ช่วงปลายปี 2021 ค่ายตึกชมพูอย่าง SM นางก็ทิ้งระเบิดสุดปังลูกเบ้อเริ้มด้วยการฟอร์มเกิร์ลกรุ๊ปยูนิตใหม่ที่มีสมาชิก 4 เจนมารวมกัน ในชื่อว่า GOT (Girls on Top) ซึ่งสมาชิกแต่ละคนเรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของแต่ละเจนกันเลยทีเดียว ได้แก่ โบอา แทยอน ฮโยยอน ซึลกิ เวนดี้ วินเทอร์ และคาริน่า

ซึ่งแต่ละคนน้านนน พลังเสียงสุดยอดมากค่าา เสียงร้องอันดับท็อปๆ ของวงการเพลงเกาหลีเลย พอปีใหม่ปุ๊บก็ปล่อยเพลง Step Back ออกมาแบบเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว ว่าจะไฮโน้ตท่อน Level เป็นใครดี

เคยได้ยินวงการติ่งเกาหลีเค้าพูดว่า เจนหนึ่ง เจนสอง เจนสาม เจนสี่ มั้ยคะ? หลายคนที่ไม่ได้ติดตามวงการ K-POP เท่าไหร่อาจจะงงว่า เอ๊าา เค้ามีแบ่งเจนกันด้วยหรอ แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครอยู่เจนไหน?

จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เจน ก็มาจาก Generation ที่แปลว่ารุ่นนั่นเอง! และอย่างที่รู้กันว่าวงการเคป็อปมีมาหลายปี ก็มีไอดอลหน้าใหม่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ เหล่ารุ่นพี่ก็จะเป็นเจนต้นๆ และรุ่นน้องที่เพิ่งเดบิวต์ก็จะเป็นเจนหลัง เจนก็จะแบ่งจากปีที่เดบิวต์หรือปีเกิดของไอดอลเป็นหลัก ซึ่งเจนเปลี่ยนเมคอัพก็มีการเปลี่ยนตามด้วยนะ!

1st Generation ยุคบุกเบิก K-POP

เคป็อปเจนหนึ่ง จะเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 1990s - 2000s ต้นๆ วงแรกที่บุกเบิกเลยก็คือ Seo Taiji and Boys กับเพลง I Know ได้ทำเพลงสไตล์ใหม่ เอาดนตรีป็อปแบบตะวันตกเข้ามาผสม ทำให้ศิลปินคนอื่นๆ เริ่มทำเพลงแนวนี้บ้าง เป็นช่วงการทดลองสไตล์และการเต้นที่หลากหลาย

ไอดอลหญิงที่ดังมากในยุคนั้นก็คือ BoA (โบอา) เดบิวต์ในปี 2000 พอดีเป๊ะ หรือเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง Baby V.O.X เมคอัพในยุคนั้นยังคงคอนเซ็ปต์แต่งหน้าใสๆ ถ้าไปดูเอ็มวีแล้วแทบจะเหมือนไม่แต่ง (แต่ยังแต่งอยู่นะ!)

การแต่งหน้าในยุคแรกน่าจะได้อิทธิพลมาจาก J-POP พอสมควร สังเกตได้จากคิ้วเรียวโก่งสไตล์สาวญี่ปุ่น การแต่งหน้าที่เน้นความสดใสของดวงตาในแบบธรรมชาติ ด้วยมาสคาร่าเพิ่มความงอนแต่ไม่ต้องหนา อาจใช้อายแชโดว์แบบชิมเมอร์เพิ่มประกายให้ดวงตาบ้าง และตบด้ายด้วยลิปกลอสสีสดใส

2nd Generation ยุค K-POP เป็นที่รู้จัก

เจนสองเริ่มในประมาณปี 2003-2010 การเดบิวต์ของวงทงบังชินกิ หรือ TVXQ จุดกระแสวงการเคป็อปให้บูมมากขึ้น ตามมาด้วยวงอื่นๆ เช่น Bigbang, Wonder Girls, 2ne1, Super Junior, Girls Generation, SHINee, After School, 4minute , Miss A, 2PM โอ๊ยยย เรียกว่าเยอะมากกกก (มีแต่วงชื่อคุ้นๆ🤣) เป็นช่วงที่กระแสเคป็อปเริ่มดังทั่วเอเชีย

การแต่งหน้าในเจนนี้จะค่อนข้างหลากหลาย ตามแต่คาแร็คเตอร์ของวงนั้นๆ ยังคงมีความผสม J-POP อยู่บ้าง แต่เริ่มมีแนวทางของตัวเองแล้ว บางวงยังคงคอนเซ็ปต์แต่งหน้าใสๆ ลุคธรรมชาติ ปากโทนชมพู แต่งแบบดูเหมือนน้อย แต่ชั้นแต่งนานนะแกรร และก็เริ่มมีการกรีดอายไลน์เนอร์

3rd Generation ยุค K-POP โด่งดังทั่วโลก

เจนสามเริ่มประมาณปี 2011-2018 เป็นช่วงที่เคป็อปโด่งดังไปทั่วโลก ฟีเวอร์สุดๆ ในยุคนี้จะมีความครีเอทีฟและโมเดิร์นขึ้น ผสานดนตรีหลากหลายเข้าด้วยกัน รวมถึงเริ่มมีคนเชื้อชาติอื่นเข้ามาเป็นสมาชิกในวง (จากยุคแรกที่มีแต่คนเกาหลีเท่านั้น) เช่น EXO, Blackpink, BTS, Twice, Red Velvet, iKON, GOT7, Winner, Apink 

การแต่งหน้าของไอดอลในเจนสาม เริ่มมีความโดดเด่น มีสไตล์เป็นของตัวเอง จนเกิดคำว่า "แต่งหน้าแบบสาวเกาหลี" สิ่งที่เห็นได้ชัดคืองานคิ้วเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ต้องโก่งเรียวเล็กอีกแล้ว แต่เพิ่มความหนาของคิ้ว และเป็นเส้นตรง ทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย จนเกิดคีย์เวิร์ดสุดฮออต นั่นก็คือ "เขียนคิ้วแบบเกาหลี"

เมคอัพมีหลากหลายตามแต่สไตล์ของวง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันแทบจะทั้งหมดคือการแต่งหน้าแบบเน้นงานผิว ต้องมีความฉ่ำโกลว์ ให้ผิวฟู ดูสุขภาพดี ที่กลายเป็นเทรนด์ไปทั่วโลก ไฮไลต์ คอนทัวร์ กันแบบธรรมชาติสุดๆ แบบแทบจะมองไม่ออก ไม่ได้มีความเอะอะหนังปลาทู

4th Generation ยุค K-POP กับความหวังใหม่

เจนสี่หรือเจนล่าสุด เป็นกลุ่มไอดอลที่เริ่มเดบิวต์ในปี 2019 จนถึงปัจจุบัน เช่น aespa, TXT, STAYC, Everglow, ITZY, (G)I-DLE, IZ*ONE ไอดอลในวงจะเป็นคน Gen Z ทั้งหมด (เกิดปี 2000 เป็นต้นไป) เจนสี่จะเริ่มมีความแฟนซีหรือเทคโนโลยีเข้ามาผสม มีความแปลกใหม่ เป็นเหมือนความหวังใหม่ เช่น aespa จะมีการใช้ AI เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ในเจนนี้ยังคงมีอะไรใหม่ๆ รอให้เราติดตามอยู่อีกมาก แต่ที่เห็นได้ชัดคือการแต่งหน้าของเจนนี้จะเริ่มมีความยูนีค ฉีกออกจากกรอบเดิมๆ ที่เคยมีมา เป็นตัวของตัวเองกันอย่างโดดเด่น

อย่างในช่วงปีที่ผ่านมา Graphic Eyeliner กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง และวงน้องใหม่อย่าง StayC ก็แต่งออกมาได้อย่างลงตัวสุดๆ จนแฟนคลับเกาหลีหลายด้อมชื่นชม

อันนี้ก็เป็นเพียงจากการสังเกตของเราเท่านั้นนะคะ ถ้าเพื่อนๆ มีมุมมองอื่นหรือดีเทลตั่งต่างมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ :)