กราบสวัสดีจีบันนิสต้าทุกคนนน หายไปนานเลยฮือ 555 ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เหนื่อยมากจริงๆ และคิดว่า หลายคนก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน แต่ด้วยความโชคดีของพวกเราและความน่ารักของบ้าน Jeban หลังนี้ เลยส่งไอเทมฮีลใจ และ JebanBeautyHits2021 มาทำ Review Challenge ร่วมป้ายยากับเพื่อนๆ และวันที่เขาให้ Publish คือ 17 มกราคม เป็นวันเกิดเราพอดี ขออภัยที่ไม่ได้มาไม่ตรงเวลาฮือ วันนี้เลยขอหยิบไอเทม JebanBeautyHits2021 มาลอง ‘แต่งหน้าใสๆ ไปทำบัตรประชาชนรับวันเกิด’ เผื่อใครจะหยิบไปแต่งตามและพิสูจน์ว่า ไอเทมที่เราได้รับมา ปังจริงอย่างที่เค้าว่ากันไว้รึเปล่าาา

และไอเทมที่เราได้มาก็คืออออ

รองพื้น

 GIORGIO ARMANI Luminous Silk Foundation  

อันโด่งดังนั่นเอง เป็นรองพื้นเนื้อลิคขวิด ปราศจากน้ำมัน มาพร้อม Micro-fil technology ช่วยให้เม็ดสีวางเรียงบนผิวได้แบบไร้รอยต่อ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าไหมแพรพรรณ ทั้งบางเบาและเปล่งประกายมาจากภายใน จนกลายมาเป็นรองพื้นขวดนี้นี่เอง

เนื้อสัมผัส เขาจะเป็นเนื้อลิคขวิด บางเบา ปาดเกลี่ยง่ายไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ จะใช้นิ้วมือ แปรง หรือฟองน้ำก็เกลี่ยได้สบาย 

การปกปิดสำหรับเรา เราว่าอยู่ในระดับ Light to Medium สามารถไล่เลเยอร์การปกปิดเพิ่มเติมได้ 

เฉดสีที่เราได้มาเป็นเบอร์ 3.5 Fair ,warm แอบเข้มกว่าผิวหน้าจริงเล็กน้อย แต่พอทาแล้วจะพอดีกับคอ ถ่ายรูปจริงแล้วออกมาดูเป๊ะมากกก สีโทนเหลืองเข้ากับผิวเอเชียกำลังดี ไม่สว่างหรือเข้มจนเกินไปเลยค่ะ 

ฟินิชผิว ที่ได้จะมีความเป็นงานผิว แบบเซมิแมตต์ ไม่แมตต์จ๋า มีความเล่นแสงเปล่งประกายแบบกำลังดีเลย

เดี๋ยวเรามาเริ่มแต่งลุคเบาๆ ไปทำบัตรประชาชนกันนน

หลังจากทาบำรุงและครีมกันแดดเรียบร้อยแล้ว

ขอมาหน้าสดพร้อมกับรองพื้น GIORGIO ARMANI Luminous Silk เริ่มต้นใช้ด้วยการเขย่าขวดจากนั้นกดประมาณ 4-5 ปั๊ม ใช้นิ้วมือทาให้เนื้อรองพื้นคลุมทั่วผิวหน้าและลำคอ จะเห็นว่าให้ฟินิชแนบเนื้อเปล่งประกายแบบงานผิวธรรมชาติได้เลย แต่ถ้าใครอยากได้ลุคที่แน่น ปกปิดมากขึ้นมาอีกนิดจะเพิ่มเลเยอร์ทาอีก 1-2 รอบก็ได้เด้อ

รอยบางๆ แทบจะถูกกลบไปหมด แต่รอยหนักอย่างรอยคล้ำใต้ตายังคงเห็นอยู่บ้าง เลยเพิ่มความกริบด้วย ลิปส้ม 1 ชั้น แล้วตามด้วย คอนซีลเลอร์ It Cosmetics Bye Bye Under Eye  แท็บๆ ด้วยนิ้วหรือแปรงแบนๆ 

จากนั้นเก็บกรอบหน้าด้วยคอนทัวร์ครีม MTI จากตรงขอบแล้วค่อยๆ แท็บๆ ไล่ความเข้มจากด้านนอกมาด้านใน ก่อนจะเซ็ตความคุมมันและทนทานด้วย แป้งฝุ่น CUTE PRESS Evory Snow Translucent Loose Powder

ต่อมาก็แต่งตาด้วยอายแชโดว์ TOO FACED Born This Way The Natural Nudes เริ่มจากสี Seashell มาเป็นเบสทาทั่วเปลือกตาบนและขอบตาล่าง จากนั้นทา Shimmering Pearl เนื้อชิมเมอร์บางๆ ทั่วเปลือกตา แต่เน้นหนักๆ ช่วงกลางๆ และหัวตา จบด้วยสี Cocoa บริเวณหางตา 

ต่อไปก็งานขนตา เริ่มจากการดัดขนตา แล้วต่อด้วย ปัดมาสคาร่า KISS ME Heroine Make Long Up Mascara Super Waterproof หลับตาเขียนอายไลเนอร์ด้วย Kiss me Heroine Make Prime Liquid Eyeliner Rich Keep ให้ชิดโคนขนตาปลายหางตาเฉียงยกขึ้นเล็กน้อย

ส่วนคิ้วเราใช้ดินสอเขียนคิ้วของ Etude House Drawing Eye Brow เบอร์ 2 เขียนขอบล่างและหางคิ้ว ถมด้านในเบาๆ แล้วใช้แปรงอีกฝั่งถูไล่สีจากหางเข้มมาหัวคิ้วอ่อนลง 

ปล. จริงๆ จะแต่งสีไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่แนะนำไม่ต้องแต่งตาเข้มมาก หรือ มืดจัด เพราะอาจทำให้ตาดูดุหรือมีอายุ แต่ถ้าใครชอบก็แต่งตามสบายเลยเด้อ

เก็บโครงหน้าและเติมสีสันให้ใบหน้าด้วย HOURGLASS Ambient Lighting Edit Sculpture Limited 2020 ใช้บรอนเซอร์ทาเก็บตามกรอบใบหน้าและสันจมูก ใช้ไฮไลท์ปัดบริเวณหน้าผาก จมูก ริมฝีปากบน คาง และช่วงหน้าแก้ม จะมีความละมุนกำลังดี ไม่ต้องปัดไฮไลท์เว่อร์แบบถึงขั้นจะไปจักรวาลเด้อ ส่วนแก้มก็ทาทั้งสองสีผสมกันจากกรอบหน้าไล่เข้ามาช่วงหน้าแก้มให้อ่อนลง 

ปิดท้ายด้วยลิปสติก Burberry kisses 15 pink sunrise สีชมพูกุหลาบละมุนดูสุภาพให้ทั่วริมฝีปากเท่านี้ก็เรียบร้อยยย

ฟินิชชช 

ก็จะประมาณนี้เลย มีความผิวสวยไม่หนาโบ๊ะบ๊ะ ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ แต่งกับองค์ประกอบอื่นแล้วปั๊วะมาก คิดว่า รองพื้นตัวนี้สามารถใช้ได้ ตั้งแต่ Everyday Look ชีวิตประจำวันทั่วไป หรือ ออกงานต่างๆ (ที่ไม่หนักถึงขั้นรับปริญญา) ก็โอเคเลยเด้อ

ภาพจากกล้องหน้าโทรศัพท์มือถือ 

แม้ว่า จะถ่ายออกมาติดเหลืองบ้าง (เป็นที่มือถือเราเองฮือ) 

แต่เรื่องความเรียบเนียน สม่ำเสมอ และฟินิชผิวถือว่า ผ่านเลย 

. 

เดี๋ยวเรามาดูภาพกันดีกว่าว่า 

ถ่ายลงบัตรประชาชนแล้วจะเป็นไงบ้าง

แอบบางเบาไปหน่อยมั้ยนิ เห็นแต่ปากกับหัวเปล่งแสง คือไร๊ 555555 

แต่จะบอกว่า เดินทาง – รอกว่าจะได้ทำก็หลายชั่วโมงอยู่ (เริ่มรอคิว 09.36น. เสร็จประมาณ 14.30 น.) แต่ผิวก็ยังคงสวยแทบไม่ดรอป ไม่ต้องแวะเข้าห้องน้ำหรือถอดแมสก์ออกมาเติมหน้าบ่อยๆ ให้เสี่ยงโควิด ;w;

ปล. ของเรารอนานเพราะไม่ได้จองล่วงหน้าก่อนไปด้วย เราวอร์คอินเข้าไปทำเลย โดยส่วนของวอร์คอินเขาจะรับแค่คนที่ได้บัตรคิวหน้าสำนักงานเขตตอนเช้าต้องไปตั้งแต่เริ่มเปิดสำนักงานเขต 08.00 น. กับ คนที่บัตรประชาชนหมดอายุ/ใกล้หมดอายุ (60 วันจะหมดอายุแล้ว) เพราะงั้น แนะนำให้จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอปพลิเคชั่น BMAQ (สำหรับคนอยู่กรุงเทพฯ) หรือ บนเว็บ (สำหรับคนอยู่ต่่างจังหวัด) ลองเสิร์ชกูเกิ้ล ‘จองคิวทำบัตรประชาชน’ จะเจอเว็บแรก อันนี้คือได้ทำตามวันเวลาที่ตัวเองจองไว้แน่นอน

ส่วนตัวผิวผสม มีรอยแดงบ้างนิดหน่อยก็ถือว่า ผ่านนะคะ กลบรอยบางๆ และสีผิวไม่สม่ำเสมอได้ค่อนข้างดี แต่ถ้ารอยหนักยังจำเป็นต้องใช้คอนซีลเลอร์อยู่เด้อ ส่วนความทนระหว่างวันมีหลุดติดแมสก์บ้าง แต่ไม่เยอะ รวมๆ แล้วยังสวยอยู่ (สวยอยู่ = สวย) ถ้าไม่ถูก็แทบไม่หลุด แต่ยังไม่เคยใช้ไปลุยหนักมากเท่าไหร่ ถ้าวันทั่วไปให้ผ่านเลย

เรื่องที่เด่นของตัวนี้เราว่า เป็นเรื่องความบางเบา ฟินิชผิวดี และคุมมันดี ยิ่งช่วงอากาศเย็น ถ้าไม่ต้องใส่แมสก์คิดว่าไม่ทาแป้งก็น่าจะคุมมันกำลังดีสำหรับผิวผสมแบบเรา ยิ่งทาตัวนี้+แป้งฝุ่นยิ่งคุมมันได้ดีไปอีก (เหมือนผิวจะแอบแห้งลงเบาๆ ด้วยแหะ) ลองซับแบบเต็มที่ความมันก็แทบไม่หลุดออกจากผิว รวมๆ แล้วเราว่า คนที่ผิวมัน-ผิวผสมน่าจะถูกใจรองพื้นขวดนี้เลยแหละ แต่ถ้าผิวแห้งอาจจะต้องบำรุงเตรียมผิวมาดีๆ ก่อนลงรองพื้นตัวนี้นิดนึง หรือเลี่ยงในช่วงผิวกำลังแห้งมากแค่นั้นเอง

ส่วนดรอประหว่างวันมั้ย ในภาพเราลองเทสต์ให้ดู ผ่านไป 10 ชั่วโมง เหมือนจะดรอปไปแค่ประมาณครึ่ง - 1 เฉด สำหรับเรายังถือว่า โอเคอยู่นะคะ เวลาใช้ทาบนผิวหน้าไม่ได้ถึงขั้นหมองจนรู้สึกได้

รวมๆ แล้วก็อยากแนะนำสำหรับ ผิวมัน-ผิวผสมสำหรับคนที่ต้องการรองพื้นเกลี่ยง่าย บางเบา มีความกำลังดี ทั้งเรื่องฟินิชผิวสวย ไม่แมตต์เว่อร์ และการปกปิดอยู่ในระดับกลางๆ เพิ่มเลเยอร์ได้ และคุมมันดี ตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลย

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณบ้านจีบันที่น่ารักเสมอ และขอขอบคุณทุกแบรนด์สุดแสนจะใจดี โดยเฉพาะ GIORGIO ARMANI ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสนับสนุนให้พวกเราได้สร้างสรรค์รีวิวมาป้ายยาให้เพื่อนๆ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันค่ะ ที่สำคัญคือ ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวจีบันนิสต้าทุกคนที่ช่วยเติมเต็มให้บ้านหลังนี้อบอุ่นมากขึ้นด้วยการส่งกำลังใจให้กันเสมอมา ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3