เปรียบเทียบครีมกันแดด 100% NON-CHEMICAL ตัวดังในวัตสัน!

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เมย์ขอมาเอาใจสำหรับคนที่สนใจครีมกันแดดไร้สารเคมี (100% NON-CHEMICAL) จะบอกว่าเมย์เองก็เลือกใช้กันแดดแบบนี้ เพราะเราเป็นคนที่หน้าแพ้ง่าย เลยต้องการกันแดดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งวันนี้เมย์จะเปรียบเทียบกันแดดตัวดังที่มีขายในวัตสันที่ใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีเนื้อ คุณสมบัติที่แตกต่างกัน ใครที่กำลังเล็งหรือลังเลว่าจะซื้อตัวไหนดี? ตามมาดูเมย์รีวิวเลยค่า..

ครีมกันแดด 3 ตัวดังที่เมย์จะรีวิว คือนี่เลยค่า
1. BK SENSI PERFECT PROTECTION SUNSCREEN SPF 50+ PA++++

2. SMITH PRIVE' AESTHETIQUE TOTAL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++

3. SMOOTH E PHYSICAL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++ (BEIGE COLOR)

เริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ BK SENSI PERFECT PROTECTION SUNSCREEN SPF 50+ PA++++ ตัวนี้เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำที่เมย์ใช้บ่อยที่สุด เพราะเป็นกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย 100% NON-CHEMICAL อ่อนโยนใช้ได้กับผิวเด็ก ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม ไม่มีแอลกอฮอล์ พาราเบน สเตียรอยด์ สารแต่งสี น้ำมัน และน้ำหอม ส่วนเรื่องการปกป้องผิว ก็คือปกป้องผิวครบจบแบบ X5 ไปเลยจ้า

-มี SPF 50+ PA++++ ปกป้องผิวจาก UVA1 UVA2
-ปกป้องผิวจาก UVB
-ปกป้องผิวจากรังสี IR PROTECTION
-มีสารช่วยปกป้องผิวจากรังสี BLUE LIGHT
-ปกป้องผิวจากฝุ่น PM 2.5 มลภาวะ ด้วย POLLUSTOP

ส่วนเรื่องเนื้อนี่เมย์ปลื้มเป็นพิเศษเลย ตรงที่เป็นเนื้อน้ำ เกลี่ยง่าย บางเบาสบายผิว ตอนแรกที่เกลี่ยก็ตกใจกับความขาวเว่อวังนะ55 แต่หลังจากเกลี่ยเสร็จแล้วเนื้อจะเนียนกลืนไปกับผิวเลย และที่ชอบคือทำให้หน้าสว่างขึ้นมาอีกระดับ เหมือนเป็นโทนอัพในตัว หลังจากทาครีมกันแดด BK SENSI เสร็จแล้วก็แต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ ซึ่งช่วยในเรื่องการคุมมัน ไม่เป็นคราบ หรืออุดตันผิวด้วย อันนี้คือให้คะแนน 10/10 เลยค่ะ ตัวนี้ดีงามมากทาได้ทั้งผิวหน้า ผิวกายเลยนะคะ

ขนาด 25 g. ราคา 289 บาท

ตัวต่อมาเป็นครีมกันแดดของหมอโอ๊ค SMITH PRIVE' AESTHETIQUE TOTAL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++ ตัวนี้เป็นครีมกันแดดเนื้อมูส มีส่วนผสมของซิลิโคนเล็กน้อย สูตรปราศจากสารเคมี ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว ช่วยป้องกันการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว มี SPF 50+ ปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB Infrared และ Blue Light

เมย์ชอบตรงเป็นเนื้อมูส ทำให้มีความบางเบา นุ่มมากกก ซึมไวสุด ทาแล้วเนียนเรียบไปกับผิวทันที หลังจากทาแล้วไม่ทำให้หน้าเปลี่ยนสี เหมาะมากกับคนที่มีผิวเข้ม ตัวนี้คุมมันได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าหากมีการแต่งหน้าต่อ แป้งพัฟจะไม่ค่อยติดหน้า อาจต้องใช้กระดาษซับมันหรือเติมแป้งในระหว่างวัน  ทำให้เมย์หยิบครีมกันแดดตัวนี้มาใช้ตอนอยู่บ้านชิวๆ เพราะเนื้อบางเบาสบายผิวมาก

ขนาด 30 g. 684 บาท

ตัวสุดท้ายคือ SMOOTH E PHYSICAL SUNSCREEN SPF 50+ PA+++ (BEIGE COLOR) เป็นครีมกันแดดปราศจากสารกันแดดชนิดเคมี 100% มีเนื้อ 2 สี คือ สีขาว และ สีเบจที่ช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น สามารถใช้แทนครีมรองพื้นได้เลย ตัวนี้ทาปุ๊บแล้วออกแดดได้ทันที มีประสิทธิภาพกันแดดได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องทาซ้ำ มี SPF 50+ ปกป้องผิวจาก UVA UVB มีสารสกัดจากธรรมชาติ 7 ชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามิน A B C และ E ให้ผิวชุ่มชื้น ลดปัญหาริ้วรอยด้วย

ตัวนี้เป็นครีมกันแดดเนื้อรองพื้น (สีเบจ) เกลี่ยง่าย ที่เมย์ชอบคือทาแล้วช่วยปกปิดจุดด่างดำ รอยสิวที่ไม่เข้มมากได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแบบ All in one คือเป็นครีมกันแดด บำรุง และรองพื้นในตัว

ขนาด 15 g. ราคา 325 บาท

ส่วนอันนี้จะเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นเนื้อของครีมกันแดด 3 ตัวแบบชัดๆจ้า ซึ่งเมย์ขอสรุปเป็นข้อๆ ตามนี้เลยค่ะ

✔️การคุมมัน
BK SENSI > SMITH > SMOOTH E
✔️ความสว่างหลังทา
BK SENSI > SMOOTH E > SMITH
✔️ความบางเบาของเนื้อ
SMITH > BK SENSI > SMOOTH E
✔️การปกปิดจุดด่างดำ
SMOOTH E > BK SENSI > SMITH

เมย์หวังว่าจะเป็นไกด์ไลน์ให้กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจซื้อครีมกันแดด 100% NON-CHEMICAL ไม่มากก็น้อยน๊า ยังไงเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเองเลยค่ะ แต่ถ้าถามเมย์ว่าชอบตัวไหนมากที่สุด? ก็จะเป็นครีมกันแดด BK SENSI เลยค่ะ เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนชอบครีมกันแดดที่ช่วยโทนอัพผิวให้กระจ่างใสขึ้น และคุมมันได้ดีค่ะ เหมาะจริงๆ นะคะ สำหรับคนที่เป็นสาวผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้สบายๆ และเขายังมีผลการทดสอบอีกด้วย ผ่านการทดสอบ Dermotologically Tested  ผ่านการทดสอบ Hypoallogenic และเด็กๆ 3 ขวบก็ใช้ได้เลย

ส่วนเพื่อนๆชอบตัวไหนก็เม้นบอกเมย์กันได้น๊า..❤️