรือแม้กระทั่งงานเนี๊ยบ คือยังไงก็เวิร์ค

จากที่ดูเฉดสีแล้วเฉดที่ตรงกับผิวนัทมากที่สุดก็ N60 “ Neutral 60” ค่ะ ส่วนเฉดอื่นๆที่สว่างๆก็ทาจุดที่ต้องการให้ไบร์ทขึ้น ส่วนที่เข้มกว่าผิวนัทมาหน่อยก็เอาคอนทัวร์พอกรุบๆ เพราะเฉด Warm Rose 90 ก็ไม่ได้เข้มกว่าสีผิวนัทเท่าไหร่ พอทำให้หน้าดูมีมิติขึ้นิดนึง

มาลงที่ผิวกันให้ดูชัดๆ

นัทลงแบบแห้งนะคะ และค่อยๆกดลงผิวจะเห็นได้ว่าปกปิดรอยช้ำใจได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หากใช้แบบเปียกคงกริบกว่านี้แน่นอน รู้สึกสบายผิว ไม่หนักหนาเลยค่ะ ผิวเนียนแบบธรรมชาติ ^^” ส่วนเนื้อแป้งของเค้าทำได้ดีมาก ผิวไม่ได้แมทท์จนแห้ง ให้แมทท์ที่ผิวสวย

อีกแบบนึงคือลงหลังจากรองพื้นค่ะ

จะเห็นได้ว่า เพิ่มการปกปิดขึ้นมา แต่ไม่ได้ทำให้ผิวดูหนาเลย

แต่งหน้าเสร็จนัทก็มีธุระพอกรุบๆออกไปข้างนอก หลังจากกลับมา ประมาณ 3 ชั่วโมงถัดไป ผิวยังแมทท์อยู่แต่มีความมันออกที่หน้าเล็กน้อย ปกตินัทหน้ามันเร็วมาก ยิ่งแดดร้อนๆแบบนี้คือต้องซับแล้วอะ แต่ตัวนี้ปลื้มมากก ส่องกระจกคือผิวยังปังนะ คุมมันเริ่ด

นัทก็ได้ทำการใช้กระดาษซับมันเทียบให้ดูเป็นช่วงเวลา

ทั้งก่อนลงแป้ง หลังลงแป้ง หลังลงแป้งผ่านไป 3 ชั่วโมง และ แต่งหน้าโดยไม่ใช้แป้ง ซึ่งผลลัพธ์มันเกินคาดมากค่ะ ยิ่งนัทเป็นคนหน้ามันมาก ซับออกมาช่วง 3 ชั่วโมง ถือว่าประทับใจมาก และแป้งก็หลุดน้อยมากๆด้วย