นับวันแสงแดดและรังสี UV ยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ทำให้การปกป้องผิวจากแสงแดดต้องจริงจังมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอก็ยังคงเป็น 1 ในปัญหาผิวที่หลายคนได้พบเจอและเหนื่อยใจกับการแก้ปัญหา รวมถึงตัวเราเองก็เช่นกันทั้งที่เราคิดว่าดูแลผิวตัวเองดีแล้ว แต่ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง

และอย่างที่รู้กันว่าปัญหาเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอเป็นเรื่องที่จัดการยาก และมีโอกาสเกิดซ้ำเราจึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่น่าเชื่อถือ มีงานวิจัยรองรับ คาดหวังผลได้จริงและแน่นอนว่าราคาต้องเข้าถึงได้ สุดท้ายเลยมาลงตัวที่ 2 ไอเทมอย่าง tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch และ Tyroderm Cream ด้วยความที่เป็นแบรนด์เวชสำอางค์จากประเทศเกาหลีที่มีการค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก I'LL Global labotory ร่วมกับมหาวิทยาลัย Dankook และคลินิค รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ซึ่งเราเองก็ชอบอะไรแนวนี้อยู่แล้ว แถมส่วนตัวก็เคยใช้และชอบผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้อยู่เป็นทุนเดิมเลยสั่งซื้อมาใช้แล้วพบว่าให้พบลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวหละ

Top 5 Triggers for Melasma

ก่อนจะไปเข้าเรื่องผลิตภัณฑ์เราขอหยิบเอาสารเหตุบางประการที่อาจก่อให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจากที่เราพบเจออยู่บ่อยครั้งจะมีด้วยกันอยู่ 5-6 เรื่อง อาทิ ฮอร์โมน, รังสีUV, การอักเสบ, การรับประทานยาบางประเภท, Visible Light และอาจรวมถึงพันธุกรรมซึ่งในข้อสุดท้ายเราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว

ดังนั้นในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำให้ได้ผลดีที่สุดนั้นเราควรหาต้นเหตุที่มาของมันให้ได้ก่อนว่า ปัญหาที่เรามีนั้นเกิดจากปัจจัยใดบ้าง เราจึงจะสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่างตรงประเด็น แต่แน่นอนว่าการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและจำเป็นต้องใช้ความอดทน ใช้ระยะเวลา ความสม่ำเสมอ และในบางเคสก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาควบคู่ไปด้วยนั่นเองอะ

Product Detail

tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch(7 Pairs/1,280.-) : นวัตกรรม Brightening เฉพาะจุดในรูปแบบ Patch ที่ผสานนวัตกรรม Polymer Matrix Patch ช่วยส่งเสริมให้ active ingredient ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ซึ่งเป็นการกักเก็บ Active Ingredients ไว้ใน Polymer matrix ที่จะทำหน้าที่ในการควบคุมการปลดปล่อยของตัวยาออกจาก Patch อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถติดได้แนบสนิทไปกับผิวหนัง ไม่หลุดง่ายและไม่รู้สึกเจ็บตอนลอกออก

tHermoCEUTICAL Tyroderm Cream(15ml./1,060.-) : มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ทางแบรนด์ดีไซน์ออกมาเพื่อลดจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอที่มีถึง 3 กลไกลการทำงาน คือ ช่วยป้องกันการก่อตัวของจุดด่างดำบนผิว ช่วยรักษารอยด่างดำ และช่วยปลอบประโลมผิว แถมยังได้รับการรับรองโดย The Ministry of Food and Drug Safety (MFDS) จากประเทศเกาหลีใต้  

ในแง่ของเนื้อสัมผัสส่วนตัวแล้วถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว เมื่อพิจารณาถึงส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามาแบบ Non-Stop แต่ในขณะเดียวกันกลับทำเนื้อสัมผัสออกมาได้เบาสบายผิว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ และไม่รบกวนกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันแม้แต่น้อย

Active Ingredients

ก่อนจะตัดสินใจซื้อเราก็ลองนั่งไล่ดูส่วนผสม(เหมือนเพื่อนๆ นั่นแหละ) แล้วพบว่าสารสกัดแต่ละตัวที่ทางแบรนด์เลือกใช้ใน 2 ไอเทมนี้อยู่ใน A List เรื่อง Brightening ทั้งนั้นเลย แต่เพื่อไม่ให้บทความยาวจนเกินไปเราจะขอเลือกมาอย่างละ 3-4 ตัวแล้วกันครับ

เราขอเริ่มที่ tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch กันก่อนเลยดีกว่าฮะ ภายในตัว Polymer Matrix Patch ทางแบรนด์ได้ผสมผสานสารออกฤทธิ์ที่น่าสนใจไว้หลายตัวไม่ว่าจะเป็น Tranexamic Acid ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่ามีคุณสมบัติในการยับยั้ง melanocyte เพื่อไม่ให้สร้างเม็ดสีเมลานีน / นอกจากนี้ยังมี COS-VCE หรือที่หลายคนอาจคุ้นในชื่อ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid มีฤทธิ์ให้ผิวกระจ่างใสด้วยกระบวนการลด Tyrosinase ส่งผลให้การเกิดเม็ดสี Melanin ลดลง

สารอีกตัวที่เรามองว่าค่อนข้างน่าสนใจคือ Alpha-melight ที่อุดมไปด้วย Alpha-Bisabolol ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองและต่อต้านเชื้อจุลทรีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดจุดด่างดำเลยแหละ / ปิดท้ายด้วย MakeWhiteTM หรือสารสกัดจากใบบัวบกที่มีฤทธิ์ช่วยสมานแผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบ ลดรอยหมองคล้ำ รอยดำ/แดงของผิวได้ดีทีเดียวหละ

มาต่อกันที่ tHermoCEUTICAL Tyroderm Cream ที่เปิดประเดิมด้วย Niacinamide หรือ Vitamin B3 ที่มีกลไกการทำงานหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมเซลล์ผิวของเราหลังโดนแสงยูวีทำร้าย ลดการเกิดสิว และปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว / Scutellaria Baicalensis Root Extract สารสกัดจากรากสคิวลาเลีย ไบคาเลนซิส ที่มีสารออกฤทธิ์คือ Baicalin ซึ่งมีประโยคมากมายกับผิวอาทิ กระตุ้นการแบ่งตัวของ fibroblasts (เซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน และโครงสร้าง extracellular matrix) รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว

อีกตัวที่น่าสนใจทางแบรนด์ให้ชื่อว่า Vitamin Peptide ซึ่งจากที่เราหาข้อมูลและไล่ดูส่วนผสมจะเป็น Phytopeptide ที่เกิดจากการรวมตัวกันของ Nicotinoyl Dipeptide-22 กับ Niacin ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น / ปิดท้ายด้วย Physavie ที่ได้จากการผสมผสาน Physalis Angulata Extract และ Caprylic/Capric Triglyceride ที่ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยป้องกันและปลอบประโลมผิวจากความเสียหายจากแสงแดดและความร้อน รวมถึงช่วยให้ผิวมีเกราะป้องกันจากมลภาวะได้อีกด้วย

How to use..

มาพูดถึงวิธีการใช้กันบ้าง...แน่นอนว่าเราไม่ใช้คนบัญญัติ แต่นี่เป็นขั้นตอนการใช้ที่ทางแบรนด์แนะนำมาและจากที่เราลองก็พบว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีทีเดียวหละ

• เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดใบหน้า ซับหน้าให้แห้งและเช็ดโทนเนอร์เพื่อปรับค่า pH บนผิว

• ติด Tyroderm Patch ลงบริเวณที่ต้องการ และติดไว้ประมาณ 5-8 ชั่วโมง ส่วนตัวแล้วเรามักจะติดไว้เวลานอนจะได้ฟื้นฟูผิวตลอดทั้งคืน แต่ใครจะติดตอนกลางวันก็ไม่ผิดนะ เพราะ Tyroderm Patch สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ด้วยหละ(แต่ก็ยังต้องทากันแดดอยู่นะขอรับ) 
• หลังลอกออกก็บำรุงผิวตามปกติพร้อมทา Tyroderm Cream ในบริเวณที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอเป็นประจำ ทั้งเช้า-ก่อนนอน 

Conclusion... 

โดยส่วนตัวแล้วเรามีฝ้าบริเวณใต้ตาค่อนข้างชัด แถมช่วงนี้หลังจากสิวอักเสบดีขึ้นก็ทิ้งรอยแดงและรอยดำเอาไว้ให้ดูต่างหน้า เพราะงั้นเราเลยใช้ทั้ง tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch & Cream อย่างต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ร่วมกับการทากันแดดพบว่า...

พอเราเอาภาพมาเทียบกันระหว่างภาพด้านซ้าย(ก่อนใช้) และภาพด้านขวา(หลังใช้ tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch & Cream 3 weeks) สิ่งที่สายตาเราสังเกตุเห็นความแตกต่าง คือ ความเข้มของฝ้าบริเวณใต้ตาจางลงไปพอสมควร แต่ยังมีสิ่งน่าตะลึงกว่านั้นนั่นคือรอยแดงและรอยดำจากสิวอักเสบที่เคยมีอยู่กลับอันตรธานหายไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน

ซึ่งพอลองมาพิจารณาถึงส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามาทั้ง Tranexamic Acid, Vitamin Peptide, COS-VCE, Alpha-melight และ MakeWhiteTM เราก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจุดด่างดำและสีผิวที่สม่ำเสมอของเราถึงได้ดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาในเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์เพราะอย่างที่เราบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าส่วนผสมแต่ละตัวนั้นถือเป็น A Lists ที่เน้นในเรื่องความกระจ่างใส ลดการอักเสบ ลอยรอยหมองคล้ำ และซ่อมแซมเซลล์ผิวของเราหลังโดนแสงยูวีทำร้ายทั้งนั้น แถมทางแบรนด์ยังใส่เข้ามาแบบไม่มีกั๊กจนเราแอบรู้สึกว่ามันคือเซรั่มในรูปแบบ Patch & Cream หรือเปล่านะ

และอย่างที่เราบอกไปแล้วในตอนต้นว่าปัจจัยการเกิดฝ้านั้นมีเยอะมาก ซึ่งในปัจจุบันทางการแพทย์เองก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงทั้งหมดได้ อย่างในกรณีของเราที่ตอบสนองต่อการใช้ tHermoCEUTICAL Tyroderm Patch & Cream ได้ค่อนข้างดี แต่ในบางเคสที่เป็นฝ้าลึกอาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำหัตถกรรมควบคู่ไปด้วย เพราะเราเชื่อว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ร่วมกับการใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้ Sunscreen เพื่อปกป้องผิวจาก UV และ HEV จะสามารถลดความเข้ม ลดขนาด และควบคุมให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอนั้นไม่กลับมาเป็นซ้ำในอนาคตขอรับ

แต่ก็อย่างที่เราบอกมาตลอดว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว การดูแลตัวเอง ไลฟ์สไตล์ และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นย่อมแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขอรับ ส่วนในเรื่องอาการแพ้/ระคายเคือง เราไม่สามารถตอบได้เพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน เราแนะนำว่าก่อนทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่ท้องแขนหรือลำคอการใช้บนใบหน้าขอรับ