เคล็ดไม่ลับในการรับมือกับการสร้างความสัมพันธ์ของคนดังจะเป็นเช่นไร  ลองมาฟังคำแนะนำของพวกเค้ากันเลยสิคะ!

Blake Lively: ปฏิบัติต่อคนรักให้เหมือนกับเพื่อนซี้

หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า พวกเค้าคือคู่รัก A-Lister ที่ยืนหนึ่งเรื่องการแกงกัน โดยเฉพาะมุกจิกคุณภรรยาแบบของ Ryan ที่เรียกเสียงหัวเราะจากชาวเน็ทได้ทุกครั้ง แต่อารมณ์ขันเจ็บแสบของพระเอกชื่อดังนั้นก็ทำให้บางคนสงสัยว่า Blake ไม่รู้สึกโกรธหรือมองว่าสามีล้ำเส้นบ้างเลยหรือ?


และนี่คือคำตอบของเธอ

Blake อธิบายว่า  พวกมุกตลกที่เกี่ยวกับลูกๆหรือว่าครอบครัวที่เห็นกันจากtweet ของ Ryan นั้นไม่ใช่เรื่องจริง  ( แฟนๆก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว  ประเภททิ้งลูกไปเที่ยว Disneyland  แล้วเอามาเล่าให้ลูกฟังอะไรทำนองนั้น)

"เขาเล่นมุกเพื่อทำให้ฉันขำกลิ้ง  แล้วฉันก็รักเขามากๆเลยที่เขียนอะไรแบบนั้นออกมา  คือว่า ฉันก็หลงรักเขาแทบจะตลอดเวลาเลยนะ  แต่ที่รู้สึกรักเป็นพิเศษก็เรื่องความฮานี่แหละ"

"ตอนที่เคยคบกับคนอื่น  ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมา  ฉันจะโทรไปหาเพื่อนสาวหรือไม่ก็พี่สาวเพื่อจะปรึกษาว่า  ฟังนะ เขาทำแบบนี้แบบนั้น  ฉันจะต้องทำยังไงดี?   แต่เมื่อได้มารักกับเขา   ซึ่งเราคบกันเป็นเพื่อนมาสองปีกว่าจะเริ่มเดทกันค่ะ   ฉันจึงปฏิบัติกับเขาเหมือนกับเป็นเพื่อนสาวคนหนึ่ง    ฉันจะบอกไปเลยว่า   เรื่องราวมันเป็นแบบนี้   มันทำให้ฉันรู้สึกแย่นะ   นี่คือสิ่งที่ฉันคิด  แล้วฉันควรทำยังไง? สำหรับเขาก็เหมือนกันเลยค่ะ เขาจะปฏิบัติกับฉันเหมือนว่าฉันเป็นเพื่อนซี้ของเขา"

ฝั่งคุณสามีก็แชร์คำแนะนำสอดคล้องกันว่า

"เราไม่ได้ถืออีกฝ่ายเป็นจริงเป็นจังจนเกินไปครับ  แต่เราก็เป็นเพื่อกันด้วย     การตกหลุมรักมันช่างวิเศษ  แต่ประเด็นสำคัญคือ คุณชอบอีกฝ่ายรึเปล่า?  มันเป็นเรื่องที่คุณจะต้องถามตัวเองนะ  จะพัฒนาความสัมพันธ์ เราต่างก็ชอบกัน   เราเติบโตไปด้วยกัน  เราเรียนรู้จากกันและกัน ใช่แล้ว ผมโชคดีมากที่มีเพื่อนซี้ในความสัมพันธ์นี้"

ไม่ได้มีแต่ Ryan เท่านั้น troll แม่ของลูกด้วยสารพัดมุก แต่อีกฝ่ายก็ troll กลับแบบเจ็บแสบไม่แพ้กัน เรียกว่าเฮฮากันถ้วนหน้า เรื่องที่บอกว่ามองอีกฝ่ายเป็นเพื่อนซี้นั้นไม่น่าจะเกินจริงแต่อย่างใด   

Taylor Swift: ให้เวลาตัวเองเพื่อเว้นว่างจากการสร้างความสัมพันธ์ซะบ้าง

superstarสาวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาหลายปีตั้งแต่ยังเป็นสาววัยรุ่นว่า ไม่สามารถคบกับผู้ชายคนไหนได้นาน และยังถูกกล่าวหาว่า เธอทำตัวเป็นสาวเจ้าปัญหาจนถูกทิ้งรัวๆ เจ้าตัวยังเคยนำเรื่องนี้มาแต่งเป็นบทเพลงยอดนิยมซะด้วยซ้ำ แต่แม้จะมีเสียงจิกกัดเรื่องเปลี่ยนผู้ชายบ่อย แต่เอาเข้าจริง เมื่อเปรียบเทียบกับหนุ่มสาวคนดังแห่ง Hollywood Taylor ก็ไม่ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวเรื่องการเดทเป็นลำดับต้นๆด้วยซ้ำไป แต่อาจจะเป็นเพราะว่า เธอมักปิ๊งกับหนุ่มร่วมวงการและดึงดูดความสนใจจากสังคมจนกลายเป็น topic ร้อนแรงแทบทุกครั้ง ในขณะที่นางเอกสาวชื่อดังอย่างEmma Watson ออกเดทกับหนุ่มมามากกว่า Taylor ซะอีกแต่ไม่ถูกจับผิดจนรู้สึกแย่


เพราะถูกพิพากษาเรื่องชีวิตความรักไม่มีหยุด เมื่อหลายปีก่อน Taylor ก็เคยเชื่อว่า หากอายุก้าวขึ้นเลข 3 แล้ว เธอก็ยังจะครองสถานะความโสดไว้ เพราะถึงจะพบคนถูกใจ แต่เขาคนนั้นคงไม่อยากรับมือกับกระแสกดดันจากสื่อ ส่วนตัวเธอก็ถูกจิกกัดว่าบ้าผู้ชายจนเลือกที่จะเข้าmodeความโสด

"เมื่อฉันคบกับใครสักคน และค่อยๆเรียนรู้ไปว่าเราเข้ากันไม่ได้หรือความสัมพันธ์มันไปไม่ไหว เราจึงต้องเลิกกัน มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับหนุ่มสาววัย 20 แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับฉันก็กลับกลายมาเป็นข่าวฉาว"

"ฉันว่าการหยุดพักเรื่องความสัมพันธ์ไม่ต้องคบหาใครไปสักพักนั้นเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน คุณจะต้องพยายามทำความเข้าใจว่าคุณเป็นคนเช่นไร ฉันพยายามจัดระเบียบความคิดว่าจะรับมือกับปัญหาตัวเองยังไง แทนที่จะคอยมาใส่ใจกับความรู้สึกนึกคิดหรือตารางงานของคนอื่น มันก็ได้ผลนะคะ"

หลัวจากTaylorต้องคอยโต้ตอบคำกล่าวหาว่าไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ยืนยาวได้ ถึงขนาดถูกตั้งฉายาว่า 'serial dater'    เธอได้เว้นว่างจากการออกเดทไปเกือบๆ 2  ปีและหวนคืนสู่ชีวิตรักอีกครั้ง  แม้ว่าจะต้องรับมือกับการเลิกรา (ซึ่งเป็นเรื่องปกติสุดๆ)  แต่ในที่สุด เธอก็พบกับ  Joe Alwyn   พระเอกหนุ่มอังกฤษที่คบกันแบบ low profile มาราวๆ 5 ปี  ท่ามกลางความเชื่อของแฟนๆว่า เขาคนนี้คือ Mr. Right  ที่Taylor ยึดมั่นเป็นแรงบันดาลใจแต่งเพลงรักหวานซึ้ง และเขายังรับหน้าที่ช่วยเธอแต่งเพลงด้วยการใช้นามแฝงอีกด้วย

Tom Hanks: ให้ความสำคัญกับการทำสิ่งเล็กๆน้อยๆให้กัน

คู่สามีภรรยาที่ใช้ชีวิตกันยาวนานและขึ้นชื่อเรื่องความรักหวานแหววจนคนรุ่นหลังมองด้วยความอิจฉาและยกให้เป็น relationship goal แน่นอนว่า พวกเค้าย่อมได้รับคำถามเรื่องเคล็ดลับการครองคู่ที่เต็มไปด้วยความสุขมาถึง 33 ปีมาแล้วหลายครั้ง


"ผมมองภรรยาในฐานะคนรัก  ความผูกพันของพวกเรานั้นลึกซึ้งเหนือการบรรยายด้วยถ้อยคำ ไม่ว่าจะเป็นคำว่าภรรยา แฟนสาว หรือคุณแม่   ผมจินตนาการชีวิตที่ปราศจากเธอไปไม่ออกเลยครับ"   

"ผมมักจะทิ้งโน้ตไว้ตรงที่โทรศัพท์ของเธอ หรือมุมหนึ่งในห้องครัว  เป็นข้อความอวยพรให้เธอมีวันดีๆหรืออะไรประมาณนั้น   ผมจะพิมพ์ข้อความให้เธอด้วยพิมพ์ดีดแบบโบราณที่เป็นสะสม   นอกจากนี้ ผมยังติดนิสัยส่งภาพเพื่อรายงานเรื่องราวชีวิตประจำวันให้Ritaรู้   ตอนที่เธอไม่ได้อยู่ข้างๆ ผมจะถ่ายรูปนู่นนี่ส่งถึงเธอ  อย่างรูปอาหารที่กินตอนเที่ยง  คนที่ผมเจอ  หนังที่ผมถ่ายทำ  ผมคิดว่าเธอชอบนะครับ"

พระเอกเจ้าของฉายา 'คุณพ่อของชาติ' ยังยืนยันว่า  พวกเค้าตกลงใจที่จะไม่โกหกกัน

"เมือนานมาแล้ว เราได้พบเคล็ดลับในการใช้ชีวินคู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และนั่นคือการพูดความจริงเสมอ"

เขายังอธิบายหลักการรักษาความสัมพันธ์อันยืนยาวไว้อย่างเรียบง่ายว่า จะต้องเริ่มต้นด้วยความชื่นชอบในตัวตนของอีกฝ่าย เขาโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ภรรยารักเขาไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะมีรูปร่างผอม หรืออ้วนลงพุง มีผมดกเต็มศีรษะหรือหัวล้าน ส่วนตัว Rita เองก็เคยแชร์โมเมนท์แห่งความประทับใจ เมื่ออยู่ดีๆสามีก็บอกว่า เพื่อจะอยู่เคียงข้างกันแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแม้แต่น้อย

(นี่จะถือว่าเป็นคำแนะนำได้หรือไม่ เราก็ยังไม่แน่ใจ เพราะการพบรักกับคนที่ยอมรับในตัวตนของคุณได้ทุกอย่าง โดยไม่คาดหวังให้ปรับตัวเข้าหากันหรือแก้ไขจุดบกพร่องนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ใกล้เคียงกับคำว่าเป็นไปไม่ได้)


บางคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินว่า เมื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตสมรสในปีที่ 29Tom และ Rita เคยฟ้องร้องแทบลอยด์ดังอย่าง National Enquirer และ Star ที่ตีพิมพ์ข่าวโคมลอย กล่าวหาว่า Tom แอบมีความสัมพันธ์สุดฉาวกับ Meg Ryan ทำให้พวกเค้าแยกกันอยู่และเตรียมตัวหย่าเร็วๆนี้ พวกเค้าโต้กลับด้วยกฎหมาย และประกาศว่า ไม่สามารถปล่อยผ่านการปั้นเรื่องเหลวไหลผ่านไป เพราะได้สร้างรากฐานของครอบครัวมาจากการใช้ชีวิตสมรส ซึ่งพวกเค้าถือว่าถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถล่วงเกินได้

สื่อทั้งสองจำใจต้องประกาศขออภัยด้วยคำอ้างยอดฮิตว่า 'ไม่ได้ตั้งใจ' (แต่พาดหัวข่าวหน้าปกตัวเบ้อเริ่ม!) และแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องบนหน้าข่าวของตัวเอง

Rihanna: คาดหวังเกินไปก็ไม่work (work work work work)

สำหรับนักธุรกิจทรงอิทธิพลผู้นี้ เธอช่างมีบทบามที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรี(ในอดีต) สร้างแบรนด์จนกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน รับตำแหน่งวีสตรีแห่งชาติ แต่บางคนอาจจะคาดไม่ถึงว่า  Rihanna  จะถูกไหว้วานให้เป็นที่ปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์บ่อยๆ

"มีคนขอให้ฉันแนะนำเรื่องการคบหาหนุ่มๆมาแล้วหลายครั้ง ฉันคิดว่าเมื่อคนเราได้เริ่มทำความรู้จักกันก็เอาแต่ยึดติดว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนแปลงไปได้ยังบ้าง พอไม่ได้ดั่งใจ พวกเค้าก็รู้สึกผิดหวังเต็มประดา"

"คนเราสามารถพัฒนาตัวให้ดีขึ้นได้ หรือจะทำตัวย่ำแย่ลงไปได้เหมือนกัน คุณจึงต้องเปิดใจยอมรับตัวตนในปัจจุบันของพวกเค้า พูดง่ายๆก็คือ ถ้าคุณพยายามจะเปลี่ยนแปลงคนที่กำลังคบอยู่ไปแล้วเรียบร้อย พวกเค้าก็คงไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับคุณแล้วล่ะ"

Victoria Beckham: ยึดมั่นความเท่าเทียม

Posh and Becks คือคู่รักทรงอิทธิพลที่สามารถก้าวผ่าน scandal สะเทือนโลกมาได้จนถูกยกให้เป็นแบบอย่าง relationship goal แห่งวงการบันเทิง ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมา 22 ปี ทั้งคู่ยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าสามีภรรยาคนใดก็เคยต้องรับมือกับปัญหามาแล้วทั้งนั้น



เมื่อ 3 ปีก่อน David ยอมรับว่า กว่าจะมีชีวิตคู่ที่ยาวนานขนาดนี้ ก็เป็นงานหินเหมือนกัน พวกเค้าต้องไกลห่างกันเพราะเรื่องการงาน จึงต้องหาทางทำให้ลงตัว

"แน่นอนว่าคนเราก็ทำผิดพลาดกันได้  เราต่างรู้ดีว่า บางครั้งชีวิตการแต่งงานก็ต้องพบกับความยากลำบาก  แต่สิ่งสำคัญคือการพยายามรับมือกับมัน เราเคยผ่านช่วงหนักหน่วงมาก่อน  แต่เรารู้จักตัวตนกันดีกว่าคนอื่นๆ และเราก็พูดคุยปรึกษากัน"

Victoria เน้นย้ำมาหลายครั้งแล้วว่า ครอบครัวคือสิ่งที่ค่าที่สร้างความผูกพันแข็งแกร่ง เธอและสามีให้ความสำคัญกับลูกๆเป็นอันดับแรก และพยายามใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุดเมื่อมีโอกาส แม้จะมีตารางงานที่รัดตัว

"ฉันพยายามอย่างมากมาย  มุ่งมั่นตั้งใจที่สุดทำหน้าที่แม่   ฉันพยายามทำตัวเป็นภรรยาที่ดีสุดและเป็นมืออาชีพที่เก่งที่สุด  เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันจะวางโทรศัพท์เพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกๆและDavid"

"ฉันได้รับการสนับสนุนจากสามีผู้ยอดเยี่ยม   เรามีบทบาทที่เท่าเทียมกันทุกประการในการดูแลลูกๆที่บ้าน   เมื่อฉันต้องไปทำงานที่อื่น  เขาจะเป็นฝ่ายคอยรับส่งเด็กๆและทำอาหาร"

แม้หน้าที่การงานจะทำให้ต้องห่างจากกันไปบ้าง ต่เมื่อจัดตารางตรงกันได้ ก็จะใช้เวลาเพื่อใช้เวลาพร้อมหน้าพร้อมตาดูอบอุ่น ทั้งสองมักจะหยอกล้อกันผ่านผ่านการภาพบน social media โดยเฉพาะฝ่ายคุณภรรยาที่แกงคุณสามีบ่อยๆ หรือนานๆทีก็แบ่งปันภาพติดเรทให้ชาวเน็ทซู่ซ่า สอดคล้องกับคำแนะนำของเธอที่ว่า อยู่กันได้ยืดเพราะสามารถทำกิจกรรมด้วยกันอย่างสนุกสนานนั่นเอง

The End